15 พฤศจิกายน 2552 14:41 น.
ปรางทิพย์
ด้วยเป็นชาวพุทธฯ ถึงจะไปอยู่ที่ไหน ก็ตาม... วัดเป็นสถานที่หนึ่งที่คนไทยจะไปรวมกันอยู่
และก็แน่นอน วันสำคัญทางศาสนา ก็จะทำข้าวปลาอาหาร ขนม ต่าง ๆ ไปรวมกัน
หลังจากงานบุญแล้ว คนที่ไปได้ก็จะกลับมาบอกเล่าความเป็นมา พบปะใครบ้าง ผู้คนมากแค่ไหน
เพราะบางคนที่ไม่สามารถไปได้ ก็จะฝากปัจจัยไปร่วมทำบุญด้วย
เช่นกันกฐินครั้งนี้ เขาจัดกันขึ้น เสร็จจากงานบ้างก็สนุกสนาน บ้างก็อิ่มบุญ
เช้าวันจันทร์ ก็มาจับกลุ่มคุยถึงเรื่องราว ไต่ถามกันตามประสาหญิงไทยที่นี่
ก็มีสามีฝรั่งกันเป็นส่วนใหญ่ บ้างก็สอนภาษาไทยให้ บ้างก็ไม่สอนให้
อาหารคาว หวานที่เอาไปร่วมก็มากมาย จัดเรียงไว้เลี้ยงอย่างเหลือเฟือ
ตามแบบฉบับคนไทยมีน้ำใจน่ะ
พี่ดา พาสามีไปด้วย ท่านชอบลิ้มลองรสชาดอาหารไทย แต่ออกจะเป็น
คนที่ดื้อมาก พอถึงเวลาที่จะร่วมรับประทานอาหาร ก็ต่างคนต่างออกไป
ตักอาหารกันเอง พี่ดาเธอทราบว่า สามีไม่รู้จักอาหาร อาสาจะไปตักมาให้
แต่ท่านปฏิเสธ ก็ไปตักข้าวราดผัดสะตอกุ้งสดมา....
ที่ตักมาก็เห็นว่าเป็นกุ้งตัวโตน่าอร่อย มีสะตอสีเขียวตัดสีสัน น่ารับทาน
พี่ดาก็ห้ามสามีว่า อย่าเลย (แต่ในใจพี่ดาคิดเพียงว่า สะตอ กว่าจะส่งมามันยาก
ราคาก็แพง ฝรั่งทานไม่ได้แน่นอน เก็บไว้ให้คนที่อยากรับทาน น่าจะดีกว่า)
แต่ท่านก็ดื้อ เกือบได้เปิดศึกย่อม ๆ กัน สรุปพอกลับมาที่โต๊ะ ท่านรับทาน
ไม่ได้ตามคาด ก็โดนพี่ดาเทศแทนพระเจริญพรไปหนึ่งจบ เพื่อน ๆ ก็รู้แล้ว
ว่าสองสามีภรรยาคู่นี้ เป็นคู่กัดกัน จึงได้แต่อมยิ้มไม่ออกความเห็น
ท่านทานไม่ได้ จึงกลับไปตักอีกรอบ กลับมาพร้อม ๆ กับจานข้าวใหม่ เที่ยวนี้
ทุกคนอึ้งไป คนทีมีอาหารในปากจะกลืนก็ไม่ลง ได้แต่มองกันไปมา คือ...
ท่านตักข้าว มีฝอยทอง ทองหยอด ทองหยิบ ราดมา ตามด้วยน้ำเชื่อม
"เนี่ย....ชั้นลองชิมแล้ว คิดว่ามันทำมาจากไข่ หวานไม่เผ็ดเหมือนจานเมื่อกี้
อาหารไทยเนี่ย ดีนะเค้าคิดเผื่อไว้สำหรับคนกินเผ็ดไม่ได้ ยอดจริง ๆ "
คนที่ไม่ได้ไปร่วมงานด้วยขำกันน้ำตาไหลเชียว เฮ้อ.....
ไอ้หนึ่ง....แทรกมาว่านั่นแปลกหรือ แล้วของหนูล่ะ พวกพี่ ๆ ตอบหน่อยแปลกมะ
สามีของหนึ่งเป็นมังสวิรัสมาก่อน เพิ่งมาเปลี่ยนตอนแต่งงานกับไอ้หนึ่ง เริ่มทานเนื้อสัตว์บ้าง
ฝรั่งกับขนมปังเป็นของคู่กัน ฝรั่งจะทานสลัดผักกับขนมปัง เป็นหลัก
บนโต๊ะก็จะมีผักไทยเรียงสำหรับแกล้มกับ ลาบ น้ำตก ยำต่าง ๆ มากมาย เห็นแล้วท่านก็ตรงไป
และกลับมาด้วยจานอาหาร ซึ่งไอ้หนึ่งพูดไม่ออก อยากร้องไห้ก็ไม่ได้ เป็นจานหนึ่งมีผักไทย
แตงกวา ใบโหระพา ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง ผักชีใบเลื่อย (บางบ้านเรียก
ว่ายี่หร่า) ผักแพรว มะเขือเทศ และหมูย่างที่ไอ้หนึ่งทำไปร่วม....อะไรนะเป็นสี่เหลี่ยมยาว ขาว ๆ
คล้ายเผือกเลย ไอ้หนึ่งคิด แจมด้วยขนมปังหั่นไว้ หั่นเป็นลูกเต๋า (พอนึกภาพออกนะคะ)
"คนไทยเนี่ยจัดสลัดได้น่าทานจริง ๆ ที่รัก....แต่ฉันหาน้ำสลัดไม่เจอ ฉันเห็นชามเนี้ย คิดว่าน่าจะ
เป็นน้ำสลัดนะ แต่เธออย่าไปบอกใครนะ มันหวานมากไปหน่อย อืม...หรือว่าคนไทยทานน้ำสลัด
กันหวาน ๆ แบบนี้หรือ" ไอ้หนึ่งเล่าไปน้ำตาร่วงไป มิใช่ว่าช้ำหรอก ขำแต่จำต้องเล่าให้จบก่อน
พวกพี่รู้มะ เค้าเอาลอดช่องน้ำกะทิราดมาบนสลัด แต่เชื่อมะ เค้าทานจนหมดจาน เลยถามว่า
เอาอีกมั๊ยที่รัก ท่านบอกไม่แล้ว รสชาดมันค่อยดีเท่าไรนัก เฮ้อ....