13 พฤษภาคม 2555 22:47 น.
ปรัมปุราณ
สุดอาลัยอาวรณ์เกินถอนภาพ
ที่เอิบอาบแนบชิดจนจิตเหลือ
เพียงเงาหวานจารอยู่เพื่อจุนเจือ
กอปรเลือดเนื้อหัวใจให้หยัดยืน
อยู่ในความเป็นจริงอิงรันทด
ไม่ให้หมดแรงใจในวันขื่น
รินน้ำตาก่อนหลับนับแรมคืน
รอวันฟื้นจากหล่มที่ตรมตรอม
เก็บซ่อนความคำนึงอันตรึงจิต
ด้วยแรงฤทธิ์พิศวาสมาตรถนอม
ท้ายก็ปลิดปลิวลงอย่างจำยอม
จากไปพร้อมหนึ่งใครในพริบตา
จนดาวเดือนคล้อยเคลื่อนลงเลือนลับ
ยากจักนับเดือนปีคะนึงหา
มโนภาพสองเราเฝ้าเวียนมา
พันธนาเกินบั่นให้บรรลัย
อาจเพราะกรรมเก่าก่อนมาย้อนผล
ตราบหลุดพ้นนานนับอสงไขย
ยินยอมรับวิบากอย่างเต็มใจ
พร้อมอภัยให้หมดเพื่อปลดกรรม
11 พฤษภาคม 2555 20:35 น.
ปรัมปุราณ
พิรุณแก้วหล่นร่วงจากห้วงหน
หยาดหยดบนกลีบมาลย์ยากทานไหว
แรงกระหน่ำเก็จแก้วซัดกลีบใบ
ดลดอกให้ช่อบางซบกลางดิน
หวั่นสัมพันธ์แห่งรักที่ถักไว้
ยั่งยืนจักแปรไปจนผันผิน
ไม่ต่างจากบุษบาต้องหยาดริน
ในหัตถ์วรรษาสิ้นซึ่งปราณี
ขอฝากคำพร่ำพรอดถึงยอดรัก
หวัง..คนภักดิ์..อยู่ไกลไม่หน่ายหนี
อาวรณ์หวามข้ามฟ้าเปี่ยมไมตรี
ทุกนาทีห่วงใยไม่สร่างซา
ว่าแต่ใจอีกดวงที่ห่วงนั้น
ยังอาทรผูกพันละห้อยหา
ถึงหนึ่งใจที่ไกลสุดสายตา
เช่นผ่านมารักหวานทั้งลานทรวง
พิรุณหยาดขาดช่วงมิร่วงแล้ว
มณีแก้วบอกลาฟากฟ้าสรวง
พลิ้วอารมณ์อ่อนไหวในแดดวง
ยังโหมห่วงว้าวุ่นครุ่นคำนึง
เพียงวลีสักน้อยจากกลอยขวัญ
หนึ่งคำมั่นในห้วงความคิดถึง
ก็เสมือนโซ่คล้องล่ามล้อมตรึง
อีกใจหนึ่งต่างฟากมิพรากกัน
รอรับสารแห่งรักจากอีกฟ้า
ทอดสัญญาสองใจไม่แปรผัน
ปฏิพัทธ์ทุกชาติตราบนิรันดร์
จวบอนันต์สิ้นภพจบวัฏฏา
9 พฤษภาคม 2555 17:57 น.
ปรัมปุราณ
แถนกำหนดชะตาให้อาภัพ
กี่รอบกัปเวียนวนบนสังสาร
ต้องทุกข์ทนชอกช้ำทรมาน
ปิดตำนานรักแท้แต่วัยเยาว์
เจตจำนงจงรักปรักสิ้น
ทิ้งอาวรณ์ถวิลเคียงวันเหงา
ไร้นิยามงดงามนามสองเรา
ภาพแนบเนาในฝันพลันมืดลง
ด้วยใยรักคลายเกลียวไม่เหนียวแน่น
เฝ้าหวงแหนกลับไม่สมประสงค์
เมื่อใจหนึ่งไร้ซึ่งความมั่นคง
รักยืนยงแค่ฝันไร้วันจริง
หรือว่าฟ้าสั่งวาสน์ให้ขาดช่วง
กำหนดทรวงสูญสิ้นจากทุกสิ่ง
แม้อุ่นไอหวังไว้ใช้แอบอิง
เพื่อประวิงอาลัยในวันวาน
ก็เป็นเพียงพิษพรากจากรอยเจ็บ
ที่กักเก็บสร้างแผลเกินสมาน
เพราะลึกล้ำจนเป็นอัประมาณ
ให้วิญญาณพังพ่ายตายทั้งเป็น
7 พฤษภาคม 2555 15:36 น.
ปรัมปุราณ
สายลมพลิ้ว..ลูบกาย..หมายสะท้าน
ถึงวิญญาณ..แห่งใจ..นัยย์คิดถึง
อันแนบซบ..กลางจิต..สนิทตรึง
ยังลึกซึ้ง..กว่าฟ้า..จันทราเดียว
เสียงกระซิบ..สายลม..ที่พรมพร่ำ
ปานลำนำ..แสนหวาน..ขับขานเกี่ยว
เพื่อร้อยรัด..พันธนา..หัวใจเดียว
ให้พ่วงเกลียว..อีกใจ..ไว้ด้วยกัน
วอนสายลม..อ่อนโยน..เยือนโพ้นฟ้า
อีกฟากหล้า..ห่างไกล..แต่ใฝ่ฝัน
ลมหอบนี้..จะโอบกอด..ยอดชีวัน
เพื่อแบ่งปัน..ไออุ่น..ละมุนละไม
3 พฤษภาคม 2555 08:55 น.
ปรัมปุราณ
กลีบผกา..แย้มบาน..ก่อนรานช่อ
ถูกภมร..เรี่ยล้อ..ดอมกลิ่นหวาน
พอดื่มด่ำ..มธุรส..หมดไอตาล
กุสุมาลย์...ก็โรย..โปรยเกลื่อนดิน
คือชะตา..บุปผา..ผู้อาภัพ
ต้องย่อยยับ..ด้วยหัตถ์..คนไร้ศีล
ถูกชมเชย..ทิ้งขว้าง..เป็นอาจิณ
ให้ด้าวดิ้น..แทบสิ้น..วิญญาณตน
เพราะไร้แรง..แข็งขืน..ขึ้นต่อต้าน
จากมือมาร..ปลิดปลง..ให้ร่วงหล่น
แม้นชอกช้ำ..ขมขื่น..จำฝืนทน
รับทัณฑ์บน..จากชาย..คนหลายใจ
หยาดน้ำตา..แต่ละหยด..ที่รดแก้ม
ผ่านคืนแรม..นับปีที่..เลื่อนไหล
แทนโลหิต..จากอก..ฟกช้ำใน
ตราบเมื่อใด..จักหยุด..สิ้นสุดราน
เหตุไฉน..ชายหนึ่ง..ซึ่งหมายว่า
จะปกป้อง..บุหงา..ดั่งคำขาน
ด้วยสัจจ์ที่..ให้ไว้..กับวันวาน
ตระบัด..พานสิ้นใย..ไร้อาวรณ์