3 ธันวาคม 2550 17:20 น.
ประภัสสุทธ
มาจะกล่าวถึงชาวนักศึกษา ผู้มีปริญญา
ร่ำเรียนเพียรมั่นเรื่อยไป
ตื่นเช้าหากเช้ายังใส ผ้าห่มคลุมใจ
หลับต่อค่อยตื่นลืมตา
เริ่มเรียนจึงเข้าชักช้า โดดเรียนธรรมดา
คาบหน้ามีอีกถมไป
ตกเย็นตะวันลับไกล ครึ้มอกครึ้มใจ
ก็เข้าร้านเหล้าตั้งวง
หมดตังค์ก็ขอแม่ส่ง บอกเทอมนี้ลง
วิชาตามอำเภอใจ
พ่อแม่ไม่คิดสงสัย ส่งค่าเทอมให้
แม้ทำงานเหน็ดเหนื่อยกาย
หวังพึ่งพาลูกก่อนตาย ตอนแก่คงสบาย
ไม่นานก็รับปริญญา
หมดสิ้นยุคนักศึกษา ตั้งแต่ตุลา
14 กับ 6 หรือไร
ความคิดจึงได้เปลี่ยนไป ทั้งจิตทั้งใจ
ทั้งตัวกระทั่งวิญญาณ
แต่ก่อนเจ้าช่างกล้าหาญ ต่อสู้คัดค้าน
กี่รัฐกี่พวกนายทุน
อีกยุคอีกยามอีกรุ่น อีกกี่บุญคุณ
เจ้าจึงจะกลับคืนมา
3 ธันวาคม 2550 17:16 น.
ประภัสสุทธ
ผิวผิวลิ่วปลิวลมลู่ยอดข้าว
สั่นส่ายรวงยาวยาวพลิ้วไหวไหว
นี่กอนั่นอีกกอล้อเล่นไป
ก่อเกิดคลื่นไสวข้าวรวงทอง
หนุ่มสาวเชิญมาสาวก้าวเกี่ยว
เคียวเดียวหรือจะสู้เคียวสอง
มากเคียวเดี๋ยวก็เกี่ยวมากกอง
ร่วมแรงเกี่ยวปรองดองคล้องเคียว
แก้วตาอย่ามัวเพลินเกี่ยวข้าวนัก
หยุดเคียวเอ่ยสักทักพักสักเดี๋ยว
นี่เกี่ยวเกี่ยวกำเกี่ยวไม่พักเชียว
พี่กริ่งเกรงว่าเคียวจะเกี่ยวเอา
พี่ยามีกอปี่ปี่ตอฟาง
เป่าคลอเคล้าน้องนางกลางแดดเผา
ปิ๊ดปี่ปิ๊ดปี่ปี่ ครางเบาเบา
กล่อมนางน้องนงเยาว์ให้ใจเย็น