14 ธันวาคม 2547 13:15 น.
ประภัสสุทธ
นั่งชมจันทร์คืนนี้ดูเศร้านัก
จันทร์ที่รักถูกเงาเมฆบังบดหาย
อยากจะเขียนอารมณ์อธิบาย
บอกบรรยายเป็นกลอนผ่านสายลม
ความในใจตอนนี้อึดอัดนัก
จะขจัดอย่างไรหมดไปได้
ทำไฉนให้จิตใจได้ผ่อนคลาย
จึงระบายความในใจใส่เป็นกลอน
คิดถึงเรื่องที่เราอยากจะเป็น
คือสิ่งที่เราเห็นและเป็นได้
เป็นสิ่งที่พิสูจน์ลูกผู้ชาย
มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับเรา
สิ่งนั้นคือความฝันอันสดใส
เป็นความฝันที่ไม่ไกลเกินทำได้
จะประกาศลือก้องอย่างไว้ลาย
คือหนึ่งคนที่ทำได้ให้เป็นจริง
อย่าหยุดคิดในสิ่งที่จะทำ
อย่าหยุดยั้งความตั้งใจที่จะเริ่ม
อย่าหวาดหวั่นความรู้สึกเช่นดังเดิม
จงหึกเหิมความกล้าให้เกิดมี
จงเชื่อมั่นในตัวของตัวเอง
จงอย่าเกรงและอย่ากลัวในสิ่งนั้น
จงทำลายความอ่อนแอให้หายพลัน
อุดมการณ์แห่งความฝันจะเป็นจริง
เมฆคล้อยไปจันทร์โผล่ดูแจ่มนัก
ให้ประจักษ์เห็นจริงในสิ่งนี้
อารมณ์รักนักกลอนตอนสุนทรีย์
หมึกปากกาหมดพอดี..แค่นี้เอย
13 ธันวาคม 2547 21:51 น.
ประภัสสุทธ
* ผู้คอยให้กำลังใจให้ความหวัง
ผู้รับฟังเรื่องสุขทุกข์สงสัย
ผู้เคยนั่งล้อมวงอย่างเปิดใจ
เพื่อนผู้ไม่เคยห่างไกลจากใจเพื่อน *
..............................................................................
สายลมไม่เคยจางหายจากยอดไม้
ไอแดดไม่เคยลดละให้อุ่นไอ
ความเหน็บหนาวยังเกาะกุมกระชับแน่น
อุดมการณ์ยังระอุพร้อมสานต่อสู้ไป
..............................................................................
หากเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเม็ดทราย
จะถมกายลงนอนให้ย่างฝ่า
เพียงหยดหนึ่งน้ำค้างบนยอดหญ้า
จักชื่นฉ่ำท้องนาให้ฟื้นคืน
.............................................................................
บ่อยครั้งที่แสงเทียนไม่สว่างพอที่จะกลบกลืนความมืด ให้สว่างทั้งหมดได้ แต่ก็บ่อยครั้งที่แสงเทียนสามารถที่จะส่องสว่างโชติช่วงขึ้นท่ามกลางความมืดมิดและกระแสลมที่จะคอยพัดให้เทียนเล่มน้อยนั้นไร้แสงไป
.............................................................................