21 ธันวาคม 2547 17:29 น.
ประภัสสุทธ
จากตรงไหนผู้เรียกว่าเป็นบัณฑิต
ใบประกาศแลนิสิตน่าเชื่อถือ
อีกสันฐานบุคคลิกแค่นั้น..ฤา
ผู้คร่ำเคร่งอ่านหนังสืออยู่พลบวัน...
21 ธันวาคม 2547 14:51 น.
ประภัสสุทธ
ใจหนึ่งมอบไว้ให้รัก
ใจหนึ่งหักห้ามรักไว้
ใจหนึ่งเผื่อไว้เพื่อใคร
หนึ่งใจเผื่อไว้เพื่อเธอ......
คำนี้อยากบอกให้รู้
คำนี้อยากบอกรู้ไว้
คำนี้อาจรู้แก่ใจ
คำนี้รู้ไว้..รักเธอ....
21 ธันวาคม 2547 14:19 น.
ประภัสสุทธ
ค่ำคืนนี้มองฟ้าใต้ดวงจันทร์
บรรยากาศเงียบงันครามครั้นใจ
จันทร์ถิ่นโน้นเธอแหงนมองดูบ้างไหม
ความห่วงใยจากใครอยู่ในจันทร์
ค่ำคืนนี้ลมหนาวผ่านย่างกราย
เธอเหน็บหนาวเดียวดายเฉกฉันไหม
ลมถิ่นนั้นคงอุ่นอบอวลละไม
ลมเอยลมพัดไล่ความหนาวเย็น
ค่ำคืนนี้วันเวลาช่างยาวนาน
พลัดพรากจากเมื่อวันวานผ่านมาถึง
แม้นตัวไกลหากอุ่นไอยังตราตรึง
แม้เวลาฉุดรั้งดึง...มิเปลี่ยนไป
16 ธันวาคม 2547 15:28 น.
ประภัสสุทธ
ใช้สมองสองมือแลใหวพริบ
เตรียมปากกาแลลิควิดให้มีพร้อม
สู่สงครามข้อสอบไม่มีออม
แม้พ่ายแพ้จำยอมว่ายากจริง
14 ธันวาคม 2547 13:15 น.
ประภัสสุทธ
นั่งชมจันทร์คืนนี้ดูเศร้านัก
จันทร์ที่รักถูกเงาเมฆบังบดหาย
อยากจะเขียนอารมณ์อธิบาย
บอกบรรยายเป็นกลอนผ่านสายลม
ความในใจตอนนี้อึดอัดนัก
จะขจัดอย่างไรหมดไปได้
ทำไฉนให้จิตใจได้ผ่อนคลาย
จึงระบายความในใจใส่เป็นกลอน
คิดถึงเรื่องที่เราอยากจะเป็น
คือสิ่งที่เราเห็นและเป็นได้
เป็นสิ่งที่พิสูจน์ลูกผู้ชาย
มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับเรา
สิ่งนั้นคือความฝันอันสดใส
เป็นความฝันที่ไม่ไกลเกินทำได้
จะประกาศลือก้องอย่างไว้ลาย
คือหนึ่งคนที่ทำได้ให้เป็นจริง
อย่าหยุดคิดในสิ่งที่จะทำ
อย่าหยุดยั้งความตั้งใจที่จะเริ่ม
อย่าหวาดหวั่นความรู้สึกเช่นดังเดิม
จงหึกเหิมความกล้าให้เกิดมี
จงเชื่อมั่นในตัวของตัวเอง
จงอย่าเกรงและอย่ากลัวในสิ่งนั้น
จงทำลายความอ่อนแอให้หายพลัน
อุดมการณ์แห่งความฝันจะเป็นจริง
เมฆคล้อยไปจันทร์โผล่ดูแจ่มนัก
ให้ประจักษ์เห็นจริงในสิ่งนี้
อารมณ์รักนักกลอนตอนสุนทรีย์
หมึกปากกาหมดพอดี..แค่นี้เอย