ประภัสสุทธ2 / 10 / 58ลมระโหย ไล้ระหง ดงดอกหญ้าระรื่นร่ม ร่วงโรยรา กระจายหอมแมลงล้อม มารุมรัก หักใจยอมจะดมดอม จมเดือนดาว แม่สาวดอกตะวันโต ตื่นวันต่อ ทอฟ้าใสผลิตใบ ผลิบาน กิ่งก้านงอกหยาดเม็ดฝน หยดเม็ดฝอย ร้อยรวงดอกลมกระฉอก ระลอกช้ำ มิหนำใจความร้าวราน ครวญร้องร่ำ พร่ำเผยบอกจะเย้าหยอก จิยวนเย้ย เอ่ยคำไหนโอ้ลมจ้า อำลาจิต สะกิดใจโผยไปบอก แผ่วไปโบก โอบกอดเธอ…
หากโลกนี้ไม่มีการอุ้มหาย
ความตายคงสวยงามปกติ
มนุษยชาติวาดสิทธิ
โผล่ผลิความคิดลิขิตตน
เพราะโลกนี้มีการอุ้มหาย
เศษซากแห่งความตายจึงล่องหน
ไหลเรื่องราวร้าวรวดอวดผู้คน
ไถ่ถามเหตุผลแห่งผู้ทำ
“ นาง ” คือปึกแผ่นแน่นกลมเกลียว
“ กลาง ” นั่นเทียวเสมอภาค “ ชี้ ” บอกเสรีอิสระมาก จึ่งชูเชิดฝากแฝงแก่คน
23 / 11 / 57
๏ เมื่อโลกบังคับฉันกดดันคั้นวิญญาณภายในเหลวแหลกลาญมิอาจกล้าหาญหยัดยืน๏ ราวดอกไม้ในถ้ำไร้แสงกระทำให้ฟื้นก้านกิ่งไม่ยั่งยืนตื่นโตในความมืดดำ๏ อยากเติบโตใต้แผ่นฟ้าผลิกล้าสง่าค่าล้ำโปรดมอบความเป็นธรรมนำดอกไม้ออกความมืด
๏ เผลอพบเธอบนความเหงาท่ามกลางเงาความหวังทักทายคลายผ่อนป้อนพลังเติมแต่งแบ่งหวังกำลังใจ๏ ความสดใสเธอส่องสว่างดุจเดือนค้างกลางฟ้าผืนใหญ่แจ่มจรุงบรรเจิดหัวใจบรรจงจัดไว้ในราตรี๏ เรือนผมดำขลับรับใบหน้าดวงตาประกายเปี่ยมสุขีเอ่ยคำพร่ำบอกหยอกวจีซุกซนแสนดีนะที่รัก๏ เสน่ห์เหมาะสมบ่มความงามเชื้อเชิญเอิ้นถามความรู้จักสื่อสารผ่านเฟสฯเฝ้าฟูมฟักโอ้เธอเผลอลักใจฉันไป๏ ส่งเพลงเพลินเพลินให้เธอฟังเธอส่งความหวังกลับมาให้บอก “ชอบเพลง ปล่อย สุดบรรยาย ”ฉันท้าทายด้วยเพลง “สัญญาณ”๏ เชิญฟังบทเพลงแห่งความหวังเชิญใช้ใจฟังสนุกสนานบางอย่างอำพรางไว้เนิ่นนานบางอาการอ่านออกบอกความนัย๏ เชิญหยิบหัวใจไปจากฉันแลกกันกับรักครั้งใหม่กุมมือถือเพลินเดินโอบไหล่ท่ามกลางฟ้าใสใจชื่นบาน