8 เมษายน 2554 09:37 น.
ประภัสสุทธ
๏ เธอจ๋าอยู่ไหน ลอยล่องไป ตามใจ..ตามฝัน
ในธารใสเห็นเงาพระจันทร์ หรือไผ่กอนั้นเกี่ยวไว้จึงไม่ไป
๏ หรือพลัดหลงในดง กลางเถื่อนดิบ มาเถิดจะกระซิบกล่อมหลับใหล
ปลอบปลุกขวัญเจ้าจนชื่นใจ พรุ่งนี้ฟ้าใสค่อยโบกบิน
๏ เธอจ๋าอย่าเพิ่งท้อ ยังมีคนเฝ้ารอหวังถวิล
บ้างยากจนข้นแค้นไม่มีกิน บ้างถูกปล้นหมดสิ้นหมดเนื้อตัว
๏ ใครเล่าจะช่วยได้ จุดประกายความหวังที่สลัว
หยุดความอยุติธรรมโฉดชั่ว หยุดความมืดมัวสู่ยุคใหม่
๏ เพราะเธอใช่ไหม ผู้เป็นไท ทางความคิด ไม่หวั่นไหว
ยืนล้อต่อสู้สุดหัวใจ จนเลือดหลั่งรินไหลกลางตุลา
๏ แต่ก่อนเธอคือนักสู้ เชิดชูอุดมการณ์อันหาญกล้า
ยืนหยัดเคียงข้างชาวประชา จนชีวามอดดับลาลับไป
๏ บัดนี้ เธอคือนักล่าปริญญา สูญสิ้นศรัทธาที่ฝันใฝ่
ไม่มี ความหวัง ไม่มีไฟ ความคิดที่เป็นไทก็ไม่มี
๏ มีแต่ลุ่มหลงยุคสมัย อวดรวย อวดใหญ่ อวดศักดิ์ศรี
ค่ำลงร่ำสุรา เล่นนารี ชีวิตสี่ปีสูญสิ้นไป
๏ บัดนี้คนทุกข์จึ่งถามหา ศรัทธาข้าจะฝากผู้ใดได้
นักศึกษา นายก หรือต้นไทร ฤาจะโยน เข้ากองไฟ เป็นฝุ่นควัน
๏ เธอจ๋าอยู่ไหน ลอยล่องไป ตามใจ..ตามฝัน
วันนี้เธอทำอะไรกัน ขอเธอ...จงเสพสรรค์กับชีวิต
22 พฤษภาคม 2552 11:21 น.
ประภัสสุทธ
สายลมสงบร่างลงพลิ้วไหว
ไอแดดหยุดหายใจไร้แผดเผา
สายธารสงบนิ่งสิ้นแสงเงา
หัวใจรัวแผ่วเบาระริกลง
สุดเสียงสั่นสะท้านสะอื้นไห้
แห้งเหือดตรงหัวใจแหลกเป็นผง
หยด หยดน้ำตารินหลั่งไหลลง
ทรุดกายแนบหน้าตรงที่ศพนอน
จากนี้คงเหลือเพียงภาพเก่าเก่า
ความทุกข์และโศกเศร้าซุกใต้หมอน
คงเหลือเป็นเรื่องราวตกตะกอน
หลบซ่อนในซอกหลืบความทรงจำ..
3 ธันวาคม 2551 12:26 น.
ประภัสสุทธ
ลมหนาวกำลังมา
ปลิวแผ่นฟ้าสีฟ้า
พลัดตกที่ชายป่า
ข้างกระท่อมหญ้าเด็กหญิง
หนูน้อยกระชับผ้า
สุมฟืนป่าเอามือผิง
ค่ำคืนเงียบสงบนิ่ง
ไม้เอนกิ่งอุ้มน้ำค้าง
ยายคลี่ผ้าห่มคลุม
หุ้มเด็กหญิงกอดกุมร่าง
ไม่นานฟ้าก็สาง
พ่อไกลห่างคงกลับมา
ขอบฟ้าเริ่มสว่าง
มองเห็นทางถนัดตา
กอหญ้ายังแตกหญ้า
ยืนเย้ยฟ้าไร้รอยเหยียบ
6 กันยายน 2551 08:57 น.
ประภัสสุทธ
ลูกหลานดวงตะวัน.
จันทร์แรมสว่างโร่ลอยกลางฟ้า
ร่อนล่องล่วงเวลาไม่หล่นร่วง
นับกัปป์กี่ล้านกัลป์ยังลอยดวง
เด่นฟ้าใดทั้งปวงดวงดารา......
ลูกหลานโลก.
ชาติเชื้อกำเนิด
ต่างเกิดแผกฐานแปลกถิ่น
ทั่วแคว้นด้าวแดนแผ่นดิน
ทั้งหมดทั้งสิ้นก็เป็นคน............
28 สิงหาคม 2551 19:32 น.
ประภัสสุทธ
ฉันเป็นเด็กเก็บกลอน
นั่งนั่งนอนนอนอยู่ข้างถนน
เสื้อขาดฐานะอับจน
แต่มีสุขล้นเพราะฉันรวยกลอน
ฉันไม่ใช่ขอทาน
แต่ไม่มีบ้านมีเพียงคำสอน
แค่มองทุกอย่างเป็นกลอน
คิดเป็นอักษรบรรจงร้อยเรียง
ฉันมีดาวเต็มฟ้า
แหงนมองเต็มตายามดึกไร้เสียง
มีเพียงแค่แสงตะเกียง
ส่องคลอเคล้าเคียงกระดาษปากกา.