๏ ฉันเป็นนักศึกษาปัญญาชน
ท่ามกลางทางสับสนคนแบ่งสี
หลอมหล่อและล่อหลอกหลายคัมภีร์
ถูกบ่มในเบ้านี้ "มหาลัย"
๏ "มหาลัย มหาหลอก" กลอกกลับคำ
จับจองจำกับตำราน่าสงสัย
ครุ่นคำถามนิยามตามจิตใจ
" เราเรียนไปเพื่ออะไรใครบอกที ? "
๏ เพื่อก้าวผ่านประสบการณ์กร้านความคิด
เพื่อพ้นพรากจากชีวิตโง่งมนี้
เป็นนักปราชญ์ปราดเปรื่องปัญญาดี
แหละกดขี่คนโง่โตต่อไป
๏ เพื่อสำเร็จเสร็จได้ใบกระดาษ
ประกาศโชว์โอ่สังคมนิยมใหญ่
สมัครงานผ่านสบายหมายมั่นใจ
มีรายได้ใช้จ่ายถ่ายชีวิต
๏ เพื่อประโยชน์โพดโผยผลผู้เกื้อ
เพื่อเป็นเนื้อเชื้อเพลิงผู้ผลิต
เป็นแถวทาสนายทุนตุ๋นความคิด
สู่สายพานการผลิตติดกับดัก
๏ เพื่อรับใช้ไฟฝันฝั่งมวลชน
สละตนติดดินสิ้นยศศักดิ์
สานฝันอุดมการณ์ด้วยความรัก
ยืนปักหลักชัยใน "หมู่บ้าน"
๏ หรือเรียนเพียรเขียนอ่านตามระบอบ
ท่องตำราบ้าสอบตอบโวหาร
จดบันทึกทุกคำจำหลักการ
จมปลักดักดานอ่านหนังสือ
๏ คำตอบมอบให้เธอบำเรอคิด
ค้นหาทั้งชีวิตที่เธอถือ
อีกทางคือวางปล่อยลอยตามสื่อ
" คำตอบฉันชอบคือ จุด จุด จุด "
4 สิงหาคม 2556
๏ สงบเย็นเห็นโลกโบกศานติ
ชั่วขณะสมาธิสติตั้ง
ละเลื่อมเงาเทาแสงแสดงพลัง
ฉายมนต์ขลังหยั่งยอดหญ้าระย้างาม
๏ สดใหม่ใสกระจ่างสว่างจิต
ความคิดดิ้นติดกับกับคำถาม
จะหยุดยื้ออย่างไรไว้ในความงาม
ทุกโมงยามยอดหญ้ายังงามอยู่
๏ ลองหยุดย้อนความถามตนก่อน
คำสอนเรื่องความงามตามความรู้
ถูกถกความตามสังคมชมเชิดชู
ต่างตีความตาม "ตัวกู" รู้ว่างาม
๏ งามงดหมดจดจิตบรรเจิด
พิเลิศเพลิดเพลินเกินมองข้าม
ขาวใสไร้ริ้วรอยพลอยเพ้อตาม
นี่คือความงดงามตาม "จิตกู"
๏ ลองหยุดย้อนความถามตนก่อน
กาพย์กลอนสอนใจใยถึงรู้
ดั่งภาษิต " กูคิด จึงมีอยู่ "
จิตจึ่งกระโจนสู่การยึดติด
๏ ชั่วขณะถนัดนึกตึกตรองชัด
กระบวนทัศน์สลัดทิ้งพึ่งพิงจิต
ปล่อยปลด ลด ละ วาง สางความคิด
สิ่งใดใดใช่ถูกผิดจิตปล่อยวาง
๏ ปล่อยวางว่างห่างจากตัวตน
เลิกหาล่าเหตุผลมาก่นอ้าง
เผชิญพบทบทวนด่วนปล่อยวาง
อย่าเก็บกักถักถ่างทางอารมณ์
๏ แล้วโลกจะสงบพบสันติ
ชั่วขณะสมาธิที่เหมาะสม
ผลิโผล่โตเติบจากเปือกตม
จักบานบ่มห่มโลกให้ร่มเย็น
๏ ยอดหญ้าอ้าบานเบ่งเร่งเหี่ยวเฉา
สีสันบั่นบรรเทาทุกสายเส้น
แตกตายสลายรวงร่วงกระเด็น
ความงามที่แลเล่นล้วนลวงเรา
๏ จึงจับจิตจดจ่อปัจจุบัน
สติสงบมั่นกลั่นความเขลา
สว่างสัจธรรมนำร่มเงา
เปิดม่านบ้านจิตเก่าเกิดสุขเย็น
๏สงบเย็นเห็นโลกโบกศานติ
ชั่วขณะสมาธิจิตชัดเด่น
ละเลื่อมเงาเทาแสงแสดงเล่น
ยอดหญ้าเบนเอนไหวในความว่าง !!!
๏ เขียนถึงฟากฟ้าทะเลกว้าง ทุกอย่างกางไกลเหมือนเธอไหม คลี่คลุมพุ่มตึกลึกถึงไพร ก้อนกรวดอวดผาใหญ่ ใจมนุษย์ ๏ อ้อมโอบอบอวลม้วนละมุน กลั่นหยดเจือจุนมหาสมุทร เคลื่อนค่ำต่ำฟ้าดาวเดือนผุด ยื้อหยุดฉุดใจให้เฝ้ามอง ๏ เขียนถึงแม่น้ำลำธารใส หล่อเลี้ยงสิ่งใดในบึงหนอง ห้วยหาดลาดตลิ่งบิ้งลำคลอง อาบเอ่อทดลองเลี้ยงสิ่งใด ๏ ชุ่มชื่นฉ่ำโชกโศลกเย็น หลอมเลี้ยงเส้นเอ็นทุกเส้นใย ดินป่านาเขาลำเนาไพร วิถีใจ ความคิด จิตวิญญาณ ๏ เขียนถึงธรรมชาติสะอาดสวย คนจน คนรวย คนกล้าหาญ สูงต่ำดำขาวสาวแก่ยาน ทั่วฐานหนทางต่างตรงไหน ๏ ผู้คน เกิด แก่ แลเจ็บ ตาย ความหมายคลี่คลายสลายไป นิเวศน์ชีวิตลิขิตไว้ " ธรรมชาติ " ย่อยสลายทุกชีวิต ๏ เขียนถึงมนุษย์ปุถุชน แหวกว่ายเวียนวนหลงยึดติด สิ่งใดไขว่นำทำความคิด บั้นปลายท้ายชีวิตคิดสิ่งใด ๏ หรือหวังตามหวังทั้งสังคม หรือบ่มสังคมตามหัวใจ หรือเพียง เลี้ยงหัว ตัวรอดไว้ ตามยุคทุกสมัยของสังคม ๏ ฉันถามเพื่อหวังให้คิดต่อ หลอกล่อต่อคำร่ำระดม รึโลกทุกอย่างสร้างเหมาะสม ปล่อยปละคละเปือกตมชะตากรรม ประภัสสุทธ 13 มีนาคม 2556
๏ ร่อนเร่ท่ามกลางป่าหนังสือ กำแพงภายในคือรั้วขอบ ร่ำเรียนแล้วก็เรียน แล้วสอบ ชีวิตเวียนวนรอบสี่ปี ๏ หนังสือคือบทเพลง ผูกมัด เกียรติบัตรคัดพวกมี ภาษี เพื่อขันแข่งแย่งตำแหน่ง ดีดี สู่วิถีฤดีกาล (ร) ศึกษา ๏ สีเหลืองเจ้าคือ นกขมิ้น เจ้าบินแล้วก็บิน เกลื่อนฟ้า ไร้หวังที่จะคอย พึ่งพา เพราะไม่ลงถลา เหยียบดิน ๏ " ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง ตะลึงถึงสีสัน ทั้งสิ้น ในนั้นมีความฝัน มันลิ้น ทั้งเสียง สี กลิ่น ตรึงฉัน " ๏ บัดนี้อุดมการณ์ เจ้าเลือน โบราณเจ้าเสมือน เพื่อนฝัน คอยขับกล่อมบทเพลง โรมรัน ต่อสู้ความคับขัน สังคม ๏ " ฉันเหนื่อยเพราะเรียนหนัก มานาน " สำนึกไม่เบ่งบาน เหมาะสม อุดมการณ์สานฝันอันนิยม อย่ายกย่องชื่นชมบ่มเรื่องราว " ๏ กี่ปีเจ้าถึงจะกลับมา ร่อนลงจากฟากฟ้า สีขาว ขับเพลงแห่งเสรี ยาว ยาว สี่ปีจะคอยข่าว เจ้าคืน ประภัสสุทธ 28 ตุลา 49 ถึง 14 มีนา 56
๏ เมื่อใดที่มองฟ้ายังเห็นดาว เมื่อใดที่ตีนเปล่าก้าวเดินผ่าน เนื้อตัวห่อหุ้มผิวอันหยาบกร้าน สะพายอุดมการณ์ปาดเหงื่อหลั่ง ๏ แสงแดดระอุอุ่นตะวันรอน เงาทาบถนนร้อนทิ้งเบื้องหลัง ย่ำเดินบนดินแล้งแตกผุพัง เหนื่อยกายสายใจยังหลั่งลุกไหม้ ๏ หนาวเย็นจนเหน็บกายยามหมดแดด มิดมืดเสียงลมแผดกระพือไหว คร่ำเคร่งอยู่กับงานสะท้านใจ ใต้กลิ่นละอองไออุดมการณ์ ประภัสสุทธ 1 สิงหา 48 ถึง 14 มีนา 56