11 ธันวาคม 2552 15:48 น.
ประทาน
ฟังเขาเปรียบ ชายอย่าง ช้างเท้าหน้า
เราควรมา คิดอีกที จะดีไหม?
ถ้าหากเรา ก้าวพร้อมกัน ฝ่าฟันไป
เราคงได้ แลเห็น ความเป็นธรรม
ฟังเขาเปรียบ หญิงอย่าง ช้างเท้าหลัง
ฉันยิ่งฟัง เหมือนว่า ยิ่งน่าขำ
หญิงที่แกร่ง ก้าวสู่ เป็นผู้นำ
เราคงจำ ได้อยู่ เมืองผู้ดี
เป็นนายก คนเก่ง เร่งแก้ไข
เธอจึงได้ ความนิยม สมศักดิ์ศรี
ความอ่อนหวาน น่าชม สมสตรี
บางคราวมี ความกล้า มากกว่าชาย
ละจากงาน ทุกอย่าง เมื่อว่างเว้น
เธอก็เช่น กุลสตรี ดีเหลือหลาย
ขัดใจเธอ จริงแท้ แม่เอาตาย
เธอดุร้าย ยิ่งนัก กว่ายักมาร
ยามเธอดี ศรีบ้าน ปานนางฟ้า
สมมารดา ของบุตร สุดอ่อนหวาน
สมเป็นคู่ ชีวา มาเนิ่นนาน
ดูจะสม สถาน วิมานทอง
ฟังเขาเปรียบ ชายอย่าง ช้างเท้าหน้า
เขาเปรียบว่า นารี เป็นที่สอง
แต่ที่บ้าน ฉันว่า หาเป็นรอง
ปรายตามอง หางตา ยังน่ากลัว....
9 ธันวาคม 2552 14:10 น.
ประทาน
ยามตะวัน คล้อยบ่าย ที่ปลายคุ้ง
เบิ่งท้องทุ่ง สีทอง ผ่องไสว
ทั้งกระจับ จอกแหน แผ่ผลิใบ
นำพาให้ ใจชื่น แสนรื่นรมย์
ริมสายธาร นั้นคง รกพงอ้อ
เป็นที่ก่อ ตำนาน รักหวาน-ขม
เจ้าขวัญ-เรียม เคยรัก ปักชีพจม
ดับด้วยคม ศาตรา ตามสาบาน
คืนวันเพ็ญ น้ำหลาก สองฟากฝั่ง
ขวัญ-เรียมนั่ง พรอด-พร่ำ ด้วยคำหวาน
บัดนี้คง เหลือเพียง ดวงวิญญาณ
สถิตศาล ใต้โคน ต้นไทรงาม
ทั้งอีเก อ้ายเรียว ควายเปลี่ยวหนุ่ม
วิญญาณคุ้ม ครองไทร ใครอย่าหยาม
ตำนานรัก เรียม-ขวัญ โจษจันนาม
ยังคงความ อมตะ ตลอดไป..
8 ธันวาคม 2552 07:31 น.
ประทาน
ก.ไก่ก่อ เสริมแทรก แต่แรกเริ่ม
ข.ไข่เพิ่ม เรื่อยมา เชื่องช้าหน่อย
ข.ขวดนั้น เลิกใช้ ไม่ต้องคอย
ค.ควายปล่อย เอาไว้ ท้ายทุ่งนา
ค.คนนี้ มีใช้ ได้บางครั้ง
ฆ.ระฆัง กังวาน ม่านเวหา
ง.งูเลื้อย มองดู กุ้งปูปลา
จ.จานครา ใส่ข้าว เข้าประเด็น
ฉ.ฉิ่งเชือก ผูกไว้ ปลายทั้งสอง
ช.ช้างมอง ตัวใหญ่ ใครก็เห็น
ซ.โซ่คล้อง ช้างไว้ ร่มไม้เย็น
ฌ.เฌอเป็น ต้นไม้ มีใบบัง
ญ.หญิงงาม เอว-องค์ ทรงสง่า
ฎ.ชะฎา สวมไว้ ใครก็หวัง
ฏ.ปะฏัก ปักได้ หากใครพลั้ง
ฐ.ฐานยัง รองไว้ ได้พอดี
ฑ.นางมณโฑ น่าโลม โฉมเฉลา
ฒ.ผู้เฒ่า เป่าร่าย มนต์ไล่ผี
ณ.เณรนั่ง พากเพียร เรียนบาลี
ด.เด็กดี อง-อาจ ศรีชาติไทย
ต.เต่านา ตัวใหญ่ ในทุ่งท่า
ถ.ถุงคว้า มาครอง เอาของใส่
ท.ทหาร ยืนตรง คงเกรียงไกร
ธ.ธงไสว ชักตาม ยามเวลา
น.หนูนั้น ทำลายจน ทนไม่ไหว
บ.ใบไม้ เริ่มมี เป็นศรีป่า
ป.ปลาหนี พรานเบ็ด สำเร็จมา
ผ.ผึ้งจ๋า ต่อยคน จนเจียนตาย
ฝ.ฝานี้ ทนทาน การปกป้อง
พ.พานรอง ธูปเทียน เวียนถวาย
ฟ.ฟันสวย เป็นแนว แววประกาย
ภ.สำเภา เดียวดาย กลางสายชล
ม.ม้ารั้ง บังเหียน ไม่เปลี่ยนหลัง
ย.ยักษ์นั่ง แยกเขี้ยว ดูเหี่ยวย่น
ร.เรือใหญ่ ลำนั้น บรรทุกคน
ล.ลิงซน นักหนา ระอาใจ
ว.แหวนทอง วงนี้ แสนมีค่า
ศ.ศาลา ริมทาง ต่างอาศัย
ษ.ฤาษี จุนเจือ เอื้อสายใย
ส.เสือได้ สอนลูก ให้ถูกทาง
ห.หีบควร มีไว้ ใส่เสื้อผ้า
ฬ.จุฬา กลางหาว ดูพราวพร่าง
อ.อ่างรา- -คาถูก ทุกลูกวาง
ฮ.นกฮูก ซ่อนร่าง วางประเด็น
สี่สิบสี่ ตัวไทย ไว้เป็นหลัก
สื่อนำชัก ส่องทาง สว่างเห็น
อักษรสูง กลางต่ำ นั้นจำเป็น
ไม่ยากเย็น ถ้าหาก เราพากเพียร...
5 ธันวาคม 2552 20:15 น.
ประทาน
รัก-ร้าว
ปุยเมฆขาว พราวพราย ที่ปลายฟ้า
ท้องนภา สดสวย ด้วยสีสัน
บ่งถึงกาล เวลา คราเหมันต์
สายฝนอัน เคยฉ่ำ ก็อำลา
สายสวาท ถักทอ ร่วมก่อสาย
สัมพันธ์กลาย หายลับ ไม่กลับหา
ต่างพากเพียร ร่วมสาน เนิ่นนานมา
ก็ถึงครา ลาห่าง แยกทางเดิน
เคยวาดหวัง รังรอง ร่วมสองรัก
เธอหาญหัก รักร้าง ลาห่างเหิน
ไม่สงสาร คนเหม่อ รักเธอเกิน
เธอหลงเพลิน รักไหม่ ในเมืองกรุง
เธอทิ้งนา สวนไร่ หลายขนัด
เธอสลัด คราบไคล ลายผ้าถุง
เธอหลงใหล ชายรูปงาม หลงน้ำปรุง
เห็นท้องทุ่ง เรือ-บด หมดสำคัญ
ลืมคันไถ ควายทุย เคยลุยทุ่ง
เธอหมายมุ่ง กรุงไกร คล้ายสวรรค์
เธอก็เมิน ดงป่า พนาวัน
ทิ้งให้ฉัน เดียวดาย ที่ปลายนา
ปุยเมฆขาว พราวพร่าง กลางเวหะ
ใจเธอผละ ทิ้งไป ให้ครวญหา
เธอใจเบา ดุจ-ยุ่ย ปุยเมฆา
ลบวาจา ที่ไว้ ให้แก่กัน....