25 พฤศจิกายน 2552 00:46 น.
ประทาน
ปลอบลูก
ลูกรัก.........
หลับตาพัก ฟังเพลงกานท์ บนลานฝัน
เจ้าคงหนื่อย เมื่อยล้า มาทั้งวัน
จากไพรสัณฑ์ สู่เมือง อันเรืองรอง
ลูกเอ๋ย........
แม่ไม่เคย มีสุข ทุกข์หม่นหมอง
ตั้งแต่เจ้า เข้าป่า น้ำตานอง
พ่อเจ้าต้อง ขื่นขม ตรมตรอมใจ
ลูกแม่..........
ในดวงแด ทรมาน สักปานไหน?
แม้วันนี้ เจ้ายอม จากอ้อมไพร
สุขไฉน? เมื่อขวัญ นั้นกระเจิง
ลูกรัก...........
จงแปรภักดิ์ เถิดหนา อย่าคิดเหลิง
อุดมการณ์ ที่ฝัน เกียรติ์ดำเกิง
แท้คือเพลิง ร้อนเร่า เผาชีวี
ลูกเอ๋ย..........
อย่าห่วงเลย ขุนเขา ตะนาวศรี
ก็เป็นเพียง ยอดพนม พรหมคีรี
ภัยมากมี แม่หวั่น อันตราย
แม่ห่วง...........
ประหนึ่งดวง ใจแยก แตกสลาย
หวังเพียงลูก ไร้ทุกข์ สุขสบาย
คงมิสาย ถ้าลูกรัก จักกลับตัว
แม่หวัง..........
หลวงท่านยัง อภัย ให้ทูลหัว
แม้หนทาง หวังนั้น มันมืดมัว
อย่าหวาดกลัว หรือจน ต่อหนทาง
ขวัญชีวิต..........
จากความคิด ที่แยก เห็นแตกต่าง
เมื่อคิดอยาก มีชัย ไม่ละวาง
เป็นช่องว่าง ทำให้ ไทยฆ่ากัน.......(เอง)
24 พฤศจิกายน 2552 21:41 น.
ประทาน
สุขอยู่ที่ใจ
สุข...เสริมสร้าง พลังแรง แห่งชีวิต
อยู่...แนวคิด ทำดี ที่ตั้งต้น
ที่....คิดร้าย เหมือนไฟฟอน ที่ร้อนรน
ใจ...มีมาร ผจญ โยนทุกข์มา.....
แล้ว...คงทุกข์ ร่ำไป หากใจหมอง
แต่...ทุกข์ครอง สุขได้ ไร้ปัญหา
ใคร...รู้ละ เว้นชั่ว ตัวพาลา
คิด...เมตตา ต่อผู้ยาก จักสุขใจ.....
คิด...เป็นเหมือน บานประตู ไปสู่ทั่ว
ดี...หรือชั่ว อยู่ที่คิด จิตฝักใฝ่
มี...ธรรมมะ ละวาง ห่างทุกข์ภัย
สุข...เปี่ยมใน ดวงจิต ที่คิดดี.....
ใจ...เป็นนาย กายเป็นบ่าว ที่กล่าวอ้าง
เย็น...เพราะวาง จึงสงบ พบสุขศรี
เป็น...สัจจธรรม ล้ำเลิศ เกิดไมตรี
พอ...คือมี ความดี ที่เพียงพอ....
ต้อง...เบิกบาน ทุกขณะ ภาวะจิต
เดิน...ชีวิต ให้ถูก สุขแล้วหนอ
สาย...เคยตึง เกินไป ให้ชะลอ
กลาง...สบาย หายทุกข์ท้อ ก็สุขจินต์.....
จึง...ยึดหลัก ศีลธรรม นำชีวิต
จะ...วิศิษฎ์ เพราะเหตุ กิเลสสิ้น
พบ...แต่ความ สว่าง กลางชีวิน
สุข...สมถวิล เพราะชอบ กอปร-กรรมดี.....
23 พฤศจิกายน 2552 16:51 น.
ประทาน
สาวเวียงพิงค์
สายลมหนาว พัดมา จากฟ้าเหนือ
กลิ่นกรุ่นเจือ เอื้องดิน ถิ่นบุปผา
แม้จะเหิน ห่างบ้าง บางเวลา
เพียงกายา สิ-ร้าง หาห่างใจ
ปุยเมฆขาว พราวคล้อย ลอยละลิ่ว
ลมหนาวปลิว พลิ้วพร่าง กลางฟ้าใส
หอบมาเจือ เผื่อกมล คนอ่าวไทย
แม้อยู่ไกล ใจเคียง สาวเวียงพิงศ์
ภาพอดีต ผุดกลาง หว่างห้วงลึก
ความรู้สึก เริ่มเด่น เห็นทุกสิ่ง
เงาเธอยืน ริมกระแส ลำแม่ปิง
สงบนิ่ง ดุจภาพศิลป์ จินตนา
สไบเฉียง แพรห่ม ต้องลมพัด
ปลิวสะบัด ทุกยาม งามนักหนา
งามเรือนผม ยาว-สลวย สวยนัยตา
ดุจนางฟ้า เทวี จากที่ไกล
ตื่นจากห้วง แห่งภวังค์ ที่ฝังจิต
ถามสักนิด ยังคะนึง ถึงฉันไหม?
อยากรู้ข่าว เธอบ้าง เป็นอย่างไร
คนอ่าวไทย ยังระลึก นึกถึงเธอ
สายลมเหนือ พัดมา พาเหน็บหนาว
ทุกเรื่องราว อยากรู้ อยู่เสมอ
เธอคิดถึง คนไกล บ้างใหม?เออ
อย่าให้เพ้อ ฝันค้าง อยู่ข้างเดียว......
23 พฤศจิกายน 2552 12:40 น.
ประทาน
ภาพเก่าที่ร้าวราน ประทาน
ภาพเก่าเก่า ด่างดำ ดูคร่ำคร่า
บ่งเวลา ว่าผ่าน นานฉนำ
รอยจารึก ผนึกเน้น เป็นถ้อยคำ
บอกเตือนย้ำ คำนึง คิดถึงกัน
บัตรดูหนัง ฉึกไว้ ให้หนึ่งส่วน
ทุกสิ่งล้วน ชวนระลึก ให้นึกฝัน
แม้ลางเลือน ไปบ้าง เป็นบางวัน
ดูเหมือนมัน ชัดบ้าง บางเวลา
ตั๋วรถเมล์ เก็บไว้ มีหลายอย่าง
ยามอ้างว้าง ฤทัย ให้โหยหา
เหมือนจะคอย เตือนย้ำ คำสัญญา
ให้รู้ว่า ครั้งหนึ่ง เคยซึ้งใจ
เศษกระดาษ กั้นกลาง หว่างหนังสือ
มีลายมือ ลายเซ็น เคยเน้นให้
ล้วนเป็นสิ่ง ตราตรึง ซึ้งทรวงใน
ยามเราอยู่ ห่างไกล ให้อาทร
เพียงหวังว่า คืนนี้ ก่อนที่หลับ
กายขยับ กราบลง ที่ตรงหมอน
อธิษฐาน ดวงจิต คิดไหว้วอน
แต่เก่าก่อน เคยร้าวฉาน ให้ผ่านเลย
ถึงภาพเก่า ด่างดำ รอยคร่ำคร่า
แต่มีค่า ยิ่งใหญ่ กับใจเอ๋ย
เธอเป็นคน แสนดี ที่คุ้นเคย
อย่านิ่งเฉย รีบตอบ แล้วปลอบทรวง....
22 พฤศจิกายน 2552 22:44 น.
ประทาน
แด่..คนแสนดี (คุณ เบญจมาศเขียนตอบกลอน ดาวเมืองชล)
ลมคิดถึง พัดผ่าน ฝ่าม่านหมอก
กระซิบบอก ด้วยใจ อาลัยหา
ยังจดจำ คำมั่น คำสัญญา
ฝากฟากฟ้า ส่งข่าว ถึงเขาที
สานสายใย สายรัก พร้อมอักษร
ส่งมาอ้อน พี่ชาย อย่าหน่ายหนี
กลั่นกรองจาก กมล ชลบุรี
ถ้อยวลี คนซื่อ สื่อสัมพันธ์
ที่ห่างเหิน ห่างหาย ใจเป็นห่วง
ทุกทุกห้อง ภวังค์ หวังปลอบขวัญ
เป็นแรงใจ ให้พี่ นิจนิรันดร์
ยังคงมั่น เหมือนเดิม ซ้ำเพิ่มพูน
คนสมุทร ปราการ จานน้ำจิต
มอบหมู่มิตร น้องพี่ มิสิ้นสูญ
ยิ่งนับวัน มากมี ทวีคูณ
และเกื้อกูล ถึงสาว ชาวเมืองชล
เล็กน้อยแต่ ลึกล้ำ กับคำถาม
ตอบด้วยความ จริงใจ คลายฉงน
เรียบเรียงถ้อย ตามที่ ฤดีดล
แทนตัวตน มาตอบ มอบหมดใจ
ตราบใดที่ มีดาว พร่างพราวฟ้า
มีมัจฉา ผุดดำ กลางน้ำใส
มีอาทิตย์ จันทรา ถาวรไป
โปรดรู้ไว้ ไม่ลืมเลือน เพื่อนนักลอน...