13 ธันวาคม 2552 09:09 น.
ประทาน
ลงบทกลอนของตัวเองมาเเยะแล้ว..วันนี้ขอนำบทกลอนของระดับ
บรมครูมาลงบ้าง..เพื่อเป็นบรรทัดฐานสำหรับนักลอนรุ่นใหม่ๆได้
ศึกษา..ซึ่งผมเองได้ยึดเป็นต้นแบบมาตลอด..แต่ก็งั้นๆๆแหละครับ
สู้ท่านไม่ได้หรอกครับ....ภาษาไทยนี้มีมนต์ครับ..จากคำเป็นวลีจาก
วลีเป็นประโยก..จากประโยกเป็นวรรคเป็นบทแล้วปะติดปะต่อเรียง
ร้อยเป็นบทร้อยกรองที่ไพเราะอ่านแล้วซึ้ง..หวาน..เศร้า..เจ็บปวด
แล้วแต่อารมณ์ของผู้อ่านและผู้แต่ง..ผมจึงขออนุญาตท่านเจ้าของบท
ประพันธ์ชิ้นนี้..ไว้ณ.โอกาสนี้ด้วยนะครับ..
ประทาน ถนอมเมือง
ยังคงลืม ไม่ได้ ในชีวิต
เมื่อทั้งจิต ยังใฝ่ถึง คะนึงหา
วันหวานที่ ผ่านแล้ว คลาดแคล้วมา
ก็ยังปรา กฎแจ้ง เสียดแทงใจ
ดนตรีแห่ง ลูกตาล กังวานแผ่ว
ริ้วคลื่นแก้ว ซบหาด สาดเสียงใส
ลมทะเล เห่ฟ้า มาไกลไกล
พ้อเสียงใคร ที่เขา เคยเว้าวอน
หญ้าระบัด ใบอาย ส่ายหน้ายิ้ม
เมื่อตาพริ้ม หนุนพัก ตักสมร
ดาวกระพริบ ตาพ้อ ล้ออัมพร
แล้วซุกซ่อน แสงพราง อย่างยินดี
หวานความหวาน ใดใด มีในภพ
ไม่อาจลบ หวานรัก สูงศักดิ์ศรี
หอมความหอม แห่งบุปผา มวลมาลี
มิเทียบที่ หอมรัก พิทักษ์เรา
เราเตลิด ลอยไป ไกลสุดโลก
พร้อมกับโบก มือตาม ลาความเศร้า
โอ้หวังเอย หวังไว้ กลางวัยเยาว์
ซื้อความเขลา ด้วยชีวิต นิจกาล
ยินดี่ที่ เธอสุข มีทุกสิ่ง
โลกความจริง ของฉัน หมดวันหวาน
วันใดที่ ชีวัน ฉันแหลกลาญ
ขอเพียงวาน เธอเผา ศพเอาบุญ....
จากบทกลอนชื่อ โอ้ว่า..ความหลัง ของลาวดวงเดือน...ครับ
12 ธันวาคม 2552 09:59 น.
ประทาน
แม่ครับ....
ลูกแม่กลับ จากพนา ถิ่นป่าเขา
ยอดคีรี สูงเด่น ทอดเป็นเงา
ที่ลูกเอา เป็นที่หมาย พักกายยี
พบสหาย ชายหญิง กลางสิงขร
ต่างโคจร หมายมุ่ง ผดุงศรี
อุดมการณ์ ฝันอยู่ งามรุจี
เป็นสิ่งที่ ลูกแม่ แด..ศรัทธา
เหตุฉ้อฉล กลไก คนในรัฐฯ
คอยแกล้งขัด แล้วก็ ยัดข้อหา
ว่าลูกก่อ ความวุ่นวาย ในพารา
ต้องหนีหน้า เข้าพง ดงกันดาน
ปิยะมิตร หญิงชาย นอนตายราบ
เลือดนองอาบ ปฐพี สีแดงฉาน
มโนภาพ อาบจิต ติดชั่วกาล
ครั้งหนึ่งท่าน เข่นฆ่า ประชาชน
เราสู้แบบ อหิงสา มามือเปล่า
พร้อมเรื่องราว เปี่ยมเจตน์ ด้วยเหตุผล
แต่ท่านถือ อำนาจใหญ่ ในกมล
สั่งขุนพล เนื่องแน่น หน่วยแม่นปืน
แม่ครับ.....
ลูกแม่กลับ จากไพร ไม่อาจฝืน
ลูกลำบาก ตรากตรำ ทนกล้ำกลืน
ลูกขอคืน อ้อมตัก แม่พักนอน...
11 ธันวาคม 2552 15:48 น.
ประทาน
ฟังเขาเปรียบ ชายอย่าง ช้างเท้าหน้า
เราควรมา คิดอีกที จะดีไหม?
ถ้าหากเรา ก้าวพร้อมกัน ฝ่าฟันไป
เราคงได้ แลเห็น ความเป็นธรรม
ฟังเขาเปรียบ หญิงอย่าง ช้างเท้าหลัง
ฉันยิ่งฟัง เหมือนว่า ยิ่งน่าขำ
หญิงที่แกร่ง ก้าวสู่ เป็นผู้นำ
เราคงจำ ได้อยู่ เมืองผู้ดี
เป็นนายก คนเก่ง เร่งแก้ไข
เธอจึงได้ ความนิยม สมศักดิ์ศรี
ความอ่อนหวาน น่าชม สมสตรี
บางคราวมี ความกล้า มากกว่าชาย
ละจากงาน ทุกอย่าง เมื่อว่างเว้น
เธอก็เช่น กุลสตรี ดีเหลือหลาย
ขัดใจเธอ จริงแท้ แม่เอาตาย
เธอดุร้าย ยิ่งนัก กว่ายักมาร
ยามเธอดี ศรีบ้าน ปานนางฟ้า
สมมารดา ของบุตร สุดอ่อนหวาน
สมเป็นคู่ ชีวา มาเนิ่นนาน
ดูจะสม สถาน วิมานทอง
ฟังเขาเปรียบ ชายอย่าง ช้างเท้าหน้า
เขาเปรียบว่า นารี เป็นที่สอง
แต่ที่บ้าน ฉันว่า หาเป็นรอง
ปรายตามอง หางตา ยังน่ากลัว....
9 ธันวาคม 2552 14:10 น.
ประทาน
ยามตะวัน คล้อยบ่าย ที่ปลายคุ้ง
เบิ่งท้องทุ่ง สีทอง ผ่องไสว
ทั้งกระจับ จอกแหน แผ่ผลิใบ
นำพาให้ ใจชื่น แสนรื่นรมย์
ริมสายธาร นั้นคง รกพงอ้อ
เป็นที่ก่อ ตำนาน รักหวาน-ขม
เจ้าขวัญ-เรียม เคยรัก ปักชีพจม
ดับด้วยคม ศาตรา ตามสาบาน
คืนวันเพ็ญ น้ำหลาก สองฟากฝั่ง
ขวัญ-เรียมนั่ง พรอด-พร่ำ ด้วยคำหวาน
บัดนี้คง เหลือเพียง ดวงวิญญาณ
สถิตศาล ใต้โคน ต้นไทรงาม
ทั้งอีเก อ้ายเรียว ควายเปลี่ยวหนุ่ม
วิญญาณคุ้ม ครองไทร ใครอย่าหยาม
ตำนานรัก เรียม-ขวัญ โจษจันนาม
ยังคงความ อมตะ ตลอดไป..
8 ธันวาคม 2552 07:31 น.
ประทาน
ก.ไก่ก่อ เสริมแทรก แต่แรกเริ่ม
ข.ไข่เพิ่ม เรื่อยมา เชื่องช้าหน่อย
ข.ขวดนั้น เลิกใช้ ไม่ต้องคอย
ค.ควายปล่อย เอาไว้ ท้ายทุ่งนา
ค.คนนี้ มีใช้ ได้บางครั้ง
ฆ.ระฆัง กังวาน ม่านเวหา
ง.งูเลื้อย มองดู กุ้งปูปลา
จ.จานครา ใส่ข้าว เข้าประเด็น
ฉ.ฉิ่งเชือก ผูกไว้ ปลายทั้งสอง
ช.ช้างมอง ตัวใหญ่ ใครก็เห็น
ซ.โซ่คล้อง ช้างไว้ ร่มไม้เย็น
ฌ.เฌอเป็น ต้นไม้ มีใบบัง
ญ.หญิงงาม เอว-องค์ ทรงสง่า
ฎ.ชะฎา สวมไว้ ใครก็หวัง
ฏ.ปะฏัก ปักได้ หากใครพลั้ง
ฐ.ฐานยัง รองไว้ ได้พอดี
ฑ.นางมณโฑ น่าโลม โฉมเฉลา
ฒ.ผู้เฒ่า เป่าร่าย มนต์ไล่ผี
ณ.เณรนั่ง พากเพียร เรียนบาลี
ด.เด็กดี อง-อาจ ศรีชาติไทย
ต.เต่านา ตัวใหญ่ ในทุ่งท่า
ถ.ถุงคว้า มาครอง เอาของใส่
ท.ทหาร ยืนตรง คงเกรียงไกร
ธ.ธงไสว ชักตาม ยามเวลา
น.หนูนั้น ทำลายจน ทนไม่ไหว
บ.ใบไม้ เริ่มมี เป็นศรีป่า
ป.ปลาหนี พรานเบ็ด สำเร็จมา
ผ.ผึ้งจ๋า ต่อยคน จนเจียนตาย
ฝ.ฝานี้ ทนทาน การปกป้อง
พ.พานรอง ธูปเทียน เวียนถวาย
ฟ.ฟันสวย เป็นแนว แววประกาย
ภ.สำเภา เดียวดาย กลางสายชล
ม.ม้ารั้ง บังเหียน ไม่เปลี่ยนหลัง
ย.ยักษ์นั่ง แยกเขี้ยว ดูเหี่ยวย่น
ร.เรือใหญ่ ลำนั้น บรรทุกคน
ล.ลิงซน นักหนา ระอาใจ
ว.แหวนทอง วงนี้ แสนมีค่า
ศ.ศาลา ริมทาง ต่างอาศัย
ษ.ฤาษี จุนเจือ เอื้อสายใย
ส.เสือได้ สอนลูก ให้ถูกทาง
ห.หีบควร มีไว้ ใส่เสื้อผ้า
ฬ.จุฬา กลางหาว ดูพราวพร่าง
อ.อ่างรา- -คาถูก ทุกลูกวาง
ฮ.นกฮูก ซ่อนร่าง วางประเด็น
สี่สิบสี่ ตัวไทย ไว้เป็นหลัก
สื่อนำชัก ส่องทาง สว่างเห็น
อักษรสูง กลางต่ำ นั้นจำเป็น
ไม่ยากเย็น ถ้าหาก เราพากเพียร...