27 กุมภาพันธ์ 2553 21:35 น.
ปติ ตันขุนทด
อันว่าลาภยศบทสรรเสริญ
แม้นเพลิดเพลินมัวเมาจะเศร้าหมอง
เป็นมายาอย่าหลงทนงคนอง
จงคิดตรองตั้งสติดำริธรรม
อนิจจังทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง
เกียรติยศชื่อเสียงเพียงความขำ
คนว่าดีว่าร้ายได้ประจำ
แม้นหลงคำเจ็บอกเหมือนตกตาล
24 กุมภาพันธ์ 2553 23:02 น.
ปติ ตันขุนทด
เมื่อศาลาลูกขุน เรียกตัวศรีปราชญ์ไปให้การต่อสู้คดี กรณี สาดโคลน กระเด็นถูก พระสนมนางใน ซึ่งออกมาดูศรีปราชญ์เป็นนักโทษขนโคลนเลน และพูดจาเยาะเย้ย ศรีปราชญ์ให้การต่อ ตระลาการลูกขุนว่า
ผิดผีผียั้งละ ลาเพ
ผิดพระราชโปเล จะล้าง
เหนื่อยนักพักพอเท ถูกแม่ กระมังนา
ผิดพระราชกฤษฎีกาอ้าง เอ่ยไว้ ยังไฉน
***นี่เท่ากับศรีปราชญ์ต่อสู้ว่า ไม่ได้เจตนา โคลนมันกระเด็นไปถูกเอง ในโคลงของศรีปราชญกล่าวได้คมคายมากว่า.....ผิดผี ผียังละ เลิกลากัน เช่นผิดผีระหว่างชายหนุ่มหญิงสาว ผิดพระราชโปเล จะฆ่ากันเชียวหรือ เพราะเหนื่อยจึงพัก พอเทโคลนจึงไปถูก ถ้าเช่นนี้เป็นการผิดกฏหมาย ก็ยังสงสัยอยู่
***ศรีปราชญ์นี่ น่าจะเป็นตำแหน่งกวีราชสำนัก ไม่น่าจะเป็นชื่อเฉพาะ และคนดำรงตำแหน่งนี้น่าจะเป็นชั้นเจ้า เพราะอะไร นางสนมจึงสนใจ ตอแย เยาะเย้ยถากถางยิ่งนัก
23 กุมภาพันธ์ 2553 16:06 น.
ปติ ตันขุนทด
ใจกลัวบาปท่วมท้น ติดตัว
จงอย่าทำหมองมัว ชั่วช้า
พูดทำจุ่งพันพัว ตรงต่อ กันนา
เวียนว่ายในโลกหล้า ท่านนั้นคนดี
สตรีมีเกลื่อนทั้ง ปฐพี
สวยแจ่มเป็นมาลี คู่หล้า
งามใดเท่าความดี แม่ก่อ กรรมนา
ดังกลิ่นสุคนธ์กล้า หื่นฟุ้งกำจาย
21 กุมภาพันธ์ 2553 09:24 น.
ปติ ตันขุนทด
มุ่งเห็นน้ำหน้าวิ่ง วยรตา แลแม่
ถนัดม่วงมือนางฝาน ฝากเจ้า
เททรวงทุเรมา บางภูด พี่แม่
หมากพูจรู้ลับเล้า พูจพราง
(โคลงกำศรวลศรีปราชญ์)
ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา
(สุทรภู่)
***ศรีปราชญ์ครวญถึงคนรัก ตอนมาถึงบางพูดนี้ว่า....
มองดูน้ำซึ่งเรือวิ่งไปแล้วเวียนตา เหมือนกับมะม่วงที่มือนางฝานฝากเจ้า
เทใจทุเรศลำบากมาถึงบางพูด หมากพูดหากรู้ความลับในใจแล้ว ช่วยพูดบ้าง
***มีภาษิตอะไรก็ไม่รู้ เขาบอกว่า คนมีความรักแล้วมักพูดมาก
ศรีปราชย์เห็นบางพูด ก็นึกถึงมะม่วงที่คนรักฝานมาฝาก ฝากใคร ทำไมว่า ฝากเจ้า เจ้าคือพระนารายณ์หรือ
***บางพูดของสุนทรภู่ เอาไปเปรียบเทียบเป็นคำสุภาษิต ก็รู้สึกทั้งไพเราะและให้คติ บรรพบุรุษของเรานี่ ช่างเก่งจริง ๆ
20 กุมภาพันธ์ 2553 21:50 น.
ปติ ตันขุนทด
จากมาแก้วผึ้งแผ่ ใจรัก มาแม่
ยยวอยู่เลวไผ่ผอม ผ่าวไส้
จากศรีสำลักใคร สกิดอ่อน อวนแม่
รยมร่ำไห้หาเจ้า ชำงาย
***ไผ่ผอม คือ ผ่ายผอม
***ยยว คือ เยียว
***รยม คือ เรียม