15 ตุลาคม 2552 10:13 น.
ปติ ตันขุนทด
***ลพบุรีล่ะโว้ โบราณ
เคียงคู่อยุธยาสถาน เก่าไซร้
ราเมศวร์หนึ่งรัชกาล เคยอยู่
กาลล่าพระนารายณ์ได้ พ่ายลี้เพทภัย
***ปรางสามยอดเยี่ยมฟ้า เทวลัย
งามแง่ศาสน์สถานใน ล่ะโว้
เพรงกาลเก่าถือไสย์ กันทั่ว
พุทธแผ่มาเยือนโย้ ทั่วหน้าถือตรัย
***เรืองเรืองไตรรัตน์ล้ำ สุรีย์
ชนทั่วลพบุรี แจ่มแจ้ง
แสงธรรมผ่องปัฐพี พุทธผ่อง
สงฆ์เคร่งฤาโรยแล้ง หย่อนคร้านวินัย
***นองสินธุ์ใสเขื่อนน้ำ ชลสิทธิ์
เป็นบ่อทรัพย์อุทิศ ทั่วถ้วน
เกษตรกรรมก่อผลผลิต แพงเพิ่ม
เป็นแหล่งประมงล้วน ค่าล้ำมัจฉา
***ศาลากาฬคู่บ้าน เมืองลิง
ชนหมู่มากชายหญิง เวี่ยไหว้
เทวดาท่านพักพิง สถิตมั่น
เนืองแน่นวานรได้ พึ่งเลี้ยงอาตมา
14 ตุลาคม 2552 17:41 น.
ปติ ตันขุนทด
***สระบุรีรุ่งหล้า โลมสวรรค์
ราษฎร์ร่วมทานศีลสรรพ์ พรั่งพร้อม
ตรัยรัตน์แจ่มจิตผัน แทบทั่ว
กรรมสั่งสมบุญน้อม เยี่ยมฟ้าถึงพรหม
***ชมพุทธบาทแห่งเจ้า ศาสดา
พรานป่าพบบอกมา ผ่านเกล้า
กษัตริย์ศรีแห่งอยุธยา เติมแต่ง
เรืองรุ่งรัตน์นพเก้า แต่งห้องมณฑล
***มณฑปบนที่ตั้ง พระบาท
จันทร์ส่องแสงสบสาด แจ่มฟ้า
วาววับวิ่งแวดวาด ตาพร่าง
ยลยิ่งแสงเพชรกล้า เกลื่อนเข้าตางาม
***มวกเหล็กธารหลั่งล้น ตกตาม
ไหลซ่าเซ็นเย็นยาม เล่นไล้
หลากชนแช่ชลงาม ใสซู่
เอมอิ่มมานหมองได้ เยี่ยมย้อมธารศรี
***เจ็ดสาวนางแน่งน้อย วารี
ตกซ่าเซาะซอนหนี ลุ่มหล้า
ใสเซ็นเล่นเย็นดี ชนหมู่
เชิญเยี่ยมอาบงามหน้า ร่างเกลี้ยงกายนวล
14 ตุลาคม 2552 11:44 น.
ปติ ตันขุนทด
***สามโคกนามเอ่ยอ้าง เดิมที
เป็นชื่อปทุมธานี แต่งตั้ง
สุนทรภู่จอมกวี บอกบ่ง
แปรเปลี่ยนประทานครั้ง ปิ่นเกล้าเหนือหัว
***ปทุมธานีแห่งนี้ เมืองบัว
รินส่งเกสรตัว ชื่นข้อย
มวลภมรหมื่นแสนมัว เมากลิ่น
บินเคลื่อนมาไกลคล้อย แข่งเคล้าเสาวคนธ์
***อุบลบัวเบ่งแย้ม กลีบบาน
ขาวเด่นดอกดวงมาลย์ กลิ่นเกลี้ยง
งามชมดั่งนงคราญ ผุดผ่อง
เหมือนโผล่จากชลเลี้ยง หล่มต้นสายสวย
***ปทุมธานีแต่นี้ แลรวย
มากหมู่มาอำนวย จ่ายจ้าง
ตายายแม่เอออวย พรส่ง ลูกนา
เดินสู่โรงงานค้าง อยู่ห้องหอปทุม
***ธรรมศาสตร์รังสิตสร้าง ชุมนุม
เป็นเยี่ยมมหาลัยขุม หน่อเนื้อ
บัณฑิตดั่งบัวตุม บานคลี่
ออกสู่สังคมเอื้อ สุขให้ชาวไทย
***ชาวปทุมห่มแล้ว ศีลใส
ทานจ่ายกิเลสไกล ร่างสอ้าน
ปัญญาส่องวิไล เห็นแจ่ม
เพียรบ่คงเกียจคร้าน เชี่ยวแท้ธรรมกาย
*****สุนทรภู่แต่งไว้ในนิราศภูเขาทองว่า
***ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า
พระพุทธเจ้าหลวงบำรุงซึ่งกรุงศรี
ประทานนามสามโคกเป็นเมืองตรี
ชื่อปทุมธานีเพราะมีบัว
โอ้พระคุณสูญลับไม่กลับหลัง
แต่ชื่อตั้งยังอยู่เขารู้ทั่ว
แต่เรานี้ที่สุนทรประทานตัว
ไม่รอดชั่วเช่นสามโคกยิ่งโศกใจ
14 ตุลาคม 2552 08:15 น.
ปติ ตันขุนทด
***ศรีอยุธยาเสื่อมสิ้น ลับตา ลืมฤา
คงแต่ทรากโทรมซา ร่ำไห้
อาลัยแก่อยุธยา กรุงเก่า สยามแฮ
บุญบ่เห็นยามจ้า แจ่มพื้นธานี
***ศรีปราชญ์กวีโอ่เอื้อน คำโคลง
จารแต่งกำศรวลโยง เรื่องร้อย
เมืองนครที่เรือนโรง กรรมแต่ง
เขาฆ่าฟันคอคล้อย สู่ฟ้าเมืองอินทร์
***มีมากมายอิฐค้าง ดาษดิน
เตือนจิตคิดครวญถวิล ก่อนนั้น
ปราสาทเอี่ยมลอออินทร์ ครองอยู่
ปรางโบสถ์วิหารชั้น ผ่าฟ้าลอยลง
***สินแลทองเด่นด้วง กรรมกง
คราอยู่อยุธยาพงศ์ ต่ำต้อย
กองทัพม่านผลาญลง กรุงใหญ่
สองร่วมแรงพลน้อย ต่อสู้ชิงเมือง
***อยุยาเรืองเมื่อสร้าง เดิมที
พระอู่ทองเห็นดี เขื่อนคุ้ง
รายรอบห่มธานี ดูแกร่ง
ศึกแต่ตกออกรุ้ง เหนื่อยแท้เอาชัย
***กรุงไกรมลายล่มแล้ว อาลัย
ทัพพม่าเผาบรรลัย กู่ร้อง
เอกทัศน์โง่ฤาไร สยามพ่าย
เป็นแต่อนิจจังจ้อง แก่แล้วตายตาม
***สุริโยทัยแม่เจ้า จอมสยาม
ตายแต่ตัวคงความ เก่งกล้า
ประวัติแง่งอนงาม ยังอยู่
พระหลั่งเลือดโลมหล้า ต่อต้านไพรี
***พุทธสรรเพ็ชรหม่นไหม้ มลายหนี
มารม่านทำยำยี เพื่อได้
ทองคำค่ามากมี พระหล่อ
บาปส่งอเวจีใช้ ชั่วสิ้นกัปป์กัลป์
14 ตุลาคม 2552 08:00 น.
ปติ ตันขุนทด
***นิลพรรณผิวร่มไม้ ใบบัง บ่มนา
คลุมห่อมิตรภาพขัง ซ่อนซื้ง
นิลนางอย่าชิงชัง เรียมพี่
ปองเปี่ยมรักเต็มบึ้ง สี่ห้องหัวใจ
***ธรรมใสใจผ่องแผ้ว โลโภ
กรรมบ่พาลพาโล เพื่อนพ้อง
ละเลิกหยิ่งโยโส ลวงเล่ห์
ใครข่มฤาเคืองข้อง ขุ่นไข้จองนาน
***นิลสวรรค์ลงสู่พื้น ดินดาน
จิตอิ่มเอมโอฬาร ใคร่เอื้อม
ตรึกตรองแต่เพรงกาล หยุดอยู่
บุญบ่เทียมงดเงื้อม ข่มห้ามอาลัย
***ทานศีลนิลแม่สร้าง ปางใด
จึงร่ำรวยเกินใคร แข่งได้
รวยศีลย่อมสดใส ทานห่อ
บุญส่งเคียงเทพไท้ สู่ห้องดาวดึงส์
***ใครคลึงครองคู่น้อง นิลพรรณ
เธอเปื่ยมบุญอนันต์ ห่มเนื้อ
อาทิตย์ย่อมเคียงจันทร์ ควรคู่
จงอย่าแรมรางเรื้อ อุ่นเอื้อนิรันดร์