7 มกราคม 2553 16:59 น.
ปติ ตันขุนทด
ใจเด็กยังอ่อนด้อย เขลานัก
รออุ่นไอจากรัก ทั่วหล้า
การใดอย่าหาญหัก ตีด่า
ดูช่วยกันเถิดอ้า ค่าคุ้มเงินตรา
6 มกราคม 2553 08:34 น.
ปติ ตันขุนทด
ไฟตะเกียงส่องจ้า งามนวล
แมลงเกลื่อนบินชวน เล่นบ้า
ตายไปใหม่มาอวล มากหมู่
ดังเช่นคนเมากล้า เล่นร้อนกามคุณ
5 มกราคม 2553 15:40 น.
ปติ ตันขุนทด
สุริยันส่องฟ้า โลมดิน
นกต่างพากันบิน ร่อนร้อง
มนุษย์เริ่มหากิน เป็นหมู่
กิจยุ่งเหยิงสานคล้อง เริ่มด้วยตะวัน
4 มกราคม 2553 14:50 น.
ปติ ตันขุนทด
ยามสบตาต่อเจ้า ใจหวาม
รักดั่งไฟเลียลาม อกไหม้
คิดถึงอยู่ทุกยาม นุชพี่
สวาทกรุ่นเป็นคนไข้ เพื่อน้องรักษา
ถึงชีวาดับม้วย ถูกเผา
รักมั่นในนงเยาว์ ชาติหน้า
อธิษฐานว่าสองเรา ครองแต่ง
เสพอิ่มกามคุณห้า ค่ำเช้าผูกพัน
31 ธันวาคม 2552 09:23 น.
ปติ ตันขุนทด
สามสิบเอ็ดส่งท้าย ธันวา คมนา
กายแก่อีกพรรษา นั่นแล้ว
เกิดเจ็บป่วยชรา คงอยู่
ตายไป่มีคลาดแคล้ว แก่ผู้ใดเลย
เคยเป็นคนหนุ่มน้อย งามดี
เยือนย่างหกสิบปี อ่อนล้า
ทุกข์สุขผ่านนานปี นึกหน่าย
นับเพิ่มสิบปีหน้า บ่ช้าลงโลง
ใจคดโกงก่อนนั้น ตามเขลา
เออนั่นหญิงชายเรา คลั่งบ้า
ทรัพย์สินมุ่งคิดเอา ยึดมั่น
งมโง่กาลนานช้า นั่นล้วนบาปเวร
เห็นหญิงชายทั่วหล้า ทุกข์จน
กินอยู่สาละวน ใส่ท้อง
ใจโลภยิ่งมืดมน พาชั่ว
ลืมบ่มศีลธรรมคล้อง เสื่อมสิ้นทางสวรรค์
นรกสวรรค์มันว่าชี้ หลอกกัน
ใครนั่นไปเห็นมัน เมื่อหน้า
ตายไปย่อมสูญพลัน ทุกร่าง
คนชั่วคิดหยาบช้า ดั่งนี้มิจฉา
พระศาสดาท่านแท้ สัมมา
ดีชั่วธรรมเทศนา บ่งไว้
ศาสนิกที่ปรีชา เห็นเชื่อ
ทำแต่บุญทานได้ สู่ฟ้าภิรมย์
คนโสมมย่อมร้อน อเวจี
กายอยู่ใจเป็นผี ชั่วช้า
ศีลธรรมบ่เห็นดี เหินห่าง
พอกเพิ่มบาปถามท้า ท่านเจ้ายมบาล
นิรวารนี่นี้ สุขศานต์
มรรคนั่นนับแปดบาน ส่องชี้
ปัญญาเบื่อสังขาร แปรเปลี่ยน
ลาทั่วไตรภพนี้ เมื่อรู้จักรธรรม
พุทธบริษัทสี่เส้า ประจำ
สืบต่อศาสนธรรม คู่หล้า
ชนใดท่านเพียรกรรม ศีลผ่อง
อาจฆ่ากิเลสบ้า ช่วยให้โลกดี
วาระปีใหม่นี้ นรชน
สุขเพิ่มพูนพรากจน สร่างเศร้า
โรคภัยอย่าเวียนวน เบียนร่าง
ครองคู่ผัวเมียเคล้า เด่าดิ้นยินดี