12 มิถุนายน 2553 10:05 น.
ปติ ตันขุนทด
ภาษีไทยหล่อเลี้ยง ปวงชน
เก็บห่อจากทุกคน จ่ายอื้อ
กระสุนฆ่ายิงคน ไทร่าง ลงนา
มาแต่ภาษีซื้อ ส่งเข้าทัพไทย
11 มิถุนายน 2553 07:42 น.
ปติ ตันขุนทด
นภาพรหมศักดิ์น้อง เขียนกลอน
กระจกส่องใจสอน เอ่ยเอื้อน
คนใดแจ่มสัญจร ใดถิ่น
ทุกข์แต่ทำภาพเยื้อน แต่งแสร้งดูใส
เขียนกลอนดีแต่งไว้ เตือนใจ
เรียมอ่านคิดจิตใน ส่องแจ้ง
กระจกที่ใครใคร เห็นอยู่
มองส่องดูประแป้ง แต่ล้วนอำพราง
10 มิถุนายน 2553 15:52 น.
ปติ ตันขุนทด
สาวพิกุลแห่งด้าว อุดร
เรียมครุ่นคิดอาทร ห่วงแท้
นุชนางนั่งเดินนอน ใครคู่
กินอยู่อาพาธแพ้ ป่วยไข้ใครดู
เธอเป็นครูเก่งได้ สอนเด็ก
เพียรบ่มคนตัวเล็ก เร่งรู้
ความคิดดั่งหลาวเหล็ก คมแกร่ง
ขอแต่งแปงเป็นชู้ อยู่ซ้อนสืบสงวน
จนทรัพย์สินพี่สิ้น นาสวน
เป็ดไก่หมูหมามวล ช่างไร้
คิดไปไป่งามควร หมายแม่
มีแต่มีดขวานไว้ ก่นสร้างติดตัว
เป็นเมียผัวอยู่ด้วย ความสัตย์
มิห่างหายปฏิบัติ สี่ห้า
คลองฮีตดั่งเป็นฉัตร เป็นร่ม
สองร่วมสุขกันอ้า ค่อยสร้างเงินคำ
10 มิถุนายน 2553 07:30 น.
ปติ ตันขุนทด
พินทุอรแม่พริ้ง เพริศพราย
จิตส่งกุศลถวาย แด่ไท้
บุญทานแม่มิวาย เติมแต่ง
หมายสู่นิพพานให้ ล่วงพ้นสงสาร
9 มิถุนายน 2553 06:20 น.
ปติ ตันขุนทด
สัญชาติงูเห่าเลื้อย อาจิณ
ซุกซ่อนในโพรงดิน ต่ำใต้
เอาพิษพ่นขบกิน กลืนเหยื่อ
ยามค่ำแลจึงได้ ใส่ท้องโหยหิว
มีพังพอนคล่องพลิ้ว โดดฟัด
งูเห่าเห็นชะงัด ขู่ฟู้
พังพอนเผ่นโจนกัด งูพ่น พิษนา
สองบ่ยอมสองสู้ ต่างแค้นเคืองกัน
หลวงตาเกษมท่านสิ้น วัฏฏสาร
กิจมุ่งพระนิพพาน ผ่านแล้ว
เห็นสองต่างปองผลาญ กินฆ่า กันนา
จึงเอ่ยวาจาแจ้ว อยู่ยั้งใครมัน
สองสัตว์ฟังต่างย้าย หนีกัน
สองเชื่อองค์อรหันต์ กล่าวถ้อย
เกษมสุขต่อชีวัน สองฝ่าย
ธรรมส่องสองคลาคล้อย ห่างเว้นจากเวร
เป็นมนุษย์สุดเก่งกล้า จองเวร
หมายฆ่ากันเพราะเหน ต่างนั้น
ชีวันว่ายเวียนเจน ติดบ่วง บาปนา
หยุดก่อเวรจึงดั้น สู่ด้าวโสดา