25 มิถุนายน 2550 06:29 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
จตุคามยามนี้เฟื่องฟุ้งนัก
มีคนทักของเก้เห่จัดหา
วัดน้อยใหญ่มีกันคณนา
มากเกินกว่าจะรับนับกันเอง
พุทธองค์ทรงเน้นปฏิบัติ
เพื่อเพียรขัดเกลาใจให้รีบเร่ง
คืนและวันผ่านไปให้ยำเกรง
อย่ามัวเบ่งอวดลองของขลังกัน
พุทธคุณแต่ละบทสะกดจิต
ให้ควรคิดคำนึงถึงเหตุนั่น
ทรงสอนเหตุชี้เภทภัยโรมรัน
อย่าเหหันปั่นอยู่หมู่จตุคาม
สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงมิกลิ้งกลอก
แต่อย่าหลอกตนเองเบิ่งเกินห้าม
ตนเตือนตนดีกว่าคนว่าปราม
เพราะอาจข้ามสิทธิที่ส่วนตัว
ยิ่งพระนำทำเองเร่งปั้มใหญ่
จะมีใครชี้ทางหว่างดีชั่ว
เร่งก่อสร้างมากมายใจพันพัว
รอบถ้วนทั่วสร้างไว้ใครดูแล
เมื่อล้มหายตายจากซากเหล่านั้น
ก็มีอันหักพังยังไม่แน่
หันมาสร้างธรรมไว้ในดวงแด
คนไม่แห่ก็สุขปราศทุกข์ภัย
....................
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๐
รูปภาพจาก http://www.bloggang.com/data/prachaya555/picture/1131978655.jpg
22 มิถุนายน 2550 04:34 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
http://www.archanwell.org/article/images/royalbarge3_web.JPG
ต่างก็มีภาระหน้าที่อยู่
ต่างต่อสู้ตามทางอย่างที่ฝัน
ต่างมุ่งหมายไว้ว่าจะฝ่าฝัน
ต่างคืนวันต่างจิตต่างคิดครวญ
ต่างสู้ทนด้นดั้นหาฝันใฝ่
ต่างตั้งใจมุ่งมั่นกันทั่วถ้วน
ต่างล้มลุกคลุกคลานผ่านกระบวน
ต่างก็หวนคำนึงถึงตนเอง
ต่างก็ทุกข์ประจำทำงานหนัก
ต่างก็พักเอาแรงแข่งงานเร่ง
ต่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาบรรเลง
ต่างฟังเพลงชีวิตพินิจตรอง
ต่างเป็นแรงกำลังต่างผสาน
ต่างวิญญาณต่างพ่อแม่แต่เกี่ยวข้อง
ต่างพึ่งพาอาศัยใฝ่ประคอง
ต่างพี่น้องร่วมโลกโศกเศร้าเป็น
ต่างชีวิตจิตใจต่างไขว่คว้า
ต่างก็กลัวความตายมองไม่เห็น
ต่างมีความรู้สึกร้อนและเย็น
ต่างประเด็นต่างคิดพิจารณา
ต่างดวงใจใฝ่หาคราเหงาจิต
ต่างก็คิดเรื่อยไปใจสรรหา
ต่างก็หวังมีสุขทุกเวลา
ต่างหันหน้ามาดูรู้ต่างใจ
...................
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๐
21 มิถุนายน 2550 04:18 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
http://wutthiphan.aone-comm.com/images/myhome2.png
ความอิจฉาริษยาที่ในโลก
นำมาซึ่งความโศกวิโยคหนัก
ก่อเกิดจากความไม่สมใจรัก
จึงแปรพักตร์เปลี่ยนไปแค้นใจจำ
โลภโกรธหลงคงไม่ไร้วันสิ้น
ต่างก็ดิ้นรนไปใจก็พร่ำ
ปากก็เอ่ยเผยออกบอกใบ้คำ
ทั้งชี้นำให้แตกแยกจากัน
ช่างวุ่นวายหลายหลากหน่วงหนักยิ่ง
ต่างก็วิ่งขันแข่งแย่งห้ำหั่น
สารพัดจัดพรรคมากร้อยพัน
หวังฟาดฟันอีกฝ่ายให้จ่อมจม
ความเคยมีดีได้ไม่รู้ปล่อย
จึงจ้องคอยหาทางต่างสั่งสม
ทั้งอำนาจเงินตราค่านิยม
เพื่อหวังล้มอีกฝ่ายให้เสียคน
ประเทศไทยวันนี้มีแต่งข้อง
เรื่องมัวหมองประจานปลายสับสน
นำมาโยงใยต่อก่อเงื่อนปน
ให้วกวนเสียท่าหวังจะคืน
แปดสิบปีพ่อหลวงน่าห่วงนัก
ลูกไม่รักสามัคคีบีฑาขืน
ทั้งขัดแย้งแย่งกันฟาดฟันปืน
กระสุนยื่นจ่อปากหากไม่ยอม
ครอบครัวที่ไร้รักสามัคคี
นับวันที่จะล้มทั้งจมจ่อม
สรรถสาแหรกแตกขาดคลาดประนอม
มีแต่พร้อมฟาดฟันให้บัลลัย
อะไรเล่าคือความจุดร่วมแก้
เห็นมีแต่อ้าปากรักชาติใหญ่
แต่ที่เห็นเป็นอยู่สู้เพื่อใคร
มองเท่าไร่เห็นพรรครักแต่ตน
....................
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๐
อยากเห็นประเทศไทยเป็นประเทศ "ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทย ทวีมีชัย ชโย" อย่างแท้จริง
ไม่ใช่ "ไทยนี้ไม่สงบ ถึงยามรบขี้ขลาด เอกราชข้านี้ไงได้ข่มขี ละเลงเลือดทุกหยาดสาดเต็มที่ ถล่มประเทศชาติไทย ให้มันบัลลัย (แล้ว) ชโย" อย่างที่เห็นกันตามข่าวสารเกี่ยวกับ "ประเทศไทยรายวัน"
18 มิถุนายน 2550 09:11 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
http://www.thaipoem.com/forever/img/member/16641.jpg
ขอปลดเปลื้องเรื่องรักพักไว้หน่อย
แล้วค่อยค่อยพากเพียรเรียนศึกษา
จำจรจากพรากข้ามทวีปมา
เพื่อหวังว่าจะเรียนเพียรฝึกตน
ขออยู่ตามลำพังแม้ยังเหงา
คงบรรเทาสักวันอันความหม่น
เรื่องรักใคร่ได้มาแนบกมล
ยังมิพ้นผ่านปีมีเปลี่ยนแปลง
ขอเผชิญเดินดุ่มสุ้มสร้างฝัน
รอถึงวันพร้อมก่อนค่อยย้อนแหล่ง
สู้เก็บงำจำจดบทแสดง
รอวันแข่งอีกครั้งยังพอทัน
หากไร้ซึ่งวิชาแม้ท้ารบ
มีหวังจบเสียหายใจหวาดหวั่น
ตั้งหน้าเรียนเพียรดูสู้ฝ่าฟัน
เคยทำบุญร่วมกันคงหันคืน
เหนื่อยและหนักพักผ่อนเสี้ยมสอนจิต
แม้จะคิดถึงเธอละเมอฝืน
เตรียมตัวให้ใจพร้อมซ้อมหยัดยืน
ค่อยหยิบยื่นศรรักปักใจเธอ
..............................
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๐
14 มิถุนายน 2550 05:15 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
หากฉันเป็นเช่นนกที่ผกผิน
จะโบยบินเรื่อยไปตามใจฝัน
มองวิหคเหินฟ้ายามสายัณห์
ลมเหมันต์ผ่านพ้นยังวนคิด
คืนและวันนั้นเปลี่ยนเวียนวนเรื่อย
มิชาเฉื่อยเหมือนใจข้องไหวติด
ยังวกมาหาความเคยเชยชิด
เพ่งพินิจหวนหาอารมณ์เดิม
อีกความฝันวันหน้ามาไม่ถึง
มักคำนึงถึงอยู่พรั่งพรูเพิ่ม
ยากจะหักห้ามจิตคิดแต่งเติม
เหมือนส่งเสริมความคิดพินิจดู
ยิ่งยามไปไกลจากพรากฐานถิ่น
ใจถวิลหวนหาเวียนมาสู่
จะลุกนั่งยืนเดินประเมินรู้
ใจยังกู่ก้องเรียกเพรียกวันวาน
จะขีดขั้นปัจจุบันให้มันอยู่
ต้องต่อสู้กับตนบนทางผ่าน
อารมณ์เก่าเคล้าใหม่ในดวงมาน
เฝ้าฟุ้งซ่านเรื่อยไปไม่มั่นคง
ศึกภายนอกบอกได้ไม่หนักเท่า
ศึกภายในใจเราเฝ้าลุ่มหลง
มิรู้เป็นข้าศึกนึกบรรจง
มิวางปลงสักทีนี่หนอคน
---------------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๓ มินายน ๒๕๕๐
ขออภัยเจ้าของกระทู้ไม่สามารถที่ไม่สามารถตอบกระทู้ได้ โพสได้อย่างเดียวเด้อ
ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก
http://www.trekkingthai.com/board/Avartar/trekking/pUNdS54H.jpg