30 กันยายน 2555 22:42 น.
บุหรง
การได้รู้จักใครสักนับว่าเป็นวาสนา...
ถ้าพบพานนั้นนับว่าบุพเพนำพามาให้พบพานอาจเป็นเพราะในชาติอันใกล้เคยร่วมทำบุญตักบาตรไม่ว่าหญิงหรือชาย จึ่งทำให้ได้มาพบพานสร้างรอยกรรมไว้แก่กันอีกในชาติภพปัจจุบัน บ่อยครั้งที่มักสงสัยมีคนเป็นล้านคนแต่ไม่อาจบอกเหตุผลได้ทำไม? ต้องเป็นคนนี้ที่ต้องพบ ต้องเจอ ต้องรู้จัก แล้วคนอีกในจำนวนหนึ่งล้านที่เหลือนั้น ทำไมจึงไม่รู้ไม่คุ้นเคย ไม่มีผลต่อการทำปฏิกิริยาเคมีใดๆ ในร่างกาย
แต่เมื่อได้รู้จักหรือเริ่มเรียนรู้ใครสักคน เราๆ มักคาดหวังว่าเขาจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ โดยลืมไปว่าเราไม่ใช่ศูนย์กลางของเขาที่จะมีอิทธิพลชักนำได้ และเมื่อพบว่าสิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่เป็นนั้น แตกต่างกันสิ้นเชิง จึงพยามบอกตัวเองอยู่เสมอๆ ว่า "อย่าคาดหวังให้ใครเป็นดั่งใจเรา" และบอกใครทุกคนว่า "อย่าคาดหวังใดๆ กับฉัน" เพราะฉันไม่อาจเป็นทุกอย่างที่ใครต้องการได้
เพียงแต่ขอร้องไว้ใครก็ตามที่เขามาหรือเพียงผ่านเข้ามา เพราะคนเราเพียงผ่านมาเพื่อผ่านไปอย่าสร้างเกาะหรือกำแพงซ่อนอะไรไว้เลย อีกไม่นานก็จากกันไปแล้ว ได้โปรดอย่ามาสร้างภาพลวง อย่ามาทำให้สับสน อย่ามาทำเพียงเพื่อลองดีหรือลองใจ เพราะหากเมื่อใดที่รู้ความจริง หัวใจที่เด็ดเดี่ยวเคยมีมาแต่เดิมมักจะตัดออกไปจากระบบไม่ว่าอย่างไรก็อภัยให้ทุกอย่าง
เพียงแต่อยากบอกว่าเมื่อใดที่หัวใจที่เด็ดเดี่ยวนี้ตัดสินไปแล้ว ก็เหมือนกับเวลาที่เดินไปเปรียบดั่งสายน้ำ เพราะสายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ คนเราก็คงเหมือนกันเดินไปอย่างเด็ดเดี่ยว คงไม่อาจเดินกลับหลังหันเพื่อมารับฟัง รับรู้คำโกหกหลอกลวงได้อีก แม้ว่าหนทางข้างหน้านั้น จะมืดหม่น มืดมิดไร้แสงสว่างก็ตาม หรือแม้จะเป็นสุดขอบเหวก็คงไม่ย้อนกลับไปได้อีก...
อาจจะมีบ้างบางครั้งหันหลังกลับไปมอง แต่เปล่าเลยยังไงก็ไม่เดินย้อนกลับไปเพียงแต่อยากเหลียวกลับไปมองว่าคนที่อยู่ข้างหลังนั้นยังมีความสุขดี แต่คงไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิน บางสิ่งอาจทดแทนบางสิ่งได้ บางอย่างอาจทดแทนบางอย่างได้ หรือบางสิ่งอาจทดแทนบางอย่างได้ เวลาเมื่อหมดไปย่อมไม่ได้คืน เราทุกคนจึงอยู่กับปัจจุบันตรงหน้าและตั้งสติเดินไปพร้อมกับวันเวลา
ใช่..."ฉัน" เคยหวังว่าคุณคือที่สุด และดีที่สุดนั่นเป็นภาพในใจเสมอมาและพยายามหลอกตัวเองเสมอมาว่าคุณจะไม่ทำร้ายฉัน แต่เปล่าเลย เพราะยิ่งนานวันมันยิ่งชัดเจน พอทุกอย่างเริ่มชัดมันทำให้ฉันรู้สึกกลัว กลัวสิ่งที่คุณเป็น ความศรัทธา ความเชื่อมั่น ที่ฉันเคยมีให้คุณมันค่อยเลือนไปเรื่อยๆ จางไปเรื่อย ก่อนนั้นฉันรู้สึกตื่นเต้นกับการเรียนรู้กับการอ่านหนังสือ(อ่านคุณ) แต่ทว่า.... หนังสือเล่มนี้ที่ฉันอ่านนานวันยิ่งทำให้ฉันไม่อยากรู้ตอนจบของ ฉันจึงปิดหนังสือเล่นนี้ซะทั้งที่ยังอ่านได้เพียงไม่กี่หน้า จำเป็นต้องเลิดปิดก่อนที่ฉันจะเริ่มหมดศรัทธาในตัวบุคคล แต่ในขณะเดียวกันฉันเริ่มเห็นบางอย่างพร้อมกับทำให้ฉันรู้ใจตัวเอง ความคิดของคนเราไม่มีผิดไม่มีถูกแต่ควรมีขอบเขต แสดงอย่างเหมาะสมตามกาล ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
ใช่....ฉัน "หวัง"
หวังว่า "คุณจะไม่เป็นเช่นภาพที่ฉันเห็น" เพราะฉันยังคงเชื่อความรู้สึกแรกตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
ขอให้คุณโชคดี...และมีความสุขอย่างแท้จริงกับสิ่งที่คุณพยายามสร้างมันเพื่อเป็นเกาะกำบัง...
28 กันยายน 2555 00:15 น.
บุหรง
อากาศร้อนแบบนี้โกโก้ปั่นสักแก้วก็ทำให้สดชื่นได้ไม่น้อยทีเดียว หญิงสาวผมยาวสลวยสูงราว 160 เซนติเมตร ผิวขาวผ่องในชุดเดรสกระโปรงบานสีน้ำทะเล
ดูแล้วลงตัวกับบุคลิกท่วงท่าของเธอและดูขลับผิวให้ผ่องเนียนผนวกกับแสงไฟสีเหลืองนวลยิ่งทำให้ยวนตาน่าพิศให้เพลินนัก อย่างนี้สินะ "ผู้หญิงคลาสสิค" ดูไม่หวือหวา ไม่หรูหราเกินงาม แต่พิศเพ่งแล้วสวยเรียบเก๋ งามอย่างน่าค้นหา แต่ใยไม่ลึกลับ กลับเย้ายวนชวนให้มองเพลินรื่นรมย์จรรโลงใจ พิศนานเท่าใดมิใคร่เร้าร้อนแต่กลับชื่นสดใสในดวงหน้าเรียบสงบแต่มีมนต์เสน่ห์ล้ำ
"ปาหนัน" หญิงสาววัย 32 ปี เธอผู้มีชีวิตที่เรียบง่าย แต่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่มีคุณค่า เธอมักถามตัวเองอยู่เสมอๆ ว่าทุกลมหายใจ ได้ทำความดี ได้ทำสิ่งที่ดีในชีวิตในช่วงเวลาที่เสียไปได้อย่างดีที่สุด สุดกำลังแล้วหรือยัง การดำเนินชีวิตตั้งแต่เดินออกจากรั้วมหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมเธออุทิศให้กับงานในหน้าที่ และความเป็นอิสระแห่งสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว คำตอบในโลกนี้มีมากมายเราไม่อาจยึดสิ่งใด สิ่งหนึ่งเป็นศูนย์กลางได้ ไม่มีคำตอบใดของคำถามใด ที่จะเป็นเพียงคำตอบเดียวในชีวิต การก้าวเดินบนทางเดินของชีวิตด้วยความระมัดระวัง ซึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและหวาดระแวงกับสิ่งที่แวดล้อม ทำให้เธอกลายเป็นคนใครก็เข้าถึงได้ยาก ไม่ได้มีโลกส่วนตัวสูงแต่มักอัธยาศัยดี แต่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี แต่มีช่องว่างเว้นห่าง ไม่มีใครสามทำให้ช่องว่างสามช่องให้เหลือเพียงช่องเดียวได้ ไม่มีใครเติมพื้นที่ว่างนั้นได้และคงไม่มีตลอดไป
เธอก็เพียงหญิงสาวธรรมดาที่ล่วงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ยิ่งทำให้ใครที่อยากปฏิพัทธิ์สัมพันธ์กับเธอยิ่งยาก ทุกคนต่างไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยเข้าใจว่าเธอต้องมีเจ้าของ
ความเข้าใจผิดนี้กลายเป็นเกาะป้องกันหรือกำแพงกั้นไม่ให้ใครกล้าที่จะทำความรู้จัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีซะทีเดียว กลับมีชายหนุ่มเจ้าชู้ที่หล่อเพี้ยวพ่วงไว้ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วน สาวๆ ล้วนจับตาจดจ้องขย้ำดุจเสือจะขย้ำเยื่อแต่ไม่ใช่เธอ "ปาหนัน"
กวิน...ชายหนุ่มที่แอบมองเธออยู่ห่างๆ เป็นเวลานานหลายปี แต่ไม่เคยแสดงตัวว่าเขาจับตาดูเธออยู่ ทุกครั้งที่เขาอยู่ในร้านกาแฟจะเป็นเวลาที่เธอเปิดประตูเข้าภายในร้านและทุกครั้งต้องสบตากับเขาทุกครั้ง กวินแอบลอบมองโดยที่สาวเจ้าไม่เคยรู้ เขาแอบมองทุกท่วงท่ากริยาของเธอและเก็บมันไว้เป็นภาพในใจเรื่อยมา
การได้พบเห็นอยู่ห่างโดยที่ไม่ต้องรับรู้นั้นคือสิ่งที่เขาต้องการ เขาไม่ได้ต้องการให้หญิงสาวสวยเรียบคนนี้มาคบเป็นแฟน เพราะกวินเข้าใจว่าเธอคงแต่งงานและมีสามีแล้ว หลายปีที่ผ่านเขาไม่ติดตามไม่ค้นหาเพียงแต่ได้เห็นเธอและเขาจะไม่ทำให้ความสัมพันธ์หรือปลูกมันให้งอกงามขึ้น เขาเพียงอยากเห็นเธออย่างนี้
นานมากแล้ว ที่ปาหนันเขียนจดหมายติดแสตมป์แล้วหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ เธอคิดเองเล่นๆ ว่าบุรุษไปรษณีย์เป็นผู้ส่งความรัก สักวันหนึ่งที่เขาจะส่งความรักที่มั่นคงมายังเธอ และเธอยังคงเขียนมันทุกครั้งที่จะเขียนได้ทุกครั้งที่ใจอยากจะเขียนเพื่อส่งถึงคนที่รัก
เธอมักใช้เวลาที่มีน้อยนิดไปกับการเขียนจดหมายและอ่านหนังสือ นั่นคือชีวิตที่มีความสุขที่สุดแล้วกับการได้ทำสิ่งที่รักเพื่อส่งถึงคนที่รัก คือความสุนทรีย์ของความรู้สึก อึ่มมม....ลุ่มลึก แผ่วเบา อ่อนโยน บางเบา หอมละมุน อบอุ่นในห้วงฝันลึกๆ ลายมือที่เขียนเป็นระเบียนหวัดเล็กน้อยแต่อ่านง่ายมองแล้วสวยงามสบายตา เธอบรรจงเขียนมันด้วยความรักที่จะส่งไปถึงคนรัก เธอใช้ลายเส้นของปากกาที่บรรจงเขียนนี้ไปใกล้ชิดคนรักแม้ว่าระยะทางจะห่างไกลแต่เธอมั่นใจว่าหัวใจชิดกัน
"แต่วันเวลาช่างเชื่องช้าเหลือเกิน ฉันไม่อยากรับรู้วันคืนใดเลย เพราะมันทำให้ฉันคิดถึงคุณ"
นี่เป็นเพียงบางส่วนของจดหมายและเธอมักลงท้ายว่า "ปล.คิดถึงนะ"
ยังมีตอนต่อไป...
9 กันยายน 2555 23:48 น.
บุหรง
คำว่า "ไม่สำคัญ" คือนานับเหตุผลที่จะรองรับสำหรับบางใจ
และไม่มี "เหตุ" ที่จะทำให้ "ผล" เหมือนกัน ความละเอียดทางด้านจิตใจนั้นวัดกันไม่ได้หรอก เรื่องเล็กสำหรับบางคนหรือบางใครอาจเป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับบางใจ เรื่องไร้สาระสำหรับใครหนึ่ง อาจมากสาระซึ่งเป็นแก่นแท้ของความรู้สึกที่จริงจากใจ
ด้วยเพราะเรา...
ต่างจิต ต่างใจ ต่างความรู้สึกนึกคิด
จึงทำให้ความผูกพันที่เป็นเส้นใยแสนเปราะบางนั้นสะบั้นมิเหลือใย...
เมื่อต้นปีฉันเดินทางมาอาศัยอยู่ในเมืองนี้
ด้วยภาระหน้าที่ และความคาดหวังที่สูงสุดพร้อมด้วยการประมวลภาพระหว่างดำเนินชีวิตแล้วเขียนมันขึ้นใหม่ เพื่อเรียนรู้รูปแบบใหม่อย่างอีกหนึ่งมนุษย์ ซึ่งไม่เคยคิดว่าต้องพลัดพรากจากเมืองเกิดและบุคคลอันเป็นที่รักมาไกลเพียงนี้
ฉันมานึกย้อนก่อนที่จะมาอาศัยอยู่เมืองนี้ พร้อมๆ กับทำให้นึกไปถึงใครคนหนึ่ง ซึ่งมีผลกับการมาเยือนและอาศัยอยู่ในเมืองนี้ เขาคนนี้มีส่วนทำให้ฉันได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้ ไม่หรอกฉันไม่ได้มาเพื่อตามหาเขา และไม่คิดว่าจะต้องพบเจอเขาฉันไม่ต้องการพบเขา เพราะอะไรหรือ? เพราะว่าหัวใจฉันอ่อนแอเกินไป รวมถึงจิตใจของฉันมันบอบซ้ำเกินกว่าจะเยียวยาให้เข้มแข็งมากพอที่จะฝืนยิ้มให้เขาได้ แต่ฉันก็สำนึกเสมอว่า...เขาเป็นผู้ที่มีส่วนทำให้ฉันได้เดินทางมาที่นี่ และทำให้ฉันหายจากความสับสนในชีวิต ที่คอยรุมเร้าทำร้ายฉันเสมอมา เขาทำให้ฉันเห็นสว่างของชีวิตพร้อมกับทำให้ชีวิตมีความหมายในการทำสิ่งดี และยืนได้อย่างมั่นคง เขาเองคงไม่รู้หรอกว่าทำไมเขาจึงมีส่วนช่วยฉัน และฉันคงไม่เล่าผ่านอักษร ณ ที่แห่งนี้
เพียงแต่อยากบอกเขารู้เพียงว่า"น้องขอบคุณ ขอบคุณมากๆ สิ่งดีดีที่น้องได้รับ." ^^
ทุกครั้งที่ฉันไปยืนบริเวณท่าเรือของเมืองนี้
มันทำให้ฉันคิดเล่นๆ ทุกครั้งว่า ฉันกับเขาอาจเดินสวนกันไป-มา ก็เพราะว่าเขาเป็นคนเมืองนี้ แต่ฉันพร่ำวอนขอพรฟ้าว่าอย่าทำให้เรารู้จักกัน เพราะอีกไม่นานฉันก็ต้องจากเมืองนี้ไป เมื่อใดที่ภาระกิจและหน้าที่นั้นสำเร็จลุล่วงแล้ว ฉันต้องกลับไปหาอ้อมกอดของครอบครัวของบุคคลอันเป็นที่รัก ยังเมืองเกิดที่ฉันจากมา ฉันปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น ฉันคิดถึงผืนทุ่งที่กว้างไม่ใช่ตึกสูงลิ้วบดบังมองช่างอึดอัดยิ่ง
ฉันเชื่อบุพเพจะไม่เล่นตลกกับฉันอย่างแน่นอน
และฉันปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น