31 สิงหาคม 2545 22:03 น.
บุษราคัม
ใยถึงเอา เหล่าคชา มาอยู่กรุง
ต้องสะดุ้ง เสียงรถรา น่าสงสาร
บ้างถูกชน จนแข้งขา มาพิการ
ทรมาน เจ้าป่า น่าเวทนา
แต่ก่อนนั้น ช้างไทยยัง อยู่ในไพร
เป็นสัตว์ใหญ่ คู่ชาติไทย อยู่คู่ป่า
ยุทธหัตตถี จารึก วีรกรรมนา
ถึงคชา ช้างศึกสู้ กู้แผ่นดิน
เพราะแผ่นดิน แล้งแค้น แสนลำบาก
ช้างและคน ทนตกยาก พรากจากถิ่น
คนเลี้ยงช้าง ช้างเลี้ยงคน ด้นหากิน
ต้องพลัดถิ่น ดิ้นรน ทนกันไป
พาช้างมา ลำบากเลี้ยงปากท้อง
เจ้าป่าต้อง น้ำตานอง อกหมองไหม้
ถูกตัดงา แถมยังมา จากป่าไพร
น่าเสียใจ ทำไมจึง ถึงระกำ
นี่หรือสิ่ง ตอบแทน แสนทุกข์เข็ญ
หรือเพราะเป็น สัตว์จึง ถึงชอกช้ำ
ความยากจน คนและช้าง ต่างระกำ
ขอรัฐช่วย อุปถัมภ์ แก้ปัญหาที
30 สิงหาคม 2545 22:37 น.
บุษราคัม
เมล็ดพันธุ์ อันหยั่งราก จากจิตใจ
คือสายใย ไมตรี อารีสมาน
ชูช่อรวง ดวงดอก ออกเบ่งบาน
เป็นตำนาน เล่าขาน อยู่นานมา
ถึงสัมพันธ์ ฉันภราดรภาพ
ดังแสงทอง ผ่องอาบ ฉาบแผ่นฟ้า
ดุจน้องพี่ มีใจเอื้อเฟื้อเมตตา
คือ ....มิตรภาพ ล้ำค่า...มาพรมใจ
30 สิงหาคม 2545 22:29 น.
บุษราคัม
เย็นย่ำค่ำสนธยา
สกุณาบินกลับรัง
แสงทองอาบฟ้าเปล่งปลั่ง
ตะวันดังสีทองทา
ทินกรอัสดง
ค่อยบรรจงลับเวหา
รัตติกาลคืบคลานมา
คลุมม่านฟ้าราตรีคืน
ปกคลุมโลกโศกรุ่มร้อน
ให้พักผ่อนอ่อนจิตชื่น
สายลมโบกโชยระรื่น
ในค่ำคืนที่งดงาม
ผ่อนกายาจากงานหนัก
ผ่อนใจพักจากคำถาม
หยุดแบกโลกสักชั่วยาม
แล้วทำตามความตั้งใจ
อิสระจากความคิด
จงใช้จิตพินิตไซร้
ใช้ธรรมะนำจิตใจ
เพื่อแก้ไขปัจจุบัน
พรุ่งนี้ยังมีวันใหม่
อรุโณทัยไม่สิ้นหวัง
จงเก็บเกี่ยวเหนี่ยวพลัง
เปรียบเช่นดังฟ้าราตรี
โลกเรานี้มีสองด้าน
จงอาจหาญปานราชสีห์
แม้ทุกข์ทนล้นทวี
สู้เต็มที่ศักดิ์ศรีตน
มีมืดย่อมมีสว่าง
ใช่อ้างว้างทางมืดหม่น
จงบากบั่นมั่นอดทน
อย่าไปสนคนนินทา
30 สิงหาคม 2545 22:11 น.
บุษราคัม
มองชีวิต เปรียบการขึ้น ลง บันได
เหนื่อยใช่ไหม ก้าวขึ้นไป ขั้นสูงกว่า
แต่ว่าผลตอบแทน ที่ได้กลับมา
นั้นคุ้มค่า กับความเหนื่อย ทนเมื่อยกาย
ลงบันได นั้นง่ายกว่ากัน ใช่ไหม
เดินลงไป ไม่เมื่อย เหนื่อยก็หาย
หากคนเรา เอาแต่พัก รักสบาย
คงวอดวาย เสียหาย ไม่ได้ความ
กว่าจะพบประสพความสำเร็จ
ต้องเหนื่อยเหน็ด ใจเด็ด ไม่ถอยคร้าม
หากลดละ อุสาหะ พยายาม
คงเสื่อมทราม ถูกหยามเหยียบ เปรียบเศษดิน
โลกเรานี้ ไม่มี อะไรที่ง่าย
ต้องขวนขวาย อย่าเหนื่อยหน่าย ถอดใจสิ้น
หากใฝ่ต่ำ ทำชั่ว มั่วมลทิน
ชื่อจักสิ้น หมิ่นศักดิ์ศรี ที่ดีงาม
26 สิงหาคม 2545 01:03 น.
บุษราคัม
สมัยนี้ดนตรีคือธุรกิจ
ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเหยื่อกิเลศ
ตอบสนองบุคคลทั่วประเทศ
เปรียบกิเลศให้หลงมนต์ กลค่ายเพลง
ใช้สื่ออัด ยัดใส่ ในสมอง
เปิดทุกช่อง ทุกคลื่น กระฉับกระเฉง
กลอกรูหู อยู่ทุกวัน มันบรรเลง
จนร้องเพลง เค้าได้ ให้แปลกจัง
หากเนื้อหาในบทเพลงสร้างสรรค์ดี
ดนตรีมีเสน่ห์เป็นมนต์ขลัง
หากแต่งตามกระแสหวังโด่งดัง
ก็จักอยู่ไม่จีรัง ดังไม่นาน
ดูอย่างเพลงศิลปินสมัยก่อน
เช่น ครู เอื้อ สุนทรสนาน
เป็นดนตรี ที่ไพเราะ นิรันดร์กาล
สุนทราภรณ์ คือ ตำนาน งานดนตรี
ใช้ภาษา ไพเราะ สละสลวย
ไม่เอออวย ตามกระแส เช่นทุกวันนี้
งามด้วยศิลปะ พจน์ร้อยถ้อยวจี
เป็นดนตรี ที่ ไพเราะ เพราะจับใจ
------------------------------------------------------