4 กรกฎาคม 2545 16:18 น.
บุษราคัม
โคลงสี่สุภาพ
Oรักเอยยอดกิ่งแก้ว กลอยใจ
สว่างสุกไสว ข่มฟ้า
เฉลายิ่งจอมใจ ขวัญพี่
เอมอิ่มหนอดวงหน้า ปิ่นหล้ายาใจฯ
Oความรักมาห่มฟ้า ตราดาว
เปรียบห่วงเวหาหาว ห่มเนื้อ
ความรักซ่านทรวงราว ดังม่าน วิมาน
รักย่อมจักกูลเกื้อ เกี่ยวก้อยแนบฤทัยฯ
Oหากความรักเที่ยงแท้ ดังใจ
เป็นปิ่นมณีใส ผ่องแผ้ว
แวววับผ่องอำไพ เฉกเช่น เพชรนา
จำรัสงามเพริสแพร้ว ดั่งแก้วสุริยกานต์ฯ
Oความรักมาซ่านซึ้ง อาบทรวง
เปรียบดั่งแสงจันทร์จวง ส่องหล้า
สกาวเช่นเงินยวง ผุดผ่อง งามแฮ
งามอยู่มิเคยล้า ชั่วฟ้าดินสลายฯ
------------------------------------------------------------------------------------------------
3 กรกฎาคม 2545 19:57 น.
บุษราคัม
Oสายลมโชยแผ่วพริ้ว.......รวยริน
เย็นช่ำกระแสสินธุ์.........ฝั่งนั้น
อรุณรุ่งราวจินต์..............เป็นม่าน ฝันแฮ
สว่างมิกางกั้น................เชื่อมฟ้าถึงใจฯ
Oแสงดารากิ่งแก้ว...........พร่างพราว จรัส
คืนค่ำเคหาส์นดาว.........ดื่นล้อม
เปรียบเสน่ห์ของสาว.....ผุดผ่อง งามนา
งามรุ่งประดับห้อม.........ห่มฟ้าโลกาฯ
Oไพรพฤกษ์งามฉ่ำชื้น.....พนา พงไพร
สัตว์ย่อมอาศัยหา...........แหล่งเกื้อ
พระคุณค่ามากหนา........แดนป่า
สูงค่าเพราะคอยเกื้อ......ใหญ่น้อยสัตว์ในพนา
Oมวลบุปผาเสกไว้.......หรือจึง งามจริง
คนย่อมจักรำพึง.........กู่ร้อง
สมบัติน่าตะลึง............สวยเด่น งามแฮ
แมนกู่สวรรค์ก้อง..... ผ่องแผ้วจริงหนอเมืองดินฯ
------------------------------------------------------------------------------------
ปล. กราบขอบคุณ ท่าน วฤก นะคะ ที่เป็นแรงบันดาลใจ
และ แบบอย่าง ในการแต่งโคลงกลอน วรรณศิลป์
แก่ ข้าพเจ้า นะคะ
Oเมธีปราชญ์พรั่งแพร้ว........วฤก ครูแฮ
เปรียบเช่นมณฑาพฤกษ์....ผ่องแผ้ว
โคลงกลอนดั่งมฤคย์...........ปราชญ์เปรื่อง จริงนา
พจน์กล่าวงามเพริศแพร้ว....แจ่มแจ้ง ในอรรถคดี ฯ
ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
บุษราคัม
3 กรกฎาคม 2545 18:08 น.
บุษราคัม
Oอันธรรมะย่อมคุ้ม..................บุคคล ครองธรรม
ปกแผ่ไปทุกหน....................แหล่งหล้า
สถิตย์ทั่วสากล.......................กระทั่ง เมืองแมน
โสมส่องสุรีย์กล้า....................พรั่งพร้อม มงคล ฯ
Oพุทธรรมกล่อมเกลี้ยง.............ฤทัย ผองชน
เปรียบเช่นนภดล..................ปิ่นหล้า
สุกสว่างกมล...........................ผุดผ่อง วิญญู
หากใคร่บำเพ็ญกล้า................กิ่งฟ้า กลางใจฯ
--------------------------------------------------------------------------------
3 กรกฎาคม 2545 18:01 น.
บุษราคัม
Oเมธีปราชญ์พรั่งแพร้ว วฤก ครูแฮ
เปรียบเช่นมณฑาพฤกษ์ ผ่องแผ้ว
โคลงกลอนดั่งมฤคย์ ปราชญ์เปรื่อง จริงนา
พจน์กล่าวงามเพริศแพร้ว แจ่มแจ้งกลอนกานท์ ฯ
Oครูอาจารย์ย่อมชี้ โทษศิษย์
เพื่อสั่งสอนพินิต สิ่งต้อง
ลูกศิษย์ที่ทำผิด เลินเล่อ
ครูย่อมจักต้องฟ้อง เพื่อแก้จุดเลวฯ
Oศิษย์เคารพต่อผู้ อาจารย์
เปรียบเช่นชลธาร หล่อเลี้ยง
แนะนำแต่งกลอนกานท์ ถูกแน่ นอนนา
ตามฉันทลักษณ์เพี้ยง กล่อมเกลี้ยงวรรณกรรมฯ
ปล. โคลง บท นี้ ข้าพเจ้า ขอแต่งเพื่อ เชิดชู ครูกลอน วฤก
ในความรู้ ด้าน วรรณศิลป์ ของท่าน ที่ ข้าพเจ้า ยกย่อง นับถือ และ
ศึกษาเพื่อเป็นแบบอย่าง นะคะ ขอขอบคุณครู วฤก มากๆค่ะ ที่ได้แต่ง
โคลงกลอนดีๆ ให้พวกเรา ได้อ่านอยู่เสมอ ค่ะ
หมายเหตุ : คำว่า ....มฤคย์ หมายถึง สิ่งที่ควรติดตาม , สิ่งที่ต้องการ
2 กรกฎาคม 2545 17:14 น.
บุษราคัม
ขอยกย่อง....ท่านวฤก.......เป็นอาจารย์
ส่วนสืบสาน..โคลงกลอน....วรรณศิลป์
ขอนบนอบ...เคารพครู.......ยิ่งชีวิน
เปรียบดังสินแห่งโลก.........วรรณกรรม
----------------------------------------------------------
ครูช่วยปลูกต้นไม้..............ในความคิด
แก่เหล่าศิษย์.....โอบเอื้อ.....อุปถัมภ์
กลอนของครู.......แฝงไว้ซึ่ง..คุณธรรม
ประเสริญล้ำเลิศใน..............ปรัชญา
----------------------------------------------------------
เปรียบเป็นเพชรน้ำเอก........ยอดกวี
พจน์วจี.........เลิศล้วน...........และล้ำค่า
ทุกถ้อยคำ.....ครูบรรจง..........ช่างสรรหา
นำเอามา.......ร้อยเรียง..........เป็นบทกลอน
-----------------------------------------------------------
ช่วยชี้แนะ....ปัญญา...............ให้แก่ศิษย์
สิ่งใดผิดครูนี้..........................ปราณีสอน
ให้ลูกศิษย์ได้รู้จริง..................เรื่องบทกลอน
ครูสั่งสอน.............คำใดผิด......แก้ไขมัน
--------------------------------------------------------------
พนมกร................นบนอบ........ขอบคุณครู
สอนให้ศิษย์ได้รู้.......................และสร้างสรร
ยึดพ่อครู..............เป็นแบบอย่างคุณอนันต์
ตัวศิษย์นั้น...........เคารพครูจากใจจริง
-----------------------------------------------------------------
ตัวศิษย์เปรียบเช่นเพชรน้ำบุษย์
บริสุทธิ์ใจ นบนอบ.........พ่อครูยิ่ง
ครูเปรียบเป็น...............เพชรน้ำหนึ่ง วรรณศิลป์
ใคร ยล ยิน..................กลอนของครู ก็ชื่นใจ
-------------------------------------------------------------------
ทั้ง โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน..........เป็นพรร่าย
บรรเจิดฉาย............เช่นแสงสุรีย์ใส
จรรโลก...................ด้วยโคลง กลอน.......จรรโลงใจ
ขอนบไหว้................ท่าน วฤก...............เป็น พ่อครู
--------------------------------------------------------------------
ปล.กลอนนี้ ข้าพเจ้า ขอแต่งเพื่อ เป็นเกียรติ และ ยกย่อง
ความรู้ความสามารถ ในเรื่องการแต่ง โคลง กลอน ของ ท่าน วฤก
ไว้ในโอกาสนี้ นะคะ และ ขออขอบคุณยิ่ง สำหรับคำชี้แนะ เรื่องการแต่งโคลงกลอน ค่ะ
นางสาว บุษราคัม พวงทอง