30 มิถุนายน 2545 22:57 น.
บุษราคัม
-------------------โคลง สี่ สุภาพ----------------------
Oใดใดในแหล่งหล้า.........มิอาจ....จีรัง
มีแต่บาปบุญยัง..............ถ่องแท้
ชีวิตไม่จีรัง.....................ครวญคร่ำ โศกนา
สึกหล่อเกินจะแก้.........แก่นแท้ความจริง
---------------------------------------------------------------------------
Oหากจิตใจแกร่งกล้า..........เพียรดี
และไม่ทำอัปรีย์................ชั่วช้า
เพียรทำแต่กรรมดี...........ตัดซึ่ง เลวนา
กระจ่างใจไขว่คว้า............กล่อมเกลี้ยงจิตใจ
-----------------------------------------------------------------------------
Oเมตตาจิตก่อเกื้อ..............การุณ
ยึดมั่นในบุญคุณ..............เที่ยงแท้
เพียรธรรมก่อผลบุญ........หาใช่..งมงาย.
จงชั่งใจอย่าแพ้.................เพลี่ยงพลั้ง ทำเวร
---------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------
29 มิถุนายน 2545 23:03 น.
บุษราคัม
โคลงสี่สุภาพ
---------------------------------------------------------------
Oอันทรัพย์สินมิ่งล้วน หลากหลาย
คนใฝ่หาแทบตาย ทั่วหล้า
หากยังนิ่งคงสาย โดยไม่ หานา
เปรียบเช่นคนกำพร้า ไม่แคล้วเดียวดายฯ
Oคุณธรรมนั้นอยู่ค้ำ คนดี
เปรียบเช่นแสงสุรีย์ ส่องหล้า
หญิงใดที่ราคี ครองอยู่
คงบ่มีใครกล้า ไขว้คว้ามาแนบจิตใจ
Oศีลธรรมปกแจ่มฟ้า ดินแดน
ใจมุ่งจะหวงแหน แกร่งกล้า
ธรรมะแผ่เมืองแมน ไปทั่ว โลนา
เปรียบเช่นดังผืนฟ้า ห่มแล้วในธรรมฯ
O ปัญญาชนที่แท้ ควรเป็น
เพียรมั่นและศึกษา ไขว่คว้า
จงบากบั่นบำเพ็ญ เพียงอ่าน
หาใช่ยากหากกล้า แค่เอื้อมจงเพียรฯ
O สหายดีที่ล้วน ควรเป็น
เปรียบเช่นพระจันทร์เพ็ญ ส่องฟ้า
คอยมาผ่อนทุกข์เข็ญ ของเพื่อน
คอยช่วยมิเคยล้า ย่อท้อจิตใจฯ
-----------------------------------------------------------------------------------
ปล. ข้าพเจ้าพึ่งลองฝึกแต่งโคลงสี่สุภาพชิ้นแรก ผลงานอาจไม่ดีเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม หากมีผู้รู้ท่านใด จะให้ความกรุณาชี้แนะ จักขอบพระคุณยิ่ง ค่ะ
28 มิถุนายน 2545 02:44 น.
บุษราคัม
อันความรู้ยิ่งแจกจ่าย.........ยิ่งได้รับ
ปัญญาทรัพย์........เพิ่มพูน บังเกิดผล
หากว่าใคร...........เบียดบัง....เห็นแก่ตน
ก็หาใช่.................ปัญญาชน ที่แท้เอย
--------------------------------------------------------------
อันว่า ปราชญ์.......ที่เรียกกัน.......ว่าบัณฑิต
เปรียบเช่น ทิด.....ที่บวชเรียน.....มาแล้วเอ๋ย
ใฝ่เรียนรู้..............พหูสูตร...........ไม่ละเลย
บ่ เพิกเชย.............บ่มปัญญา........สนทนาธรรม
-----------------------------------------------------------------
เพื่อเปิดรับ.............ความรู้............จากผู้อื่น
และหยิบยื่น............คุณธรรม.........เป็นอุปถัมภ์
หากปิดตน...............ปิดตา..............ทำใจดำ
สัจธรรม...................ย่อมไม่เกิด.....ในจิตใจ
-----------------------------------------------------------------
เปรียบเช่นน้ำ..........ถ้าปริ่ม.............จนล้นแก้ว
คงไม่แคล้ว...............รินล้น..............หกหล่นได้
หากวางตน................เช่นน้ำ.............ครึ่งแก้วไซร้
ย่อมเติมได้................ซึ่งปัญญา..........จากผองชน
--------------------------------------------------------------------
คนเราควร..................ฟังความผู้อื่นบ้าง
ใช่ทำกร่าง....................ว่าตนเอง......ความรู้ท่วมท้น
จงเปิดตา......................เปิดใจ..........เพื่อยินยล
เกิดเป็นคน..................ควรมี............ความถ่อมตัว
---------------------------------------------------------------------
อันว่าเพชร....................ทำเช่นไร.......ก็เป็นเพชร
เจียรไนยเสร็จ...............เจิดจรัส.........แม้ในแสงสลัว
อันปัญญา.......................หากยิ่งลับ........ก็ยิ่งคม.....เป็นเท่าตัว
จงอย่ากลัว......................ใครมาปล้น......ปัญญาไป
-------------------------------------------------------------------
มาแลกเปลี่ยน.................ซึ่งปัญญา.......และความคิด
มาพินิจ...........................พิจารณา.........เพื่อปราศรัย
อันความรู้........................วิทยาการ.......นั้นรุดหน้าก้าวไกล
มาแลกเปลี่ยน.................วิสัยทัศน์........เพื่อ เพิ่มพูนปัญญา
-------------------------------------------------------------------
ปล. กลอนนี้ ข้าพเจ้า ได้แรง บันดาลใจ มาจากเพื่อนคนหนึ่ง
ที่เค้า แนะนำข้าพเจ้า เรื่อง ที่ คนเราถ้าหาก ได้แลกเปลี่ยน
และ แจกจ่าย ความรู้ให้ผู้อื่น ก็จะเป็นการดี เพื่อจะได้พัฒนาตน
และ เปิดใจ รับ คนอื่นได้ เป็นการสร้าง มนุษยสัมพันธ์ ที่ดี
26 มิถุนายน 2545 15:03 น.
บุษราคัม
ไว้ให้อาลัย............ให้ 2 ศพ ของ เด็กหญิง
ถูกไฟปิ้ง............ด้วย.......เครื่องเล่นไฟฟ้า
รถไฟเหาะ............สวนนรก......ห้างสรรพสินค้า
น่าเวทนา..............อนิจจา..........แสนเห็นใจ
-------------------------------------------------------------------------
สงสารผู้ที่เค้าเป็น .........พ่อ...................แม่
ฤดีแด............แตกสลาย............เหลือทนได้
โอ้.........ลูกรัก.............ต้องมอดม้วยไปก่อนวัย
แสนเสียใจ............เวทนา............ลูกเหลือทน
---------------------------------------------------------------------------
คงต้องฝากไว้เป็น..........................อุทาหรณ์
ปลอดภัยไว้ก่อน.........ดีกว่าแก้.......ไม่เป็นผล
อย่าประมาท...............ต่อชีวิต..........ของผู้คน
เรื่องเครื่องจักรกล......ควรตรวจสอบ...ระมัดระวัง
---------------------------------------------------------------------------
สวนนรก............กลางกรุง..................สุดสยอง
ไฟท่วมนอง............คลอก 2 ชีวี...........ที่ถูกขัง
ไฟฟ้าช็อต................ในเครื่องเล่น.......อนาจจัง
โปรดระวัง....................ลูกท่าน.....นั้นให้ดี
-------------------------------------------------------------------------
อันว่าไฟฟ้า...........นั้นมี คุณ และ โทษ
ขอได้โปรดตรวจสอบอุปกรณ์ ....อย่าให้เกิดเหตุร้าย...อีกเช่นนี้
หากประมาท...........อุบัติเหตุ เกิด.........ล้างทุกชีวี
คงไม่มี......................ชีวิตใหม่..............ชดใช้กัน
-------------------------------------------------------------------------
ปล. กลอนนี้ ข้าพเจ้า ก็ แต่ง เพื่อ
ไว้ อาลัย ให้ 2 ดวงวิญญาน ของ 2 หนูน้อย ที่ตาย สังเวย เครื่องเล่นมรณะ กลางกรุง ที่เกิดขึ้น ไม่นานมานี้
เสียใจด้วยจริงๆ กับ เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น และ อยากเตือน เกี่ยวกับเรื่อง
อุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหลาย หาก ประมาท ขาดการ ตรวจสอบ หรือ ระวังภัยที่ดี
ภัยเช่นนี้ อาจเกิดขึ้นได้ กับ คนใกล้ตัวของคุณ
และ กลอนนี้ แต่งขึ้น เพื่อไว้อาลัยให้ 2 หนูน้อย ไม่ได้ออกมา ตำหนิใคร นะคะ
เพราะว่า เป็น เหตุสุดวิสัย จริงๆ ที่ คงไม่มีใครตั้งใจหรืออยากให้เกิดขึ้น ค่ะ
26 มิถุนายน 2545 14:49 น.
บุษราคัม
โศกนาฏกรรม.......ในช่วงฟุตบอลโลก
หฤโหด...........โชคร้าย.........ขี้นทุกแห่งหน
เป็นหนี้พนัน.......บอลโลก.........จนอับจน
โศกเหลือทน........ปี้ป่น...ล้มจมทั้งครอบครัว
------------------------------------------------------------------
บ้างก็ต้อง............ปลิดชีพ.........หลบหนีหนี้
บ้างอัปปีย์...........ฆ่าเมีย...........เป็นผัวชั่ว
เพราะขอเงินเมียไม่ได้.............หนี้บอล....ผัวจนตัว
ส่วนผลชั่ว............ต้องติดคุก.......ชดใช้กรรม
-----------------------------------------------------------------
อีกพ่อ แม่...........ที่เสียใจ............ลูกมีหนี้
ปลิดชีวี...............ล้างหนี้บอล........สุดจะช้ำ
และ อีกหลายร้อยชีวี....................ที่ตกต่ำ
การพนันไม่ได้ทำ.............ให้ใครเจริญ
----------------------------------------------------------------
เชียร์กีฬาโปรดจงเชียร์...............ด้วยสติ
อย่าได้ริ..............พนันบอล..........จงห่างเหิน
ดูกีฬา..................ด้วยปัญญา.......จักเจริญ
ใครชวนเชิญ.......อย่าไปเล่น........พนันบอล
------------------------------------------------------------------
พระราชดำรัสของในหลวงทรง.............ให้สติ
สังเกตุซิ.......ผ่านโทรทัศน์..............เป็นการสอน
ให้คนรู้ ว่าใจเป็นนักกีฬา นั่นคือ.....มงคลพร
เป็นการสอนทางอ้อม...........ให้รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
--------------------------------------------------------------------
ปล. กลอนนี้ ข้าพเจ้า ขอแต่งเพื่อ เป็นการเตือน ส่งท้าย ช่วง ฟุตบอลโลก
เพราะ ได้อ่านข่าว น.ส.พ.ก็พบแต่ ข่าวน่าสลดใจ เกี่ยวกับ การพนันบอล
มากขึ้นทุกวัน ยิ่งใกล้รอบตัดสินแล้ว กลัวว่า คนไทย จะเป็นหนี้ พนันบอล
กันหมด แบบนี้ คงมีแต่ข่าวเศร้าขึ้นหน้า 1 กัน ทุกวันแน่ๆ
และ ประกอบกับ ข้าพเจ้า ได้ ดู สารคดี ช่วงพักโฆษณา ฟุตบอลโลกที่เป็นพระราชดำริ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับเรื่องการกีฬาจึงทำให้ ข้าพเจ้า ได้ข้อคิดดีๆ มาฝาก เพื่อนๆ ทุกคน นะคะ เพราะ ในหลวงของเรา พระองค์ ทรงเป็น แบบอย่างผู้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา อย่างแท้จริง ด้วยพระราชหฤทัยที่เป็น นักกีฬา ค่ะ