5 กรกฎาคม 2545 19:55 น.
บุษราคัม
Oบุคคลใดตื่นแล้ว ยังหลับ ใจนา
ก็บ่จักระงับ ชั่วได้
ใจมิตื่นยังหลับ หาใช่ ตื่นนา
เวียนว่ายกิเลศไซร้ ไม่พ้นกรรมตนฯ
Oบุคคลใดตื่นแล้ว ในธรรม
งดซึ่งเวรบาปกรรม ต่ำช้า
ดวงตาย่อมเห็นธรรม สว่าง จริงพ่อ
ยึดมั่นธรรมแรงกล้า แจ่มแจ้งเห็นธรรมฯ
4 กรกฎาคม 2545 16:30 น.
บุษราคัม
Oหนาวกายยังห่มผ้า ภูษา ดับหนาว
หนาวทั่วผิวกายา ห่มเนื้อ
หนาวใจใคร่อยากหา คนห่ม รักเอย
หนาวมากหากพี่เอื้อ ห่มน้อง อุ่นใจฯ
-------------------------------------------------------------------------
-
ปล.โคลง หวานๆ หนาวๆๆๆๆ...สำหรับคนมีความรัก ค่ะ
4 กรกฎาคม 2545 16:26 น.
บุษราคัม
Oพันธนาการแห่งห้วง ความรัก
ใครใคร่สวามิภักดิ์ แก่เจ้า
ความรักย่อมประจักษ์ แตกซ่าน ทรวงนา
รักบ่สมหวังเศร้า รุ่มเร้าวิญญาฯ
Oหากรักมาด่วนล้ม ตรมตรอม
เปรียบเช่นบุปผาหอม ห่อนแล้ว
ฤดีหม่นหมองตรอม รักหน่าย แหนงหนี
เปรียบเช่นราวกับแก้ว แตกแล้วยับเยินฯ
-----------------------------------------------------------------------------------
ปล. ความรัก นั้นมี ทั้ง 2 ด้าน เมื่อสมหวัง ก็ย่อมสุข
หากไม่สมหวัง ก็เป็นเป็นทุกข์ /มอง รัก ทั้ง 2 ด้าน
ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ / แต่ถ้ารักแล้ว สุข ก็ถือว่าดี
4 กรกฎาคม 2545 16:18 น.
บุษราคัม
โคลงสี่สุภาพ
Oรักเอยยอดกิ่งแก้ว กลอยใจ
สว่างสุกไสว ข่มฟ้า
เฉลายิ่งจอมใจ ขวัญพี่
เอมอิ่มหนอดวงหน้า ปิ่นหล้ายาใจฯ
Oความรักมาห่มฟ้า ตราดาว
เปรียบห่วงเวหาหาว ห่มเนื้อ
ความรักซ่านทรวงราว ดังม่าน วิมาน
รักย่อมจักกูลเกื้อ เกี่ยวก้อยแนบฤทัยฯ
Oหากความรักเที่ยงแท้ ดังใจ
เป็นปิ่นมณีใส ผ่องแผ้ว
แวววับผ่องอำไพ เฉกเช่น เพชรนา
จำรัสงามเพริสแพร้ว ดั่งแก้วสุริยกานต์ฯ
Oความรักมาซ่านซึ้ง อาบทรวง
เปรียบดั่งแสงจันทร์จวง ส่องหล้า
สกาวเช่นเงินยวง ผุดผ่อง งามแฮ
งามอยู่มิเคยล้า ชั่วฟ้าดินสลายฯ
------------------------------------------------------------------------------------------------
3 กรกฎาคม 2545 19:57 น.
บุษราคัม
Oสายลมโชยแผ่วพริ้ว.......รวยริน
เย็นช่ำกระแสสินธุ์.........ฝั่งนั้น
อรุณรุ่งราวจินต์..............เป็นม่าน ฝันแฮ
สว่างมิกางกั้น................เชื่อมฟ้าถึงใจฯ
Oแสงดารากิ่งแก้ว...........พร่างพราว จรัส
คืนค่ำเคหาส์นดาว.........ดื่นล้อม
เปรียบเสน่ห์ของสาว.....ผุดผ่อง งามนา
งามรุ่งประดับห้อม.........ห่มฟ้าโลกาฯ
Oไพรพฤกษ์งามฉ่ำชื้น.....พนา พงไพร
สัตว์ย่อมอาศัยหา...........แหล่งเกื้อ
พระคุณค่ามากหนา........แดนป่า
สูงค่าเพราะคอยเกื้อ......ใหญ่น้อยสัตว์ในพนา
Oมวลบุปผาเสกไว้.......หรือจึง งามจริง
คนย่อมจักรำพึง.........กู่ร้อง
สมบัติน่าตะลึง............สวยเด่น งามแฮ
แมนกู่สวรรค์ก้อง..... ผ่องแผ้วจริงหนอเมืองดินฯ
------------------------------------------------------------------------------------
ปล. กราบขอบคุณ ท่าน วฤก นะคะ ที่เป็นแรงบันดาลใจ
และ แบบอย่าง ในการแต่งโคลงกลอน วรรณศิลป์
แก่ ข้าพเจ้า นะคะ
Oเมธีปราชญ์พรั่งแพร้ว........วฤก ครูแฮ
เปรียบเช่นมณฑาพฤกษ์....ผ่องแผ้ว
โคลงกลอนดั่งมฤคย์...........ปราชญ์เปรื่อง จริงนา
พจน์กล่าวงามเพริศแพร้ว....แจ่มแจ้ง ในอรรถคดี ฯ
ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
บุษราคัม