9 กันยายน 2551 13:16 น.
บุรุษเจ้าสำราญ
ที่ทำเนียบไทยคู่ฟ้านาผืนใหม่
ควายตัวใหญ่ล่ำสันขยันยิ่ง
ควายจำลองตัวดำทำท่าจริง
ได้ออกวิ่งสนจมูกถูกสะพาย
วันนั้นฝนเนืองนองเป็นท้องน้ำ
อาเพทซ้ำลูกเห็บไล่ไอ้ฉิบหาย
พระสยามเทวาฯท่านอับอาย
ไอ้พวกควายอวดโง่โวอวดดี
จะปักหลักทำนาประสายาก
คิดลงรากทำกินในถิ่นที่
เป็นพวกควายพันธุ์ใหม่ใจอัปรีย์
เดิมเคยมีชื่อเสีย เหี้ยแผ่นดิน
ภาษีกูเสียไปให้มึงหรือ
มึงจะยื้อจะยุดไม่สุดสิ้น
มึงจัดม็อบหาแดกแลกกันกิน
สร้างมลทินให้ประเทศเขตนาคร
แค่คนไม่ถึงแสนแค่นสำราก
เอาลมปากเหม็นเน่าออกเห่าหอน
โยนเศษเงินฟาดหัวพวกพเนจร
ให้นั่งนอนเยี่ยวขี้เลอะเทอะเมือง
กล่อมนักเรียนหยุดเรียนเป่านกหวีด
ผ่าจารีตประชาธิปไตยไม่เป็นเรื่อง
สามสิบกับเจ็ดสิบหยิบมาประเทือง
ฝูงควายเชื่องอ้วนพีฟังสีซอ
8 กรกฎาคม 2551 13:03 น.
บุรุษเจ้าสำราญ
เด็กเอ๋ย เด็กลองต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน
เด็กเอ๋ย เด็กลอง ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน
หนึ่งขัดขืนศาสนา
สองระห่ำบ้าบ่เคยยั่น
สามดีแต่สร้างความรำคาญ
สี่วาจานั้นต่ำช้าทุกสถาน
ห้ายึดมั่นประโยชน์กู
หกแกล้งอวดรู้เป็นสันดาน
เจ็ดด่าพระ ครู และทหาร และดาราที่คิดต่าง ไม่เกียจไม่คร้าน
แปดกิริยาเยี่ยงสัตว์
เก้าถนัดแถตลอดการ ชอบสร้างกระแสความร้าวฉาน จะถอดถอนศาล พุทธธรรมไม่นำพา
สิบดึงฟ้าต่ำนำเป็นโจทย์ ป้ายสีความเกลียดโกรธ เบ่งทิฐิขี้อิจฉา
เด็กสมัยชาติพัฒนา เผด็จการชาติหมาพาพี่ลองจำเริญ
9 กุมภาพันธ์ 2551 23:35 น.
บุรุษเจ้าสำราญ
มาเดินดุ่มซุ่มดูอยู่ดุ่ยดุ่ย
หมายพูดคุยสนทนาหาพี่น้อง
เห็นมากมายหมายมาคราเมียงมอง
พบเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ชอบกลอน
ขอทักทายซ้ายขวาทั้งหน้าหลัง
แล้วจึงนั่งเรือนชานบนบ้านก่อน
มาเรือนชานกานท์กวีมีบทกลอน
อันยอกย้อนแยลยลจนตื่นตา
ได้นั่งอ่านสราญเริงบันเทิงจิต
จึงครุ่นคิดไถ่ถามตามภาษา
หากพลั้งพลาดเกินเหตุโปรดเมตตา
เพียงผ่านมาหาใช่สร้างภัยพาล
แล้วง่วงหงาวหาวนอนตอนดึกดื่น
คงต้องตื่นเช้าตรู่อยู่เฝ้าบ้าน
แสนปวดหัวตัวร้อนตอนทำงาน
กลับชื่นบานพบกวีมีน้ำใจ