24 กันยายน 2555 12:37 น.
บุญเพิ่ม
ลูกห่านน้อยกลอยใจแม่
แม่ห่านขาว ดีใจ ที่ได้ลูก
จึงทอหูก รักมา แทนผ้าไหม
กระตุกกี่ ความหวัง พลังใจ
สอดสายใย ผูกพัน มิผันแปร
หวังให้ลูก โตมา ปีกขาแกร่ง
เดินตามแหล่ง น้ำขัง ข้างหลังแม่
ร้องเริงร่า เป็นเพื่อน ไม่เชือนแช
รู้เผื่อแผ่ ปูปลา ในวาริน
สอนลูกน้อย วางท่า งามน่าเลี้ยง
อย่าส่งเสียง ดังก้อง ทั่วท้องถิ่น
คนชอบใจ เห็นหน้า จนชาชิน
ไม่ฆ่ากิน ขึ้นจาน อาหารคาว
อยากให้ลูก จดจำ ถ้อยคำแม่
อย่างอแง ร้องบ่น แดดฝนหนาว
ไม่นักเลง วางเขื่อง ก่อเรื่องราว
จึงเป็นดาว เผ่าห่าน แห่งบ้านนา !ฯ
อริญชย์
๒๔/๙/๒๕๕๕
ปล.เป็นเพียงการแต่งตามจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น เนื้อหาสาระคงไม่ค่อยมีเท่าไหร่เนาะ อ่านเล่น ๆ ละกัน ทุกท่าน
http://img51.imageshack.us/img51/245/dsc08729ss.jpg
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=9709.
23 กันยายน 2555 22:38 น.
บุญเพิ่ม
หวนคำนึง
แสนคิดถึงบ้านไพรยามไกลห่าง
หยาดน้ำค้างพร่างพราวยามเช้ารุ่ง
เสียงเรไรร่ำร้องกล่อมคลองคุ้ง
ริมท้องทุ่งนกน้อยต้อยตีวิด
รวงข้าวเหลืองพร่างพรมยามลมล่อง
ธารสีทองหลั่งไหลร่วมใช้สิทธิ์
คนเกื้อกูลต่อกันด้วยฉันมิตร
ร่วมผลิตงานศิลป์บนถิ่นไทย
หวนคิดถึงวันวานที่ผ่านผัน
ภาพเหล่านั้นทุกสิ่งดูยิ่งใหญ่
แม้เป็นเรื่องก่อนเก่าเมื่อเยาว์วัย
แต่ตรึงใจฉันอยู่มิรู้คลาย!ฯ
อริญชย์
๒๓/๙/๒๕๕๕
23 กันยายน 2555 01:17 น.
บุญเพิ่ม
ฉันเบื่อคนบูดบึ้ง
เธอบูดบึ้งทั้งวันน่าหมั่นไส้
มิยิ้มให้ความหวังใครทั้งสิ้น
คล้ายเกรี้ยวโกรธคนมาเป็นอาจิณ
ฉันได้ยินทุกคราระอาจริง
คนข้างบ้านหวั่นไหวกันไปทั่ว
ต่างเก็บตัวหดหู่นั่งอยู่นิ่ง
เบื่อถ้อยคำจาบจ้วงกล่าวช่วงชิง
เพียงติติงนิดหน่อยแล้วถอยลา
เธอบูดบึ้งแน่วแน่ยากแก้ไข
เพราะอะไรเช้าค่ำคอยพร่ำด่า
ไม่เคยเห็นพูดหวานเลยกานดา
ฤๅเกิดมาเพื่อหม่นบ่สนใคร!ฯ
อริญชย์
๒๓/๙/๒๕๕๕
21 กันยายน 2555 18:16 น.
บุญเพิ่ม
แม่ไก่เอย
นกเหยี่ยวขาว หวีดมา เวลาบ่าย
โฉบร่อนกาย วางท่า ทางอากาศ
จ้องสอดส่าย สายตา เพชฌฆาต
เล่นลีลาศ หลบหลีก กางปีกงาม
บนผืนดิน แม่ไก่ สุดไหวหวั่น
เรียกลูกพลัน รีบเร่ง ด้วยเกรงขาม
โอบปีกกอด ลูกน้อย ที่ต้อยตาม
พร้อมทุกยาม หากเหยี่ยว โฉบเฉี่ยวไว
ฤดูหนาว บ้านนา ช่วงหน้าเกี่ยว
หวีดนกเหยี่ยว เย็นยิ่ง กว่าสิ่งไหน
วังเวงกว่า สายลม ที่ห่มไพร
เพราะแม่ไก่ ห่วงลูก รักผูกพัน
หากลูกน้อย มีเหยี่ยว ลงเฉี่ยวร่าง
แม่พร้อมขวาง ด้วยใจ มิไหวหวั่น
จะใช้เท้า ปากปีกโหม เข้าโรมรัน
แม้ชีวัน ดับดิ้นหนอ แม่ก็ยอม!ฯ
อริญชย์
๒๑/๙/๒๕๕๕
21 กันยายน 2555 07:34 น.
บุญเพิ่ม
โอ้อนาถชาวนา
โอ้อนาถ ชาวนา น้ำตาตก
เหนื่อยสะทก สะท้าน ทำงานหนัก
น้ำไหลหลาก อีกที ท่วมที่พัก
ช่างขลุกขลัก มืดมน ในหนทาง
รวงข้าวสุก เอนไหว อยู่ใต้น้ำ
ยิ่งเจ็บช้ำ ดวงใจ อยู่ไม่สร่าง
สุดท้อแท้ เสมือน ชีพเลือนราง
สูญทุกอย่าง เมื่อยาม สายน้ำมา
ฤๅภูเขา หมองหม่น สิ้นต้นไม้
จึงร้องไห้ คร่ำครวญ ปั่นป่วนป่า
ส่งสัญญาณ ความช้ำ กลั่นน้ำตา
ท่วมท้องนา จมมิด ด้วยผิดใด!ฯ*