28 กันยายน 2555 17:27 น.
บุญเพิ่ม
สุขสมใจไอดินกลิ่นบ้านเก่า
ทุ่งข้าวงามยามบ่ายคลายเม็ดฝน
นกบินวนบนไม้ใกล้ทุ่งข้าว
เรไรกล่อมลอมฟางข้างหญ้ายาว
ดอกรักขาวพราวช่อล้อเรไร
ฟ้าใสครามงามคุ้งรุ้งโค้งสวย
ริมลำห้วยพวยแสงแห่งฟ้าใส
สายลมโชยโปรยพร่างกลางพงไพร
มาลีไหวให้เห็นเย็นสายลม
สุขสมใจไอดินกลิ่นบ้านเก่า
มิตรหยอกเย้าเฝ้าถามตามสุขสม
กำลังใจให้กันปันคำคม
ยามโศกตรมขมขื่นฟื้นกำลัง!ฯ
อริญชย์
๒๘/๙/๒๕๕๕
28 กันยายน 2555 08:27 น.
บุญเพิ่ม
อย่าแหย่รังต่อ
ต่อหัวเสือ พิษภัย เหล็กในร้าย
มีมากมาย พรั่งพร้อม บินล้อมต่อย
เด็กมาแหย่ ขว้างหิน และดินลอย
ถูกต่อน้อย ร้อยพัน กรูกันมา
บินรุมต่อย เร็วไว เพียงใครผ่าน
หลายเหตุการณ์ เกินคาด ที่อาจฆ่า
บางคนแพ้ ทันที สิ้นชีวา
ยากรักษา พิษร้าย มากมายล้น
หากไม่เชื่อ แล้วยัง แหย่รังเล่น
หวังวิ่งเผ่น ช้าไป อาจได้หม่น
ต่อบินไล่ สั่งสอน ให้ร้อนรน
เจ็บเหลือทน ชาตินี้ ไม่มีลืม ฯ
อริญชย์
๒๘/๙/๒๕๕๕
http://www.malaeng.com/blog/tmp/2009/03/ves-affinis1.jpg
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต Google.com
27 กันยายน 2555 11:17 น.
บุญเพิ่ม
นกใหญ่เดินดิน
เจ้านกใหญ่ เดินดิน ถวิลหวัง
มีกำลัง ขาแกร่ง วิ่งแข็งขัน
พร้อมจะเตะ เจ้าป่า ที่ล่ากัน
สู้ประจัญ ภัยร้าย มุ่งหมายมา
แม้มิอาจ บินเรียง ร้องเคียงคู่
ก็เดินอยู่ ใกล้กัน อย่างหรรษา
ใช้ชีวิต กลางดง พงพนา
ชมดอกหญ้า พร่างพราว รับหนาวลม
เพื่อนสัตว์อื่น ยังหยอก กระจอกเทศ
ว่าอาเพศ หรือไร จึงใหญ่สม
ขาดขนงาม อวดให้ นกไพรชม
ไม่ขื่นขม ซักนิด เพราะคิดดี
ทุกวันเพลิน เดินหา จิกอาหาร
ใจเบิกบาน ดื่มกิน ในถิ่นที่
ถึงมิได้ บินเร่ อย่างเสรี
แต่ยังมี สองเท้า จ้ำอ้าวเอย!ฯ
อริญชย์
๒๗/๙/๒๕๕๕
26 กันยายน 2555 14:16 น.
บุญเพิ่ม
ปลิงน้อยคอยหวัง
คอยคนลง หว่านแห นานแท้หนอ
ปลิงน้อยรอ อยู่ตาม แหล่งน้ำใส
อยากดูดเลือด หวานยิ่ง กว่าสิ่งใด
เหตุไฉน ช่วงนี้ ไร้วี่แวว
หรือน้ำท่วม บ้านจน ผู้คนเศร้า
นั่งหงอยเหงา ลำเค็ญ กันเป็นแถว
พบชอกช้ำ ทั่วหน้า หมูหมาแมว
เบื่อหน่ายแล้ว น้ำมา จับปลาปู
เห็นใจเถิด ปลิงน้อย ยังคอยหวัง
อ่อนกำลัง ท้องกิ่ว โหยหิวอยู่
อยากให้คน ว่ายตาม สายน้ำดู
แล้วจะรู้ แถวนี้ วารีเย็น
ถอดรองเท้า ก้าวเดิน ก็เพลินยิ่ง
รับรองปลิง จับได้ มิให้เห็น
ขอเจาะเลือด ดื่มด่ำ ยามจำเป็น
คลื่นกระเซ็น ปลิงน้อย จะปล่อยเอย!ฯ
อริญชย์
๒๖/๙/๒๕๕๕
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก
ปลิง (Aquatic Leech) และ ทากดูดเลือด (Land Leech) จัดอยู่ในไฟลัมแอนเนลิดา ลักษณะลำตัวเป็นข้อปล้องและยืดหยุ่น ชอบอยู่ในน้ำนิ่งตามหนอง (สำหรับปลิง) และอยู่ตามพื้นที่ชื้นแฉะเช่นบริเวณป่าดงดิบเขตร้อน (สำหรับทากดูดเลือด) ดำรงชีพโดยการดูดเลือดสัตว์อื่น รวมทั้งเลือดมนุษย์เป็นอาหาร
เนื้อหา [ซ่อน]
1 การดำรงชีวิต
2 การห้ามเลือดหลังจากโดนปลิง
3 ประโยชน์ทางด้านการแพทย์
4 แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้] การดำรงชีวิตปลิงดำรงชีวิตด้วยการดูดเลือดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, สัตว์เลื้อยคลาน และ ปลาบางชนิดเป็นอาหาร และเนื่องจากไม่มีดวงตาจึงอาศัยการจับแรงสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของเหยื่อด้วยแรงสั่นสะเทือนในน้ำ (สำหรับปลิง) และสำหรบทากดูดเลือด (Land Leech) มันจะคอยชูตัวอยู่ตามพื้นดินหรือไต่ขึ้นไปบนกิ่งไม้ มีสัมผัสที่ไวต่อกลิ่นและอุณหภูมิ เมื่อเหยื่อเข้าใกล้มันจะใช้อวัยวะที่เรียกว่าแว่นดูด (Sucker) เกาะเข้ากับตัวเหยื่อ ซึ่งอวัยวะนี้มีทั้งด้านหน้าและด้านท้าย โดยมันจะใช้แว่นท้ายในการยึดเกาะ
เมื่อมันสามารถเกาะผิวเนื้อของเหยื่อแล้วมันจะค่อยๆ ไต่อย่างแผ่วเบาเพื่อหาที่ซ่อนตัว (ในช่วงนี้ใช้เวลาประมาณ 80-90 วินาที ที่เราจะปัดหรือดึงปลิงออกโดยไม่ต้องเสียเลือด) หลังจากนั้นมันจะใช้แว่นหน้าลงบนผิวเนื้อของเหยื่อเพื่อดูดเลือด โดยปลิงจะปล่อยสารชนิดหนึ่งคล้ายกับยาชาและเวลาที่ปลิงดูดเลือดมันจะปล่อยสารออกมา 2 ชนิด ซึ่งได้แก่ สารฮีสตามีน (Histamine) ช่วยกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และสารฮีรูดีน (Hirudin) มีคุณสมบัติต้านทานการแข็งตัวของเลือด (ด้วยเหตุนี้เลือดของเหยื่อจะไหลไม่หยุด)
เมื่อปลิงหรือทากดูดเลือดอิ่มจนมีลักษณะตัวอ้วนบวมแล้ว มันจะปล่อยตัวร่วงลงสู่พื้นดินเอง
[แก้] การห้ามเลือดหลังจากโดนปลิงใช้ใบสาบเสือ ยาเส้นหรือยาฉุนมาขยี้ปิดบาดแผล
[แก้] ประโยชน์ทางด้านการแพทย์วงการแพทย์สมัยโบราณมีการนำปลิงมาดูดพิษหรือเลือดเสียออกจากร่างกาย ในปัจจุบันแพทย์นำคุณสมบัติของปลิงมาทำให้เส้นเลือดในร่างกายไม่อุดตัน โดยเฉพาะเส้นเลือดหัวใจหรือนำมาช่วยให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดีขึ้น
การแก้ไขหลังจากโดนทากดูดเลือดกัด ให้ใช้มวนบุหรี่ ปิดที่แผลที่โดนทากดูด เพราะมวนบุหรี่มีสารนิโคตินที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวสังเกตได้จากผู้ที่สูบบุหรี่จะรู้สึกปวดหัว เพราะสารนิโคตินทำให้ให้เลือดใหลไปเลี้ยง
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87
25 กันยายน 2555 14:30 น.
บุญเพิ่ม
นกขมิ้นบินจร
นกขมิ้น บินจร ดงดอนเก่า
มีเรื่องเศร้า อันใด ทำไหวหวั่น
จึงลาถิ่น พงไพร ห่างไกลกัน
ฤๅใฝ่ฝัน แดนใหม่ ที่ไร้ตรม
เคยร้องตอบ แซงแซว เจื้อยแจ้วเสียง
คล้ายถกเถียง ยามเช้า หมอกหนาวห่ม
ต่างหยอกเย้า เริงร่า สุขอารมณ์
ร่วมเพาะบ่ม น้ำใจ มิตรไมตรี
ทุ่งรวงทอง เฉิดฉัน ชวนฝันใฝ่
แต่ยังไร้ เจ้าบิน คืนถิ่นที่
คงลืมไพร พฤกษา สายวารี
หลายวันนี้ หายหน้า ไม่มาเยือน
เอี้ยงยังคอย ขมิ้น คืนถิ่นฐาน
มาขับขาน เพลงใส กล่อมไพรเถื่อน
แม้มิอาจ งามเด่น ดั่งเช่นเดือน
ก็มีเพื่อน รายรอบ คอยปลอบโยน!ฯ
อริญชย์
๒๕/๙/๒๕๕๕