เมื่ออิจฉา ก็พา ขอบตาร้อนจะกินนอน นั่งลุก สุขมันหนีให้ร้อนรุม กลุ้มใจ ไปทั้งปีเห็นเขามี ยิ่งอยากได้ให้เท่าทันเขามีรถ ก็อยากมี ให้ดีกว่าของเธอต้อง ด้อยค่า กว่าของฉันใครทำเด่น เกินหน้าข้าต้องกันจะโรมรัน ทุกทาง ถ้าขวางตูอะไรที่ สังคม นิยมเล่าเชื่อว่าเรา รู้ดีกัน มันต้องหรูคนที่ปลง ยากยิ่ง หรือนิ่งดูมาคิดหลู่ ทับกัน ฉันไม่ยอมความอิจฉา ริษยา จึงมาเกิดผิดที่เปิด รับกัน มันจึงพร้อมบุกทำลาย กายใจ ให้ตรมตรอมเพราะตัวยอม เป็นทาส เลยพลาดไป
โรคระบาดความคิดเกิดผิดเพี้ยนดินฟ้าเปลี่ยนแปลกไปหรือไรนี่หรือมีคนไปย้ำทำไม่ดีจึงเกิดมีโรคาพาเพี้ยนไปกิริยาท่าทางดูขวางโลกชื่นชมการสับโขกให้โยกไหวลุกลามทั่วตกออกทั้งนอกในจึงเป็นไปทั่วทิศผิดครรลองสาเหตุโรคนั้นหนอพออ่านออกใจถูกพอกหมดงามเพราะความหลงเห็นอำนาจวาสนาว่ายืนยงไม่คิดปลงคิดปลดเลยหมดงาม
ไม่มีคมมีดใดที่ไหนคงถ้าจำนงค์ใช้มันไปฟันหินถึงเหล็กกลัาแค่ไหนก็ต้องบิ่นสุดท้ายสิ้นคมไปไร้คนมองเพียงใช้หินลูบหน่อยค่อยขัดถูอย่าไปหลู่หินนั้นมันจะหมองสติมี เอาไว้ ใช้ไตร่ตรองอย่าไปมอง หินทราย ไร้ค่าเลยมีดจะคมอยู่ได้ใช้หินลับขืนไปสับไม่ยั้งพังเพื่อนเอ๋ยถ้อยทีถ้อยอาศัยให้เหมือนเคยจะลงเอยเหมือนเก่าที่เรามีจะตัดฟันสิ่งใดครวญใคร่นิดเป็นชีวิต เว้นไว้ ก็ได้นี่มองเขาเป็นของเล่นเห็นว่าดีมันบ่งชี้ ว่าวิปริต ผิดผู้คน
อ๋อมันเป็นอย่างนี้นี่เองนะเพิ่งเข้าใจในธรรมะที่พระสอนเหตุที่เกิดมากมายหลายขั้นตอนก่อตะกอนโรคร้ายในกายคนจิตผูกติดว้าวุ่นจึงครุ่นคิดภวังค์จิดวกวนจนเกิดผลสิ่งที่สะสมไว้ในใจตนจึงไหลล้นแสดงออกมานอกกายจิตสะสมสิ่งใดได้สิ่งนั้นต้องเจอกันอยู่ดีไม่มีสายตัวกระตุ้นบ่งชี้มีรอบกายเกิดดี ร้ายอยู่ที่กรรมตัวทำมากรรมดี ใจดี ย่อมมีสุขกรรมชั่วใจทุกข์สุขก็ลัาสุขบ้างทุกข์บ้างวางอุราธรรมดาของคนย่อมปนกัน
ใต้ธารา นั้นยาก ลำบากเดาว่ามีเต่า ตอไม้ หรือไอ้เข้ขืนประมาท พลาดไป ได้จบเห่จึงโอ้เอ้ เรื่องมาก ไม่อยากลงใช้ขันตัก รดกาย สบายกว่าจะติดมา เพียงแต่ แค่ฝุ่นผงเปื้อนนิดหน่อย ไม่ตาย สบายองค์ดีกว่าลง ไปแช่ เสี่ยงแน่นอนแต่ผู้คน ก็ยัง ต้องการน้ำขาดเช้าค่ำ ร่างกาย ก็ผ่ายผอมขาดบ่อยบ่อย มีไหม ใครเขายอม ถึงหว่านล้อม แค่ไหน ใครจะฟัง