เมื่อเรือไร้หางเสือก็เชื่อยาก
จะข้ามฝากทั้งทีมีปัญหา
สายน้ำเชี่ยวชวนหวั่นพรั่นอุรา
กลัวเรือพาหลงทิศผิดทางไป
โน่นขอนไม้ท่อนซุงพุ่งประชิด
ฝูงจระเข้ตามติดคิดการณ์ใหญ่
หากเรือล่มจมน้ำจะทำไง
หรือทำใจให้เข้งาบคาบไปกิน
เห็นต้องรอน้ำลดงดข้ามขี่
ด้วยเคยมีประวัติลับนับไม่สิ้น
จมอยู่ใต้วังวนจนขาชิน
ล้วนดับดิ้นเพราะหางเสือเรือ ไม่มี
ต้องเสียศูนย์เสียหลักเลยชักแย่เพราะมัวแต่เกรงใจเขาเราเลยยุ่งกระเทือนถึงน้าอาและป้าลุงท่านหมายมุ่งส่งเสริมเติมขั้นตอนเรื่องมันยุ่งยิ่งนักเพราะหลักหายปักแทบตายลมโกรกดันโยกถอนหวังจะใช้ผูกเรือเพื่อพักนอนดันโอนอ่อนโยกไหวไม่เข้าตาครั้นจะคิดลงหลักปักเอาใหม่ก็หาไม้ลำบากยากนักหนาคงต้องปล่อยเรือลอยล่องท่องธาราไปจนกว่าจะเจอหลักปักให้นอน
ยามมืดต้องใช้ไฟเพื่อขับไล่ความมืดดำ
ตาบอดสองมือคลำ
ต่างผู้นำหนทางดล
มัวหม่นอุปสรรค
ย่อมประจักษ์แจ้งในตน
สิ่งใดอันไหนกล
สิ้นสับสนพาพ้นพาล
รู้ใดไหนจะเท่า
รู้ตัวเราใดร้าวราน
มิขอคิดก่อการณ์
เพียงทัดทานท่านทบทวน
จาก....ราชสีห์เคยเด่น จะเป็นหมูนาคราช ก็จะดู เหมือนงูสิงผู้นั่งแท่น แปลงกายได้คล้ายลิงจริงไม่จริง เห็นอยู่ ดูกันเอา
กูรูรู้ วิชา ปัญญามากแต่ไร้ปาก ไร้ตา มีค่าไฉนดังตำรา กองเร้น เป็นเชื้อไฟประโยชน์ใดก็ไม่เห็นเป็นชิ้นอันเป็นกูรู น่าจะแจก แลกความรู้มิใช่หลู่ ส่อเสียด จ้องเหยียดหยันคนโน้นร้าย คนนั้นดี จนตีกันนี่หรือท่าน ผู้รู้ ครูของเรา