28 พฤษภาคม 2550 07:29 น.
บุญนำ
สักครั้งหนึ่งถึงแล้วซึ่งความรัก
หวานหอมนักชวนชื่นชมชิดใกล้
ต่างคนก็ต่างเอาอกต่างเอาใจ
แนบหทัยแนบใจแนบกายกัน...
ผ่านความทุกข์สนุกมากตรากตรำคิด
ถางทางชิดอุปสรรคอันน้อยใหญ่
คลุกเคล้าทั้งน้ำตาตกนอกใน
สองฤทัยรู้ซึ้งถึงใจกัน...
แม้ต่อมาอุปสรรคจะมากนัก
มาเป็นพักเป็นระลอกไม่ขาดสาย
หากหัวใจของกันไม่กลับกลาย
กลับละลายอุปสรรคนานา...
หัวใจสองของเราเข้าใจแล้ว
ว่าดวงแก้วรักกันมากเป็นไฉน
ไม่มีสิ่งใดพรากจากกันไป
คงจะได้รักกันตลอดกาล...
26 พฤษภาคม 2550 06:11 น.
บุญนำ
ในโลกนี้มีภัยใหญ่หลวงหนึ่ง
ที่สุดซึ่งกระทำช้ำคล้ำศรี
มันอาจบ้ากระหน่ำแลย่ำยี
ให้ราคีให้หมองหม่นทนทุกข์นาน...
20 พฤษภาคม 2550 05:23 น.
บุญนำ
ในม่านมืดแสงสีตระการตา
สอดส่ายหาเหยื่อราคะหน้าสดใส
พบแล้วเธอหน้าขาวผ่องเป็นยองใย
แสนถูกใจพี่จริงนะแก้วตา...
ว่าแล้วก็ชวนร่ำเมรัยซร้อง
เสพทำนองเพลงป๊อปร๊อคสุขนักหนา
แก้วต่อแก้วปากต่อปากจำนรรจา
มือไม้หนาพัลวันพัลเก...
เมื่อต่างคนต่างเมาต่างเข้าที่
รุกรับดีใส่กันไม่หวั่นหนา
ผ่านค่ำคืนแสนสุขสนุกอุรา
ฉ่ำกายาฉ่ำชื้นชื่นชีวี...
เห็นหมดแล้วล่วงไปแล้วพอตื่นขึ้น
ไม่ทันคืนก็เบื่อแล้วละหวา
รีบแต่งตัวรีบจรจากรีบไม่ลา
โอ้แก้วตาลาก่อนนะคนงาม...
เพียงเสพกายเสพกามสักพักเบื่อ
ไม่น่าเชื่อเรื่องจริงไม่สงสัย
ยี่สิบสี่ชั่วโมงนานเกินไป
ขออภัยให้พบได้คนละวัน...
10 พฤษภาคม 2550 07:36 น.
บุญนำ
เผลอไผลหลวมหลงตัวตน
คำคนหลอกเหลือใจจบ
ทนทุกข์ยากเย็นพรากภพ
เนาว์นบนอบน้อมเนินนาน...
เบื้องบนหมองหม่นทนทุกข์
ล่างลุกไฟฟืนขื่นขม
น้ำนองซึมซ่านอัดอารมณ์
ตรอมตรมทุกท่านทานทน...
5 พฤษภาคม 2550 05:01 น.
บุญนำ
จรจรด้นดั้นดังนิมิตร
ฝักใฝ่จิตมัวเมาหลงใหล
เคลิบเคลิ้มอ่อนอกอ่อนใจ
หวังให้สบสมตัวตน...
เฝ้าฝากคำคมหวานหอม
ปลอบโปลมร่านรักศักดิ์ศรี
ทอดทิ้งเกลือกกลั้วคาวคี
ฤดีลืมโลกลืมเลือน...
พอพ้นเสียดสีพลีพลั้ง
อกอ้างว้างเวิ้งเปลี่ยวปล่าว
คิดครวญหวนหาแครวคราว
รักร้าวพลาดพลั้งพังพิน...
เต่งตึงต้องหย่อนยานโทงเทง
กล้าเก่งกลับฉอยฉอยหรอยใหญ่
วันเวลาแล่นล่วงล่องไวไว
เผลอไผลแผ่วผงาบทรุดทรามโทรม...