30 มกราคม 2555 21:09 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ หลากร้อยบทอักษราภาษาศิลป์
ท่ามแผ่นดินมากล้นให้ค้นหา
จักหวานล้ำคำสรรจำนรรจ์จา
ฤๅเข่นฆ่าด้วยพากย์หาก..อยากกรอง
บ้านกลอนไทยนามนี้ก็ชี้ชัด
ลานบ้านจัดเพื่อชนคนทั้งผอง
อวดลีลาร่ายรำสร้างทำนอง
ทั้งร้อยกรอง..โคลง..ฉันท์..หากหมั่นเพียร
เฝ้าแวะเวียนทักทายมิตรหลายหน้า
ผ่านเวลาเนิ่นนานหลากงานเขียน
ได้พบพานหลากพจน์นอกบทเรียน
ค่อยปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างแนวทางกลอน
เวลาเปลี่ยนคนแปรกระแสผ่าน
งานเคยอ่านเคยดูเป็นครูสอน
ก็แปรเปลี่ยนมธุรสทุกบทตอน
เป็นยอกย้อน..ถางถากออกจากจินต์
มิอาจห้ามตามจิตลิขิตถ้อย
เพียงคนน้อยเฝ้าอ่านทุกงานศิลป์
หวั่นเพียงหนึ่งถ้อยความเมื่อยามยิน
บั่นมิตรสิ้น...เคืองขัดเป็นศัตรู
อยากจักเห็นลานบ้านยามผ่านเยี่ยม
ร้างความเสี้ยมคำคดให้อดสู
หลากเพื่อนพ้องมิเว้น..ยกเป็นครู
โปรดตรองดู..สักนิด..ก่อนคิดเคือง๚ะ๛
15 มกราคม 2555 12:06 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เรือลำเก่ากร่อนผุอายุมาก
ล่องข้ามฟากไป-กลับเกินนับไหว
จากฝั่งโน้นส่งฝั่งนี้ทุกปีไป
ด้วยหัวใจเมตตาและอารี
มากมายคนพึ่งพาและอาศัย
ส่งด้วยใจด้วยรักและศักดิ์ศรี
คืออาชีพเรือจ้างกลางนที
หล่อชีวีหลอมจิตลิขิตตน
กี่มากน้อยถึงฝั่งยังฟากท่า
เดินลับตาไกลห่างท่ามกลางหน
ทิ้งเรือเก่าเคว้งคว้างอยู่กลางชล
สักกี่คนย้อนมาหาลำเรือ
หลากใบหน้ามิซ้ำนามจำได้
ช่วงยาวไกลบนทางถือหางเสือ
ประคองคนหลายรุ่นและจุนเจือ
หวังเพียงเพื่อถึงฝั่งที่หวังกัน
เรือลำเก่ากร่อนผุอายุมาก
ฝีพายอยากทำตามหนึ่งความฝัน
หากวันหนึ่งลาลับกับคืนวัน
ไม้เรือนั้นสร้างท่าน้ำ..รอลำเรือ๚ะ๛
12 มกราคม 2555 15:50 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เพรงบุพเพคงวาสน์เรื่องชาติภพ
แต่ยังสบทัณฑ์แถนอย่างแน่นเหนียว
อีกคำสาปบาปบรรพ์ยังฝั้นเกลียว
เข้าหน่วงเหนี่ยวพรากทรวงท่ามช่วงกาล
วงกรรมแห่งโทษายากฝ่าฝืน
วันจรดคืนหมายจักเข้าหักหาญ
กลับถูกขวากแทงทิ่มตอกลิ่มมาน
เกินทัดทานทอนแรงที่แปลงทัณฑ์
จำตกห้วงหุบเหวของเรียวบาป
ต้องคำสาปในโลกความโศกศัลย์
ตราบรอยวาสน์เกื้อหนุนจากบุญบรรพ์
เข้าคลายฝั้นเกลียววัฎที่มัดทรวง
ม่านพิรุณยังครองทั่วท้องป่า
ดั่งขึงคาม่านหม่นจรดบนสรวง
ร้างดาวเดือนแจ่มใสวิไลดวง
ทุกคาบช่วงเยียบเย็นมิเว้นวาย
**พุดซ้อนขาวผลิแย้มแต่งแต้มถิ่น
ส่งกลิ่นหอมรวยรินไม่สิ้นสาย
อีกไม่นานผ่านคล้อยก็พลอยคลาย
พร้อมกลีบรายโปรยร่วงซบทรวงดิน**
หวังเพรงกรรมที่ยุดเฉกพุดซ้อน
จักคลายคลอนย้ายยกและผกผิน
รอนโทษาฤทธิ์แรงแห่งพรหมินทร์
เลือนลบสิ้นมิก่อแตกหน่อทัณฑ์
มวลสุมาลย์ดาษดอยดูหงอยเหงา
ใต้เงื้อมเงาโปรยปรายสายวสันต์
คล้ายร่วมรับคำสาปของบาปบรรพ์
ที่ขวางคั่นวิถีสองชีวา
ความคิดถึงบ่าไหลจากใจพี่
ทบทวีล้นหลากมากนักหนา
แต่ทัณฑ์แถนแรงฤทธิ์..อนิจจา
เกินหักฝ่าวงล้อมต้องยอมทน
หากบุพเพปางบรรพ์ยังปั้นแต่ง
รอโทษแห่งพรหมินทร์นั้นสิ้นผล
นานเพียงไหนทุกช่วงแห่งดวงมน
ยังเปี่ยมล้นเสน่หา..และอาลัย๚ะ๛