22 กันยายน 2548 08:40 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เคยถูกรักหักหาญระรานจิต
ความฝันปลิดปลิวหายในห้วงหวัง
ศรัทธาใจเคยล้นหลากมากพลัง
กลับถูกรั้งซบดินสิ้นเยื่อใย
รอยอดีตดุจกรอบสร้างขอบเขต
จนตั้งเจตน์จำนงค์ความหลงใหล
ต่อแต่นี้จะยับยั้งและชั่งใจ
มิหลงในกลลวงบ่วงมารยา
ครามีรักครั้งใหม่ให้วิตก
ยังตระหนกหวาดหวั่นสั่นผวา
กลัวฝันร้ายกรายหวนย้อนทวนมา
แล้วจากลาพร้อมหวังพังทลาย
แม้คำมั่นสัญญาว่ารักมั่น
แม้นยืนยันฝันนี้มิเลือนหาย
ภาพอดีตยังขีดเส้นเน้นรอยลาย
จิตมิวายตอกย้ำความช้ำเดิม
โอ้ใจเอ๋ยใจนี้ที่เหลืออยู่
จะเพียรสู้ก้าวย่างอย่างฮึกเหิม
หรือทดท้อรอเหงาเข้าซ้ำเติม
หยุดหรือเริ่มใจเอยเฉลยมา๚ะ๛
20 กันยายน 2548 12:39 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ กลางลมหนาวพริ้วพัดสะบัดไหว
ข้างกองไฟโชนแสงแข่งความหนาว
เดือนเพ็ญดวงแจ้งแจ่มแกมด้วยดาว
เด่นสกาวห้วงฟ้าน่าภิรมย์
ปีกแห่งรักโอบเกื้อเอื้อไออุ่น
กลิ่นกายกรุ่นยั่วยวนชวนสุขสม
คราคลอเคลียเนื้อนวลป่วนอารมณ์
ดุงดั่งจมธารสวาทบาดหัวใจ
กายสองกายบดเบียดเสียดสีเนื้อ
ไอรักเจืออาบซ่านจนสั่นไหว
อันอุ่นอื่นหมื่นแสนในแดนใด
หาเทียมในอุ่นนี้ที่ให้กัน
สอดประสานใจกายหมายเป็นหนึ่ง
ล้ำล่วงถึงหุบห้วงสรวงสวรรค์
พลันเมฆสอดกอดรับทับแสงจันทร์
น้ำค้างพลันร่วงรินอาบดินดอน
แสนดื่มด่ำล้ำลึกรู้สึกได้
ยอดยาใจพุ่มพวงดวงสมร
ราตรีนี้พี่แนบข้างน้องบังอร
มิอยากถอนสวาทหวานแม้นวันเยือน๚ะ๛
13 กันยายน 2548 13:54 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ บ้านหลังน้อยมากมายในน้ำมิตร
ร่วมลิขิตกลกลอนอักษรศิลป์
บทประพันธ์กลั่นกรองออกจากจินต์
มิล่มสิ้นวรรณกรรมล้ำค่าไทย
แม้นเวลาเปลี่ยนผันจากกาลก่อน
ห้วงบางตอนอาจลับล่มจมสมัย
กี่คนครูที่ล่วงลับดับแสงไป
แต่หาไร้ผู้สืบสานงานกวี
มวลมิ่งมิตรมากมายในบ้านน้อย
ที่ยังคอยแต่งเติมเพิ่มแสงสี
ทั้งโคลงกลอนกาพย์ฉันท์บรรดามี
ล้วนสิ่งที่ทำด้วยใจไร้มารยา
แม้นมิใช่บรมครูผู้ล้ำเลิศ
แต่ก็เกิดตามจินต์ถวิลหา
แม้ยังด้อยความหมายในอักษรา
แต่คุณค่าอยู่ที่ใจใฝ่เขียนงาน
ขอขอบคุณบ้านกลอนไทยจากใจนี้
หกขวบปีหยัดยืนและสืบสาน-
วรรณกรรมมิล่มหายไปกับกาล
จงหยัดยืนอย่างยาวนาน...ตราบนิรันดร์๚ะ๛
9 กันยายน 2548 11:46 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ สุดระทมตรมทรวงบ่วงสิเนหา
อนิจจาผู้คนก่นถากถาง
นางกากีพลีกายอันบอบบาง
เสนอร่างสนองรักปักษางาม
มูลเหตุแห่งรักนี้มีสาเหตุ
ทั่วคามเขตก้องไกลในภพสาม
พรหมทัตเฒ่าชราผู้เรืองนาม
ต้องถูกหยามเพราะน้ำยามาหมดไป
ยามเคียงข้างนางนอนตอนพลบค่ำ
สุดระกำยกพระขรรค์ดันไม่ไหว
เคยแข็งแกร่งผงาดฟ้าสุราลัย
กลับปวกเปียกเรี่ยวแรงไร้ให้อายตน
แม้นฝืนให้ขรรค์แข็งแทงคราหนึ่ง
เฒ่าซาบซึ้งคราวนี้นานปีหน
แค่เอาพายจรดอ่าวเจ้าหน้ามล
พายดันหล่นจมปากอ่าวเศร้าหทัย
นี่แหละหนอเรื่องราวคาวบัดสี
ด้วยกากีสวยสะคราญแลสดใส
ครั้นครุฑหนุ่มสนองรักหนักแน่นใจ
อีกพลิ้วไหวท่วงท่าลีลาดี
จึงตกลงปลงใจในวิหค
จะกี่ยกยังสบายมิหน่ายหนี
เคยอัดอั้นเก็บกดหมดเสียที
ชื่นฉิมพลี ณ สวรรค์เทียมชั้นพรหม๚ะ๛
5 กันยายน 2548 12:08 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เธอเอ่ยคำรำพันอัดอั้นจิต
ด้วยมิ่งมิตรแชเชือนดั่งเลือนหาย
ปล่อยให้คนฉ้อฉลวางกลอุบาย
เพื่อทำลายย่ำเหยียบเปรียบคนพาล
เธออดทนคำประณามเขาหยามใส่
ต้องข่มใจรับรู้ดูข่าวสาร
แม้นกล้ำกลืนสุดท้อแสนทรมาน
เธอยังคงเฉกธารผ่านทุกข์ตรม
ฉันศรัทธาหัวใจเธอกล้าแกร่ง
แม้นถูกแรงริษยามาทับถม
มิอ่อนไหวหลงใครในคารม
แม้นขื่นขมยังหาญกล้าท้าผจญ
ขอมอบคำปลอบใจจากปลายฟ้า
ให้แก้วตาปราศจากหลากภัยผล
ทั้งเล่ห์ร้ายจากลิ้นปลิ้นปล้อนคน
เธอจงพ้นแพ้วผ่านภัยคนทราม
ฉันยังเคียงอยู่ข้างมิร้างหาย
ตราบชีพวายขออยู่สู้คนหยาม
ดั่งสหายมอบสุขทุกโมงยาม
มิครั่นคร้ามแม้มากภัยมารายล้อม ๚ะ๛