6 ธันวาคม 2547 17:32 น.

ในใจ..ยังจำ

บินเดี่ยวหมื่นลี้

ลมพริ้วพัด ผ่านกาย ให้หนาวเหน็บ
ใจยังเจ็บ ไม่เลือน ย้ำเตือนมั่น
เหงาเร้ารุก เฝ้าปลุก ทุกคืนวัน
เศร้าไม่หัน เหกลับ ลาลับไป

ยังเกรงกลัว รอยอดีต ที่ขีดวาด
จึงไม่อาจ เปิดรับ กับสิ่งไหน
ใหม่หรือเก่า ที่เฝ้า หยอกเย้าใจ
ด้วยเจ็บใน นอกช้ำ ระกำทรวง

เก่าขอร้อง อย่าหวน ชวนให้คิด
ทุกอย่างปิด จบไป ไม่มีหวง
คำสัญญา จริงแท้ หรือแม้ลวง
ตัดจากบ่วง ห้วงฝัน อันลางเลือน

ใหม่ขอเก็บ ความดี ที่มีให้
และคงไว้ สัมพันธ์ ดุจฉันท์เพื่อน
เพราะมิ่งมิตร เช่นนี้ มิแชเชือน
เปรียบเสมือน น้องพี่ มีต่อกัน

ต้องขอโทษ อย่าโกรธ และถือสา
ที่ผ่านมา ต้องข่มใจ ให้คงมั่น
เพราะบทเรียน ที่ได้ ในวานวัน
ยังผูกพัน มัดจิต และริดรอน				
30 พฤศจิกายน 2547 14:32 น.

อย่าเลยนะ...คนดี

บินเดี่ยวหมื่นลี้

เห็นสร้อยทอง คล้องคอ พอจำได้
ว่าเคยให้ แก้วตา คราครั้งก่อน
เป็นคำมั่น สัญญา กับงามงอน
ว่าไม่จร ลาจาก หรือพรากไกล

แต่วันคืน ผ่านไป ไม่หยุดนิ่ง
เกือบทุกสิ่ง เปลี่ยนแปลง แฝงความหมาย
สร้อยเคยสวม ถอดวาง อย่างเดียวดาย
หมดอาลัย สิ้นรัก หักสัมพันธ์

มาวันนี้ เกิดอะไร กับใจเขา
ที่เพียรเอา สิ่งหนึ่ง ซึ่งตัวฉัน
เห็นเลือนหาย จากกาย ในทุกวัน
ปรากฏพลัน เสมือนหนึ่ง พึ่งให้เธอ

ขอเถิดนะ คนดี ที่เคยรัก
ยังแน่นหนัก ในจิต คิดเสมอ
เจ็บครั้งก่อน ยังรวดร้าว เฝ้าละเมอ
ไม่อยากเจอ เจ็บซ้ำ กระหน่ำทรวง				
19 พฤศจิกายน 2547 11:20 น.

น้ำตาฟ้า

บินเดี่ยวหมื่นลี้

ฟ้าร้องไห้ ในคืน ชื้นน้ำค้าง
มวลหมอกบาง หลบให้ สายฝนหนา
เจ้าหลงทาง หรือไร ถึงได้มา
ผิดเวลา และฤดู ที่อยู่เดิม

หรือลมบน แกล้งขับ ผลักไสส่ง
สายฟ้าลง ฟาดผ่าน รุกรานเสริม
จึงครวญคร่ำ ร่ำไห้ ใจเจ็บเกิน
จำต้องเดิน ผิดทาง  ระหว่างกาล

อยากจะร้อง ก้องไป เพียงใดฟ้า
ปล่อยออกมา ให้สิ้น ดินสงสาร
อย่ากักเก็บ น้ำตา ไว้ชั่วนาน
ไม่ต้องการ เห็นฟ้า ที่พร่ามัว

เมื่อผ่านพ้น คืนเศร้า ที่เร้ารุก
วันแห่งสุข ฟ้าใส ไม่สลัว
ฟ้าหลังฝน หนไหน ไม่เคยมัว
แจ่มชัดทั่ว ให้ดิน ได้ยินยล				
15 พฤศจิกายน 2547 14:20 น.

น้ำค้าง...กลางใจ

บินเดี่ยวหมื่นลี้

เมื่อหมอกจาง ฟ้าแจ้ง แสงแห่งเช้า
เหลือเพียงเงา น้ำค้าง ที่จางหาย
หมดเวลา เคี่ยวร่าง อย่างเดียวดาย
ต้องร้างไกล ลากลับ เมื่อลับจันทร์

แต่หมอกบัง กลางใจ ใยเฉยนิ่ง
ไม่ไหวติง ต่อแสง กลับแข็งขัน
ขยายร่าง สร้างม่าน กางกั้นวัน
บังแสงอัน สีทอง ให้ส่องใจ

ยิ่งน้ำค้าง กลางใจ ไม่เคยลับ
ยังเฝ้าขับ เคี่ยวร่าง น้ำค้างใส
ให้เอ่อล้น ท่วมขัง เข้าข้างใน
จนล้นใจ ไหลหลั่ง ยังปลายตา

อีกนานไหม ใจเอ๋ย เฉลยบ้าง
ให้เลือนราง ลับหาย สายหมอกหนา
น้ำค้างลบ เลือนหาย ไปจากตา
ใช้เวลา นานเพียงไหน จะได้คอย				
11 พฤศจิกายน 2547 16:15 น.

เงาอดีต

บินเดี่ยวหมื่นลี้

เงาอดีต ยังกรีดกราย ไม่หายลับ
ยังคงจับ คาใจ ในห้วงฝัน
แสดงฤทธิ์ ขีดใจ ให้ร้าวราน
เหมือนเดชมาร เฝ้าหลอน ตอนเผลอใจ

ว่าตัดขาด ตัดได้ ใยเฝ้าคิด
ถูกสะกิด ด้วยเงาคม ตรมไฉน
ว่าสิ้นเชื้อ ไม่ก่อร่าง ร้างเชื้อไฟ
แต่ทำไม ใจยังสุม ด้วยกลุ่มควัน

หรือความจริง ตัดไม่ได้ ในอดีต
เพียงเฝ้าบีบ ฝืนใจ ไม่ให้หวน
ใจที่นิ่ง จึงหวั่นไหว ในขบวน
โซเซซวน เพราะใจฝืน ขืนความจริง

จะตัดได้ หรือไม่ ใจย่อมรู้
ที่เป็นอยู่ เพียงอดีต ขีดทุกสิ่ง
ทั้งร่องรอย เงารัก เคยพักพิง
หรือความจริง ไร้เงา ที่เฝ้าลืม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบินเดี่ยวหมื่นลี้
Lovings  บินเดี่ยวหมื่นลี้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบินเดี่ยวหมื่นลี้
Lovings  บินเดี่ยวหมื่นลี้ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบินเดี่ยวหมื่นลี้