9 มีนาคม 2548 12:37 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
หากน้องนางหมดเยื่อใยในตัวพี่
ดั่งไมตรีร้างไกลไม่ร่วมฝัน
ขอเวลาเล็กน้อยก่อนจากกัน
นิทานอันโบราณกล่าวขอเล่าไป
ณ ทุ้งร้างห่างไกลในสีแสง
ที่ซึ่งแห่งชาวนาอยู่อาศัย
เพียงลำพังโดดเดี่ยวเปลี่ยวหัวใจ
ดำเนินไปตามทางอย่างเคยเป็น
จวบวันหนึ่งดั่งว่าชะตาร้าย
งูใกล้ตายอยู่ตรงหน้าสายตาเห็น
นอนขดร่างตากน้ำค้างพรมพร่างเย็น
แสนลำเค็ญดูสาหัสไม่รัดกาย
ด้วยสงสารจึงเก็บเอามาเลี้ยง
ให้อยู่เคียงในเรือนเหมือนสหาย
เฝ้าดูแลใส่ใจมิเว้นวาย
จนล้าคลายคืนแรงแห่งนาคา
หารู้ไม่ความตายมากลายกล้ำ
คมเขี้ยวย้ำพิษร้ายเกินรักษา
ต้องทิ้งร่างจากไปเพราะเมตตา
อสรพิษหาเห็นค่าในพระคุณ
โบราณสอนให้จำนำมาคิด
อันงูพิษหลีกไกลอย่าเกื้อหนุน
แม้เพียงน้อยอย่าให้ในการุณ
ร่มใบบุญมิควรให้สัตว์ร้ายพิง
7 มีนาคม 2548 12:32 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
ยามโสมส่องราตรีที่เยือนหล้า
พลันอุราปวดร้าวเศร้ามิหาย
แสนหวั่นทรวงนวลน้องจะกลับกลาย
ด้วยอื่นชายมากล้อมหวังครองนาง
แสงจันทร์แจ่มนภาเวหาหน
พี่พร่ำบ่นถึงเจ้าก่อนคราวสาง
ยังละเมอเพ้อหวนแต่นวลนาง
ยากหาทางข่มใจดั่งไฟลาม
พระพายแผ่วพัดกายมิวายคิด -
ถึงมิ่งมิตรเคยใกล้ใจหวาบหวาม
เนื้อเบียดเนื้ออุ่นไอในคืนยาม
สุดจะห้ามหักข่มอารมณ์รัก
เอื้อนเอ่ยถ้อยร้อยคำลำนำฝัน
ผ่านคืนวันทุกความย้ำแน่นหนัก
ทั้งวจีที่กล่อมเจ้าคราวเอนพัก
ให้ตระหนักถึงรักนั้นมิผันแปร
จันทร์เลื่อนลับลอยหายจากห้วงฟ้า
หมู่ดาราลี้แสงแห่งดวงแข
หวั่นวิตกอกสะท้านในดวงแด
ตะละแม่จักเลือนเหมือนรักวาย
4 มีนาคม 2548 13:08 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
ฤๅถึงกาลล่มแล้ว..............ธารธรรม
ชนชั่วจิตใจดำ.................ต่ำช้า
มิเกรงต่อบาปกรรม.........มันก่อ
กี่ศพไล่ฆ่าคว้า.................ด่าวดิ้นในแดน
ร่วมชาติแต่ต่างไซร้..........ศาสนา
คำสั่งสอนศาสดา............แจ่มแจ้ง
ทำดีจิตเมตตา....................ละชั่ว
แม้นต่างศาสน์อย่าแกล้ง..........หมิ่นสิ้นน้ำใจ
อยากถามพวกชั่วช้า................สามานย์
หากท่านมีวิญญาน.............ผู้กล้า
ควรหรือล่ารุกราน...............ผองเพื่อน
นัดหนึ่งลั่นคือฆ่า...............พี่น้องร่วมแผ่นดิน
ฤๅถึงการล่มแล้ว...............ธารธรรม
ดีชั่วไม่น้อมนำ..................สู่เกล้า
อ้างศาสน์ก่อประจำ...........บาปบ่ม
จวบซากแหลกคาเถ้า..........มิรู้นรกสวรรค์
3 มีนาคม 2548 09:37 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
โบราณเอ่ยอ้างคำย้ำเรื่องรัก
ให้ตระหนักถึงพิษความคิดถึง
ดั่งโคถึกแม้นขังผูกมัดตรึง
ยังขืนขึงด้นไปตามใจตน
ดังโรคาปิดตาพามืดบอด
ยังเพียรลอดขวากหนามทุกแห่งหน
อุปสรรคหนักหนามาผจญ
ในกมลหาฟังยังคำใคร
ทั้งยามกินเหมือนกลืนดินทรายกรวด
หวานเลือนงวดเพียงขมบ่มไฉน
อีกคราวนอนยากข่มล่มหลับไป
เพราะพิษไข้รักแทรกเข้าแบกคอน
ต่อยาถอนยาแก้แม้ยาสั่ง
มิอาจยั้งฤทธิ์รักที่หลอกหลอน
มีเพียงหนึ่งพ้นได้ในอาวรณ์
คือกองฟอนห่อกายยามวายปราณ
1 มีนาคม 2548 12:28 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
หนึ่งเดือนดูดั่งคล้าย............แรมปี
ยามห่างจากคนดี.................ก่อนใกล้
วันคืนดั่งวารี........................ไหลเฉื่อย
ดั่งฉุดเราอกไหม้................ท่ามห้วงทะเลเหงา
แลเดือนลอยเคลื่อนคล้อย......บนนภา
หาล่องเหมือนเคยมา.........ก่อนนั้น
หรือหยุดส่องพสุธา..............เราพร่ำ
กระต่ายร่ำไห้ครั้น................ชะแง้ครวญหา
หนึ่งคืนยามชิดใกล้.............กัลยา
กลับเร่งกาลเวลา.................. เพื่อพ้น
แค่เพียงหนึ่งนิทรา...............เคียงคู่
สุขล่วงยากไขว่ค้น...............สะอื้นไห้โหยหา
สุขมีเพียงแค่ข้าม.................คืนเดียว
มากทุกข์ติดตามเทียว...........แห่ล้อม
ผ่านวันดั่งคมเคียว................เกี่ยวร่าง
พิสวาทดั่งเพลิงอ้อม..............รุกให้ถวิลถึง