11 พฤศจิกายน 2548 08:42 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ แล้วลมหนาวก็ทักทายในคืนค่ำ
ริ้วลำนำหมอกขาวพราวไสว
เพ็ญเด่นดวงโดดเดี่ยวช่างเปลี่ยวใจ
ดั่งบางใครถวิลหารักมาเยือน
หยดน้ำค้างแต้มแต่งแก้มบุปผา
คล้ายน้ำตาคนไกลให้หมายเหมือน
ฤๅคำมั่นสัญญามาลืมเลือน
จึ่งแชเชือนมิคิดถึงคนึงกัน
ฝากดวงจันทร์ถามไถ่คนปลายฟ้า
โปรดตอบมาอย่ารวนเรหรือเหหัน
สวาทหวานที่มอบให้ในวานวัน
มิใช่ฝันยามนิทราแล้วลาไกล
ยามลมหนาวทักทายในคืนค่ำ
ดั่งตอกย้ำคิดถึงคนเคยเคียงใกล้
แต่ยามนี้ไร้เงาเจ้าหัวใจ
ทิ้งบางใครผิงดาวเศร้าลำพัง๚ะ๛
4 พฤศจิกายน 2548 14:09 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เมื่อความจริงปรากฏหมดสงสัย
ใครเป็นใครเลวทรามตามเวปเผย
คนที่เขายกย่องพี่น้องเปรย
กลับมีหางโผล่มาเฉยเลยประจาน
ด่าประณามตัดสินหมิ่นประมาท
ยืมมือคนอื่นพิฆาตมุ่งมาตรผลาญ
สารเลวเกินทนคนจิตมาร
เพียรระรานให้เสียหายมิวายเว้น
วันที่เวปกระชากหน้าผู้ล่าเหยื่อ
หมาที่อ้างว่าเป็นเสือเพื่อโดดเด่น
ไอ้หน้าด่างร้องครางอย่างลำเค็ญ
ขี้เรื้อนเร้นหลบภัยให้ทุรน
ไอพีเวปปรากฏบทพิสูจน์
ปากที่พูดให้ร้ายใครขยายผล
หลักฐานจะมัดไว้หากใครยล
ใบบัวปิดฤๅพ้นคนระยำ ๚ะ๛
3 พฤศจิกายน 2548 11:31 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ แม้นมิใช่ครุฑาพญาหงส์
เพียงนกดงไร้ค่าคอยล่าฝัน
บินหมื่นลี้ข้ามผาท้าตะวัน
ห่มแสงจันทร์ก็อุ่นใจใต้ดวงดาว
ฝันที่หวังวางไว้ตรงปลายฟ้า
แม้บางคราบาดเจ็บและเหน็บหนาว
มิเคยท้อทอถักแม้นสักคราว
หลากเรื่องราวคือตำนานการเดินทาง
ยามราตรีคลี่ม่านคลุมลานหล้า
ซุกกายาหลับไหลรอรุ่งสาง
น้ำค้างพรมลมหนาวอันเบาบาง
จะเลือนลางยามทิวาเข้ามากราย
ร้อยทิวาพันราตรีที่ผ่านผัน
กี่แรมจันทร์มิละหวังยังจุดหมาย
ยังมุ่งมั่นบากบั่นฝ่าอันตราย
ตราบสุดท้ายถึงปลายทางอย่างทรนง๚ะ๛
31 ตุลาคม 2548 10:22 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เคยพลาดพลั้งแพ้พ่ายไร้สภาพ
จนเข็ดหลาบกลัวเกรงเพลงบทเหงา
ความทรงจำเก่าก่อนยังหลอนเรา
ตามเป็นเงาสนิทแนบแทบทุกครา
ยังหวาดหวั่นพรั่นพรึงถึงความเจ็บ
ที่แนมเหน็บหยอกเอินเกินรักษา
ปล่อยกาลผันผ่านลับนับเวลา
ให้เยียวยาหัวใจหายตรอมตรม
ริ้วรอยแผลเลือนรางอย่างช้าช้า
ท่ามอุราเปลี่ยวเหงาเศร้าขื่นขม
บางครั้งต้องกล้ำกลืนฝืนอารมณ์
กดเก็บข่มสายสวาทที่บาดใจ
แต่วันนี้ไยขบถกับอดีต
ที่เฉือนกรีดดวงมานจนหวั่นไหว
ฤๅลืมเลือนรอยหมองครองทรวงใน
จึงเปิดใจให้ความรักเข้าทักทาย๚ะ๛
28 ตุลาคม 2548 14:55 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ จิตมนุษย์สูงต่ำดำหรือขาว
ลองพิจดูเรื่องราวที่พบเห็น
อีกวาจาที่ร้อนรุ่มหรือชุ่มเย็น
แสดงถึงธาตุที่เร้นอยู่ภายใน
คนใจสูงเยือกเย็นเห็นถูก-ผิด
เพราะชีวิตมีธรรมอันผ่องใส
คนใจต่ำร้อนระอุดั่งคุไฟ
เพลิงเผาไหม้ซากร่างดั่งเพลิงกัลป์
อันดีชั่วปะปนบนโลกกว้าง
และหนทางหลากหลายให้คัดสรร
มากผู้คนยื้อแย่งบ้างแบ่งปัน
สิ่งเหล่านั้นจงใช้จิตพิจารณา
หนึ่งจิตใจติดตัวมาครากำเนิด
จะเลอเลิศหรือต้อยต่ำห่ามตัณหา
งดงามแท้หรือเพียงฉาบทองทาบทา
ต้องค้นหากันไปในจิตคน๚ะ๛