10 มีนาคม 2549 08:36 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เคยเจ็บช้ำร่ำไห้ใจแทบขาด
ความหวังวาดล่มร้างระหว่างหวัง
ฝันที่เพียรเขียนฝันพลันภินท์พัง
โศกประดังล้อมรุมโอบอุ้มทรวง
เพียงช่วงหนึ่งพานพบประสบการณ์
เพียงตำนานรักร้าวที่ก้าวล่วง
เพียงจริงใจของคนแต่ปนลวง
เพียงหนึ่งห้วงโง่เขลาเบาปัญญา
ณ วันนี้เจ็บนั้นก็ผันผ่าน
ความร้าวรานโศกหนักได้รักษา
หัวใจเคยแหว่งวิ่นสิ้นราคา
ถูกเยียวยาจากบางใครจนไร้รอย
ขอขอบคุณหัวใจใครคนนั้น
แม้นไกลกันแต่เรามิเหงาหงอย
จะถนอมรักเราและเฝ้าคอย-
รอเจ้ากลอยคู่เคียงที่เวียงพิงค์๚ะ๛
7 มีนาคม 2549 10:35 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
นกพเนจร
๏ ผูกหัวใจสองดวงด้วยบ่วงรัก
แนบสลักตราตรึงด้วยหนึ่งฝัน
ความอาทรอาลัยห่วงใยกัน
ดุจเชือกฝั้นแน่นเหนียวด้วยเกลียวใจ
ด้วยเจ้านั้นห่างไกลอาลัยนัก
เกินห้ามหักดวงจิตคิดหวั่นไหว
ยามกินนอนมิรู้อยู่อย่างไร
จะมีใครถนอมขวัญอัลมิตรา
ลิงเร่ร่อน
แม้นท่านมีดวงจิตคิดพันผูก
ขอเชิญปลูกต้นรักถักเสน่หา
จะร่วมร้อยความเรียงเคียงพรรณนา
กับบินเดี่ยวฯจนกว่าชีวาวาย
แต่อย่าเพียงแต่งแต้มเหมือนแซมฝัน
รักเพียงวันแล้วเลือนเหมือนสลาย
จงเป็นดั่งแหวนสองวงคงมิคลาย
พันธะคล้ายคือกันขอสัญญา๚ะ๛
๏ นางใดแม้นชื่อนั้น.............อัลมิตรา
เราจักมั่นสิเน่หา..................ห่อนร้าง
ทวยเทพทั่วโลกา..................ฟังสัตย์ เราเทอญ
อุบัติจักปรารถน์อ้าง............ ชื่นด้วยเยาวมาลย์๚ะ๛
6 มีนาคม 2549 10:18 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ลาภลอยฤๅจักได้.................ทุกวัน
แต่ลาภสักการะพลัน................แทบเท้า
อีกลาภที่ตะแบงดัน..................ซุกซ่อน
เจ็ดหมื่นกว่าล้านเจ้า................หลบเร้นร่องรอยฯ
๏ ยศถาที่ครองไว้....................กับตัว
ลุ่มหลงและเมามัว....................เดชกล้า
ดีเลวปล่อยพันพัว....................มิแบ่ง
ถือตนใหญ่คับฟ้า.....................เช่นนี้ดีฤๅฯ
๏ สรรญเสริฐจากรอบข้าง.........มัวเมา
ยกยอคือหมู่เรา.......................พวกพ้อง
ใครติงกลับมิเอา......................มาไตร่
ปวงชนแหกปากร้อง.................หาได้ยินยลฯ
๏ มีลาภเสื่อมลาภได้.................พึงจำ
อีกยศที่น้อมนำ........................ใส่เกล้า
สรรญเสริญความระยำ..............เพาะบ่ม
ยามตกอับจักเศร้า....................มิเว้นผู้ใด๚ะ๛
1 มีนาคม 2549 11:38 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ขุนเขาสูงเสียดเมฆใครเสกสร้าง
อีกหนทางคดเคี้ยวเลี้ยวเลาะป่า
มวลไม้พันธุ์สะพรั่งข้างธารา
ละลานตาพลิ้วไสวล้อสายลม
ความเหนื่อยล้าโรยแรงที่แฝงจิต
พลันถูกปลิดปลิวลับมิทับถม
ใจเจ้าเอยเคยเศร้าร้าวระทม
กลับไร้ตรม ณ ถิ่นอินทนนท์
สองหัวใจไกลห่างเส้นทางกั้น
เฝ้านับวันที่ผันหลายพันหน
ได้แต่วอนเทวัญบันดาลดล
เพิ่งสพผลวันนี้ที่รอคอย
ขอถอดวางหัวใจไว้ให้เจ้า
ณ วันที่สองเรามิเหงาหงอย
ท่ามเขาสูงเสียดฟ้าแห่งผาดอย
เราจะคอยเคียงกันทุกวันคืน๚ะ๛
23 กุมภาพันธ์ 2549 12:54 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ หมอกขาวพรมโลมลานคืนจันทร์เสี้ยว
น้ำค้างเกี่ยวยอดหญ้าพฤกษาไสว
ยามมองจันทร์บนฟ้า ณ คราใด
ดั่งคมเคียวเกี่ยวใจไปทุกคราว
เงียบสงบซบหมอนนอนสะอื้น
น้ำตารื้นทรวงในให้เหน็บหนาว
หวนคำนึงบางสิ่งคืนผิงดาว
ดั่งหอกหลาวแทงทิ่มปริ่มขาดใจ
จำฝืนทนหม่นหมองครองคราบเศร้า
สวมกอดเงาโศกศัลย์สะท้านไหว
แม้นคืนวันผันผ่านนานเพียงใด
ในหัวใจยังซ่อนซุกทุกข์รัญจวน
หมอกขาวพรมโลมลานคืนจันทร์เสี้ยว
เพียงหนึ่งเดียวเจ็บนักรักผันผวน
ขอจบฝันฝังกลบมิทบทวน
ทุกสิ่งล้วนคือซากเถ้าความเข้าใจ๚ะ๛