21 สิงหาคม 2550 21:11 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ สงบใจใตร่ตรองมองสักนิด
ถูกฤๅผิดกลั่นกรองมองรอบด้าน
อคติ-อัตตาอย่าคอนคาน
พิสูจน์การณ์แจ่มแจ้งแรงปัญญา
ใช่พวกมากลากลงเข้าพงหนาม
จักทุกข์ยามรู้แจ้งแห่งปัญหา
ด้วยละเลยเฉยนิ่งหยิ่งอัตตา
เพราะศรัทธาทุรชนคนหูเบา
เขาว่า"ถูก"ทำเถิดประเสริฐนัก
ควรตระหนักตรองใตร่ในคำเขา
ถูกต้องถูกถ้วนทั่วใช่มั่วเอา
อย่าคาดเดาจงพิเคราะห์อย่างเจาะจง
เขาว่า "ผิด"บิดเบือนเตือนตนก่อน
อย่ารีบร้อนเห็นตามด้วยความหลง
เจตนาแห่งธรรมต้องดำรง
เจตน์จำนงค์แห่งอภัยยิ่งใหญ่ทาน
สงบใจใคร่ครวญตรองถ้วนถี่
เพราะชนมีมากมายหลายสถาน
บ่อปัญญาแห่งธรรม์หมั่นอภิบาล
อย่าให้การณ์อกุศลปนปัญญา๚ะ๛
17 สิงหาคม 2550 16:00 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ จะร้อนหนาวพราวฝนบนเมืองใหญ่
มิสนใจอาทรในร้อนหนาว
ไร้บ้านโตโอฬารสะพานดาว
ทุกช่วงก้าวลำพังยากหยั่งรู้
เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งสิ่งติดกาย
มิมาดหมายไหมงามอร่ามหรู
หัวจรดเท้าคราบไคลไม่น่าดู
ก็ทนอยู่มิบ่นก่นความใด
คุ้ยขยะหาอาหารสมานท้อง
ที่ร่ำร้องโหยหิวจนกิ่วไส้
เพียงเศษน้อยคำหนึ่งพึงพอใจ
มื้อนี้ได้ต่อชีวาอีกคราวัน
นอนฟุตบาทแทนเตียงเคียงจันทร์เจ้า
สุขฤๅเศร้ามิอาจหวังวาดฝัน
รู้เพียงยามพรุ่งพลบสูรย์กลบจันทร์
ท้องไส้อันหิวกระหายจักคลายลง
มิเคยขอเศษเงินเมินเสียเถิด
อยู่ตามมีตามเกิดไม่ไหลหลง
ใช่บรรลุธรรมใดได้ปลดปลง
แต่จะคงวิถีข้า...คนบ้าบอ ๚ะ๛
16 สิงหาคม 2550 14:41 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ไยนวลจึงกล่าวถ้อย............ตรอมตรม
ดุจดั่งใจระทม......................พ่ายแพ้
เรียมเอยอย่าขื่นขม...............หมองจิต
รักที่ยังคงแท้.......................ห่อนได้เลือนหายฯ
๏ มองเดือนคืนค่ำนี้..............นงราม
เหมือนพี่คอยติดตาม............ชิดใกล้
แสงเดือนที่งดงาม................โอนอ่อน
เหมือนพี่กอดเรียมไว้............คู่ข้างเยาวมาลย์ฯ
๏ ดาษดาวพราวพร่างฟ้า.....ฟากสวรรค์
ฤๅเท่าเทียมรักอัน.................เลิศล้ำ
รักของพี่เอกอนันต์................เสมออยู่ แม่นา
พันหมื่นสัญญาย้ำ.................บ่ได้เทียบเทียม
๏ เรียมเอยโปรดอย่าพ้อ..........ครวญคำ
อกพี่แสนระกำ........................หม่นไหม้
เคยฤๅที่กระทำ.......................เจ้าเจ็บ ใจเอย
รักพี่คงมั่นไซร้.......................ดับสิ้นโสมสูรย์๚ะ๛
14 สิงหาคม 2550 20:03 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
พ.ศ.๒๕๒๕
..๏ มันทุบโต๊ะใส่ข้าเอ็งว่าไหม?
แล้วทำไมเรายังนั่งเฉยเฉย
โน่นปืนผาหน้าไม้ลุยมันเลย
มิต้องเอ่ยถามนามมันหยามเรา
ตะลุมบอนสอนมวยไม้ช่วยฟาด
ระเนระนาดโต๊ะพังก็ช่างเขา
เสียงกองเชียร์ยุตีมิมีเบา
บ้างก็เข้าโรมรันตะบันตี
เหลือบเห็นรถตำรวจเข้ากวดขัน
มือคว้าพลันเพื่อนยากกระชากหนี
ไส่เกียร์หมาหน้าตั้งยังทันที
ฝากชีวีกับสองเท้าเฝ้าตะบึง
พ.ศ. ๒๕๕๐
โต๊ะข้างข้างมองหน้าเหมือนหาเสี้ยน
ไปกราบเรียนมันว่าถ้าใจถึง
โน่นนอกร้านลุกมาอย่าเอ็ดอึง
ใครคนหนึ่งคืนนี้เลือดปรี่นอง
" โธ่เพื่อนเอ๋ยขอโทษอย่าโกรธเขา
นั่นแฟนเราลืมบอกพรรคเพื่อนผอง
หนุ่มอังกฤษตาคมผมสีทอง
เราอยู่ดองกันดีหลายปีแล้ว "
โอยเพื่อนข้ามาพบสบอีกคน
ก็กลายผลกลายพันธุ์ใจฉันแป้ว
สมัยก่อนโรมรันฟันเป็นแนว
วันนี้แก้วเกลอฉัน...ฟันบ่าก้วย๚ะ๛
บ่าก้วย...ภาษาถิ่นเหนือเรียกผลไม้ชนิดหนึ่ง
ซึ่งภาคกลางเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า...ฝรั่ง....
9 สิงหาคม 2550 19:25 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ เกินสรรพจน์รจนาภาษาศิลป์
ท่ามแผ่นดินจบสมุทรสุดเวหา
กี่ล้านถ้อยรอยคำพร่ำพรรณา
เปรียบเทียบคุณมารดาหาได้มี
อันงามใดว่างามจบสามโลก
พลันหมองโศกหมดแรงแสงรัศมี
ยามเปรียบงามเลิศล้นชนนี
ในจักวาลแห่งนี้มิมีปาน
อันอ่อนหวานใดใดในไตรภพ
สวรรค์จบดินแดนว่าแสนหวาน
เทียมมารดาเพียงก้อยเสี้ยวรอยจาร
อย่าริหาญมาเปรียบเทียมเทียบกัน
อันเข้มแข็งแกร่งกล้าภูผาใหญ่
สุเมรุในเมืองแมนแดนสวรรค์
ฤๅเทียมแกร่งมารดาวิลาวัลย์
เอกอนันต์จบสกลพ้นขอบกาล
เกินสรรพจน์รจนาภาษาศิลป์
ท่ามแผ่นดินแผ่นฟ้ามหาศาล
หมดสมุทรสุดแม่น้ำสายลำธาร
แสนโกฏิล้านพจน์พากย์ยากบรรยาย๚ะ๛