17 พฤศจิกายน 2550 20:39 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ สายวสันต์อันฉ่ำชื้น..............วสันต์
รินพร่างพรมห่มขวัญ................ค่ำเช้า
สายกาลผ่านคืนวัน...................ลับผ่าน
คงแต่ความโศกเศร้า................เอ่อล้นทรวงใน๚
๏ กาลก่อนเคยแกร่งกล้า...........มโนไฟ
ทระนงองอาจใน........................รักแท้
ยามรักหักหาญใจ.......................เฉือนจิต
พลันอ่อนแอพ่ายแพ้..................เช่นผู้ปราชัย๚
๏ เหน็บหนาวราวจับไข้..............ทรมาน
จมดิ่งในสายกาล........................ไป่สิ้น
จินตภาพแห่งวันวาร...................เลือนดับ
เพียงร่างรอแดดิ้น......................ซบใต้ปฐพี๚
๏ สายวสันต์ยังฉ่ำชื้น.................วสันต์
พรมพร่างหว่างคืนวัน.................ค่ำเช้า
น้ำตาแห่งโศกศัลย์.....................ไหลเอ่อ
คงแต่ความตรมเศร้า..................ชั่วฟ้าดินสลาย๚ะ๛
25 ตุลาคม 2550 22:32 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ ซ่อนเร้นตนเดียวดายใจกายเจ็บ
ทนหนาวเหน็บอ้างว้างบนทางฝัน
เยื่อใยรักถักทอพอนานวัน
เพียงโศกศัลย์เกาะกุมรกสุมทรวง
ความห่วงหาอาลัยยามไกลห่าง
กลับจืดจางคลอนแคลนมิแหนหวง
อันอาทรเคยล้นปรี่ฤดีดวง
กลับผันล่วงเลือนหายกับสายกาล
จำข่มความขมขื่นสะอื้นกลั้น
แม้นเจ็บอันแสนหนักเข้าหักหาญ
หวังหลุดพ้นปวดร้าวแม้นยาวนาน
เพียรประสานรอยแผลแต่ลำพัง
ซ่อนเร้นตนเดียวดายให้หายเจ็บ
แม้นหนาวเหน็บหัวใจในความหลัง
ปลดปล่อยวางรักนี้มิจีรัง
สิ่งพลาดพลั้งจำจดเป็นบทเรียน๚ะ๛
16 ตุลาคม 2550 12:57 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ ลมเหมันต์ผันกลับจากลับห่าง
ม่านหมอกจางคืนถิ่นยามสิ้นฝน
ดอกหญ้าคอยน้ำค้างอย่างกังวล
หวั่นกมลเจ้ามิมาคราหนาวเยือน
ไหวล้อลมห่มดาวพร่างพราวฟ้า
สกุณาคืนคอนนอนกลางเถื่อน
จำได้ไหม? " ลมหนาวและดาวเดือน "
อยากย้ำเตือนบางใครให้ทบทวน
อย่าลืมเลือนเถื่อนพงหลงเมืองใหญ่
หนึ่งหัวใจคอยฝันวันคืนหวน
ทนอิงเงาเศร้าโศกวิโยคครวญ
ร่ำรัญจวนคำนึงหาทุกราตรี
ลมเหมันต์ผันกลับจากลับห่าง
ม่านหมอกจางโลมดินทุกถิ่นที่
เก็จน้ำค้างแต่งแต้มแซมมาลี
ดวงฤดีจักหวนมาเวลาใด??๚ะ๛
9 ตุลาคม 2550 23:06 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ คืนเหน็บหนาวยาวนานบนลานโลก
ความเศร้าโบกโบยตีฤดีหมอง
ทนขมขื่นปวดปร่าน้ำตานอง
โศกจับจองตีตราพันธนาการ
เพียงลมแผ่วพลิ้วผ่านสะท้านไหว
ด้วยหัวใจยับเยินเกินประสาน
คืนน้ำค้างพร่างพรมประโลมลาน
ในดวงมานแต้มพร้อยรอยน้ำตา
ท่ามโสมส่องล่องฟ้าราตรีหม่น
มีเพียงคนเดียวดายไขว่คว้าหา-
หนึ่งเสี้ยวน้อยรอยรักสลักอุรา
แต่พบเพียงความปวดปร่ามากำนัล
คืนเหน็บหนาวยาวนานมิผ่านลับ
แม้นโสมดับสูรย์เลื่อนกาลเปลี่ยนผัน
ซากทรงจำเลือนลับกับวารวัน
เจ็บอนันต์เสถียรอยู่มิรู้คลาย๚ะ๛
26 กันยายน 2550 13:57 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ สายลมแผ่วพลิ้วไหวในคืนหนาว
ฟากฟ้าพราวดาวเดือนเป็นเพื่อนฝัน
เพลงพนาเจื้อยแจ้วแว่วรำพัน
ห่มแสงจันทร์ทอใจยามไกลนาง
เก็จน้ำค้างพร่างพรมประโลมพฤกษ์
ความรู้สึกคุ้นคล้ายในหลายอย่าง
แววตาใคร?กันหนอพอรุ่งราง
งดงามดุจน้ำค้างกลางตาวัน
มวลไม้ป่ายามเช้าเคล้าสายหมอก
น้ำค้างหยอกยอดหญ้าพาสุขสันต์
งามมาลีแสนงามยังคร้ามครัน
เมื่อเทียบกันในงามนุชบุษา
สุวคนธ์กลิ่นหอมยังยอมพ่าย
เทียบหอมกายเจ้าจอมนั้นหอมกว่า
น้ำผึ้งหวานฤๅเทียมพจน์รจนา
อัปสราแห่งป่าเขาลำเนาไพร
สายลมแผ่วพลิ้วไหวในคืนหนาว
ฟากฟ้าพราวดาราพฤกษาไสว
ก่อนนิทราจักอธิษฐานทุกวารไป
ขอคนไกลหวนคืนเหย้าคราหนาวเยือน๚ะ๛