13 กันยายน 2551 13:15 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ วาวแววดุจดั่งแก้ว........................จินดา
ยามซึ่งสุริยา....................................ส่องต้อง
วูบวับก่อนลับตา..............................เลือนจาก
หายลับเกินร่ำร้อง............................กู่ให้ขวัญคืน๚
๏ บอบบางเป็นอย่างนี้......................ฤๅขวัญ
เร้นซ่อนคราวารวัน..........................เยี่ยมหล้า
คราคืนค่ำยามจันทร์.........................ลอยเด่น
พลันหยดรินจากฟ้า...........................สู่ห้วงแดนดิน๚
๏ เหมันต์ลมอ่อนพลิ้ว........................พัดไกว
มีหนึ่งคนแดนไกล............................ห่วงเจ้า
เพียรสานก่อทอใย.............................พันผูก
ทุกวันวารค่ำเช้า................................มาดหมั้นพันธนา๚
๏ ฝากรักลอยผ่านฟ้า.........................หาขวัญ
แสนหมื่นคำจำนรรจ์.........................กล่าวอ้าง
มิเทียมหนึ่งผูกพัน............................เสมออยู่-สถิตใจ
ตราบจบกาลล่มร้าง............................บ่สิ้นเสน่หา๚ะ๛
6 กันยายน 2551 11:43 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ หลากเรื่องราวคละเคล้า...................ชีวา
ดุจดั่งพรางมายา................................ดักแร้ว
สุขสันต์ใฝ่เพลินหา............................กกกอด
ยามจ่อมทุกข์มิแคล้ว.........................เอ่ยอ้างชะตาฯ
๏ มากมายหลายหมู่ล้อม.....................กายตน
เสริมแต่งแข่งริษยาจน.......................เร่าร้อน
บ้างเบียดบีฑาคน................................ลับร่วง
หลากความสลับซับซ้อน.......... ............มนุษย์นี้ปนเปฯ
๏ ขอจรลาจากแล้ว..............................บินไกล
บทบาทอีกความนัย.............................ซ่อนซ้อน
หลากเรื่องปลดปลงไป.........................จากจิต
ล่องล่วงจักมิย้อน.................................เกลือกกลั้วมายาฯ
๏ โดดเดี่ยวในไพรกว้าง.....................เดียวดาย
ไร้เล่ห์เพทุบาย........... .......................สุขล้น
คราคืนค่ำเอนกาย...............................พักผ่อน
ยามรุ่งมุ่งบินพ้น...................................สู่ห้วงฟ้าไกล๚ะ๛
13 สิงหาคม 2551 22:40 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ เพ็ญเดือนล่องท่องฟ้าคราหน้าฝน
เมฆเบื้องบนบดบังยังแสงฉาย
ฟ้าครึ้มหม่นซึมเศร้าไร้ดาวราย
มินานสายวสันต์ก็ลั่นไพร
เดือนเอ๋ยเดือนอับแสงเพราะแรงวสันต์
อีกวารวันฤๅแข่งแสงวันไหว
น่าอนาถวาสนาจันทราใจ
คืนวันใดก็มืดดับอับแสงตน
หวังวสันต์ผันผ่านสายกาลล่วง
ขอเด่นดวงวงพักตร์บ้างสักหน
ทอแสงนวลทาบทาฟ้าเบื้องบน
ทักทายคนเคยชิดทุกนิทรา
เพ็ญเดือนล่องท่องฟ้าคราหน้าฝน
สักกี่คน?? คิดถึงคำนึงหา
แม้นเมฆหม่นยังหมายมั่นมองจันทรา
แม้นรู้ว่า..ค่ำคืนนี้...มิมีเดือน..๚ะ๛
9 สิงหาคม 2551 12:44 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ กว่าจะผ่านวันคืนเดินยืนได้
สองมือใคร?ตระกองประคองขวัญ
ยามล้มลื่นตื่นกลัวใคร?คว้าพลัน
อุ้มโอบมั่นแนบอกสะทกคลาย
ยามโหยหิวกิ่วท้อง ใคร?ร้องอ้อน
ใคร? รีบป้อนปลาข้าวเช้ายันสาย
ยามหลับนอนใคร?อยู่มิดูดาย
เหลือบริ้นกรายคอยปัดระมัดระวัง
ยามป่วยไข้ใคร?กันยิ่งสั่นสะท้าน
กลัวดวงมานเจ็บแสบ ใคร?แทบคลั่ง
หากเจ็บนั้นแลกได้ให้ประดัง-
มาโถมฝังจนสิ้นก็ยินดี
ใคร?กันหนอใคร?กันคงมั่นรัก
ภาระหนักเพียงใดมิหน่ายหนี
แม้นเหนื่อยล้าบั่นทอนค่อนชีวี
ดวงฤดี ใคร? นั้นยังมั่นคง
กว่าจะผ่านวันคืนเดินยืนได้
หนึ่งหัวใจ ใคร?เอยมิเคยหลง
รักมอบรักเลิศล้ำในดำรง
และยืนยงตราบสิ้นฟ้าดินกาล
กราบแทบเท้ามารดาแห่งข้านี้
พระคุณที่ล้ำฟ้ามหาศาล
เกินถักถ้อยร้อยพจน์มาจดจาร
ตราบวายปราณแทนมิหมดทดมิทัน๚ะ๛
27 กรกฎาคม 2551 23:24 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
.๏ ทิวาวารผ่านหายกับสายฝน
ราตรีหม่นย่างเยือนไร้เดือนฉาย
กี่เพลาแล้วหนอรอดาวราย
มีเพียงสายฝนพรำทุกค่ำไป
ฤๅฟ้าแกล้งกลบดาวจากหาวห้วง
ซ่อนเดือนดวงลับพ้นอยู่หนไหน
ฟ้าเอ๋ยฟ้าแกล้งคนช้ำไปทำไม
เพราะหัวใจข้ารอเดือนเป็นเพื่อนนอน
ยิ่งดึกดื่นคืนนี้ฤดีข้า
เศร้าโศกาหนักยิ่งกว่าสิงขร
ด้วยบางใครไร้แล้วแววอาทร
เคยอาวรณ์กลับจางใจมิใยดี
โปรดคืนแสงรัตติกาล..หยุดม่านฝน
คำวอนจากบางคนหม่นหมองศรี
หวังมองดาวเดือนงามยามราตรี
ก่อนพ้นผ่านคืนนี้..ที่ยาวนาน ๚ะ๛