6 กุมภาพันธ์ 2552 11:21 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ตราบฟ้าตราบดินล่ม...........มลายสูรย์
ปราศภพปราศธรณีบูร...........โลกตั้ง
จิตภักดิ์จิตเกื้อกูล...................เสมอมั่น
อุบัติอุทิศรั้ง............................มาตรใกล้ดวงสมร๚
๏ อธิฐานพานอื่นแม้น............อรชร
ปราศจิตปฏิพัทธ์วอน.............แนบเนื้อ
พระแพงเพื่อนอัปสร..............ไป่เทียบ อนงค์แม่
จิตมั่นปรารถน์โอบเอื้อ...........แต่เจ้านางเดียว๚
๏ ยังจดจำคำกล่าวเมื่อคราวนั้น
แม้นผ่านวันผ่านวัยใช่ลืมหลง
สัญญารักต่อกันยังมั่นคง
แลดำรงคงอยู่คู่ฟ้าดิน
อาจเพราะห่างเกินกว่าวาจาสนอง
เพียงทำนองเหว่ว้าคราถวิล
บรรเลงกล่อมนิทราเป็นอาจิณ
คล้ายชีวินร้างไร้คนใยดี
วอนนงรามอย่าเหงาแลเศร้าสร้อย
จงรอคอยบางใครอย่าหน่ายหนี
ความอาทรห่วงหาบรรดามี
พี่บัดพลีหมดแล้วแด่แก้วตา
ยังจดจำคำกล่าวเมื่อคราวนั้น
ยังคงมั่นในรักเป็นนักหนา
ตราบสายกาลกลืนกินสิ้นเวลา
สัตย์สัญญาพี่จำจดมิปดคำ๚ะ๛
๏ นางใดแม้นชื่อนั้น......อัลมิตรา
เราจักมั่นสิเหน่หา......ห่อนร้าง
ทวยเทพทั่วโลกา........ฟังสัตย์ เราเทอญ
อุบัติจักปรารถน์..........ชื่นด้วยเยาวมาลย์๚ะ๛
29 มกราคม 2552 09:55 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ ตะวันคล้อยลอยต่ำยามค่ำหมอง
แววดาวครองราตรีที่เหน็บหนาว
นับแต่นี้คืนมืดที่ยืดยาว
จักผันก้าวล่วงผ่านกับวารวัน
หลากเรื่องราวเรียงร้อยเกินถ้อยร่ำ
หลากลำนำถักทอสานก่อฝัน
หลายเวลาโศกเศร้าท่ามเงาจันทร์
คงผ่านผันเลือนหายกับสายลม
ในคำนึงคงยังเหนี่ยวรั้งไว้
แม้นสุดใจกล้ำกลืนความขื่นขม
ไย??มีพบแล้วพรากมากระทม
แสนตรอมตรมหม่นหมองน้ำนองตา
ด้วยมิอาจหน่วงเหนี่ยวแม้นเสี้ยวส่วน
ทุกสิ่งล้วนลับลอยให้คอยหา
มีเพียงหวังสายธารกาลเวลา
จักหวนมายามอรุณที่คุ้นเคย
ตะวันคล้อยลอยต่ำยามค่ำหมอง
แววตามองจันทราดูชาเฉย
ล้านความคำพจน์พากย์ที่อยากเปรย
สุดเอื้อนเอ่ยอ้างคำ...จึ่งจำนน ๚ะ๛
9 มกราคม 2552 12:55 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ ฝันเจ้างามตามใฝ่ในเดียงสา
ไร้มารยาปรุงแต่งเสแสร้งฝัน
ช่างงดงามโดดเด่นเช่นตาวัน
ฉายแสงอันสว่างแจ้งด้วยแรงตน
ฝันอยากเป็นนกน้อยคอยผกผิน
กางปีกบินทั่วฟ้าเวหาหน
ฝันอยากเป็นปลาน้อยลอยสายชล
แหวกว่ายบนลำธารสำราญใจ
ฝันอยากเป็นรุ้งงามยามหลังฝน
ที่โค้งมนกอดฟ้านภาใส
ฝันอยากเป็นดาราบนฟ้าไกล
วับแวมในราตรีที่เนิ่นนาน
ฝันเจ้างามสดใสไร้เสแสร้ง
ฝันด้วยแรงปรารถนามหาศาล
ไร้เดียงสางดงามไปตามกาล
ก่อนจักผ่านเยาว์วัยให้จินตนา๚ะ๛
27 พฤศจิกายน 2551 12:04 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ยินลำนำตรอมตรมผ่านลมหนาว
ร้อยเรื่องราวขื่นขมเกินข่มไหว
ด้วยสัมพันธ์จืดจางของบางใคร
สะอื้นในพฤศจิกาคราหนาวเยือน
ไยตัดพ้อทอคำระกำเศร้า
ดั่งเจ็บเร้ารุกใจหาใดเหมือน
ฤๅไหวหวั่นสัญญาจักลาเลือน
จึ่งเชือดเฉือนพากย์พจน์ประชดประชัน
หนาวลมหนาวคราวนี้เหมือนปีก่อน
ทุกบทตอนรักแท้มิแปรผัน
แม้นแสนห่างทางไกลในคืนวัน
ยังคงมั่นเราสองเต็มห้องใจ
อย่าเศร้าสร้อยปล่อยหนาวให้ร้าวจิต
ยังคงคิดถึงกันอย่าหวั่นไหว
อีกมินานยอดกมลของคนไกล
จักกลับไปรับขวัญ...ให้สัญญา๚ะ๛
4 พฤศจิกายน 2551 12:27 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ก๊กหนึ่งตั้งทำเนียบมาดเฉียบขาด
ป่าวประกาศเขตตนคนเสื้อเหลือง
อ้างข้อโน่นโยนคำกล่าวดูเปล่าเปลือง
เฝ้าผูกเรื่องร้อยพันปั่นประชา
อีกก๊กหนึ่งตั้งตนคนเสื้อแดง
เพื่อต้านแรงปฏิวัติมิจัดหา
เจตจำนงคงอยู่คู่พารา
เจตนาส่วนลึกต้องตรึกตรอง
ยังเงียบเงียบก๊กนี้เสื้อสีเขียว
ใช่โดดเดี่ยวกลับมากหลากเพื่อนผอง
เฝ้าดูเชิงสองฝั่งตั้งกรมกอง
ยังมิจองจับสถานทำการใด
จะหนึ่งก๊กสองก๊กฤๅสามก๊ก
สกปรกจงอย่านำมาใส่ -
แผ่นดินทองผืนงามนามว่า " ไทย "
สำนึกไว้เรานี้หนอ " พ่อเดียวกัน " ๚ะ๛
...........................................................
จะหนึ่งก๊กสองก๊กฤๅสามก๊ก
ล้วนตลกโปกฮาน่าขบขัน
หมดสามก๊งวงสุรายังคราวัน
สั่งมาพลันสามกั๊กค่อยพักนอน