9 ตุลาคม 2556 14:57 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ยามแตกตาตื่นขึ้น....เปิดคอมพ์
ลงชื่อโดยมิยอม.........เชื่องช้า
เฉกกลัวว่าตัวปลอม....มาเล่น แทนนา
จึงเร่งรีบลันล้า...........กดแป้นล๊อคอิน๚
๏สเตตัสเก่าแล้ว........มันวาย
อัพใหม่จนกระจาย.....เพื่อนไล้ท์
ฟันฟางช่างดูดาย.....จมเน่า แรมคืน
มิคิดจักแปรงให้........ชื่นล้ำยามอรุณ๚
๏โปรไฟล์รูปดั่งเจ้า...หญิง-ชาย
ตอนตื่นยังบ่ฉาย........ส่องบ้าง
แล้วโหลดอัพลงไลน์...เฟสบุ๊ค นานา
ดูเผื่อแมวมองจ้าง........คู่ข้างนางเฟือง๚
๏ตรองตรึกนึกก่อนเข้า....ล๊อคอิน
น้ำท่าข้าวปลากิน..........ก่อนเจ้า
ไลน์เฟสใช่ชีวิน..........ทุกช่วง วารวัน
จนบ่มองคนเฝ้า..........สะกิดข้าง อย่างเคย๚ะ๛
**อิอิ..ปล.บทที่สามวรรคสามเขียนผิดเด้อพี่น้อง
และคอมเม้นท์ยังไม่ได้..ทำไงดี????
8 สิงหาคม 2556 14:01 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ตาฝ้าฟางย่างย่ำก็ลำบาก
คราเจ้าจากเรือนเหย้าแม่เฝ้าหวัง
สักวันหนึ่งเจ้าย้อนมานอนรัง
สู้หน้าตั้งตาคอยเกินร้อยวาร
เจ้าเติบโตเติบใหญ่ในหน้าที่
เกียรติศักดิ์ศรีมากล้นหลากคนขาน
ห้อมล้อมด้วยเสพสิ่งศฤงคาร
บริวารคัดสรรให้บัญชา
ปฏิทินขีดฆ่าคราวันลับ
เฝ้านั่งนับเพ็ญแรมแกมเวหา
ไตรจีวรลริขารปีผ่านมา
ล่วงพรรษาอีกหนแม่ทนรอ
ไม้ไกล้ฝั่งจักยืนกี่หมื่นหน
ก้าวย่างบนวงกรรมซ้ำซ้ำหนอ
มีสิ่งเดียวน้อยหนึ่งก็พึงพอ
แม่เพียงขอเห็นสีชายจีวร
มิได้ทวงบุญคุณให้ขุ่นจิต
ก่อนชีวิตหยุดนิ่งท่ามสิงขร
เหลือซากเถ้าผุพังยังกองฟอน
แม่ขอวอนลูกคืนได้ชื่นชม
ทรัพย์สมบัติมรดกแม่ยกให้
ขอน้ำใจมิมากหากเหมาะสม
บวชแทนคุณมารดาค่าน้ำนม
ก่อนแม่ล้มร่างลับมิกลับมา
หากมิทันดูใจด้วยไกลห่าง
ยามซากร่างแม่รั้งเพียงมังสา
หมดสิ้นปราณลงโลงโยงศาลา
ขอสักครา...บทสวด.." บวชหน้าไฟ " ๚ะ๛
12 กรกฎาคม 2556 16:08 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เมื่อเพรงพากย์สูญสัตย์ตระบัดสิ้น
เพียงลมลิ้นเลศลวงพรางบ่วงขึง
เข้าฝั้นเกลียวกระหวัดผูกมัดตรึง
ใจดวงหนึ่งแทบแตกลงแหลกลาญ
ถ้อยความคำสาบานฝากผ่านฟ้า
สิ้นคุณค่าความนัยดั่งไฟผลาญ
อีกสัญญาสัจจะบรรพกาล
คราพ้นวารปรักป่นลอยปนลม
เพียงรอยเศร้าแอบอำในสำนึก
ทุกรู้สึกเต้นตื่นด้วยขื่นขม
ยามย้อนยลเพรงพากย์ที่ฝากปม
แสนระทมดวงมานทุกวารวัน
สิ้นดวงสูรย์เบิกบทแสงสดใส
อาบทรวงในเปลี่ยวคว้างกลางวสันต์
ม่านหม่นเทาโอบคลุมดั่งกุมกัน
ให้อนันตกาลหม่นทุกหนทาง
จักมิโทษพรหมแถนแม้แสนทุกข์
ถึงเจ็บรุกใจกายมิหายห่าง
เถิดเมื่อรักย่อยยับจนอับปาง
ยอมอ้างว้างกลางโลกอันโศกตรม
เมื่อสิ้นวาสน์ปราศช่วงของบ่วงรัก
จำต้องหักหวานชื่นแม้ขื่นขม
ด้วยเพรงพากย์ปรักป่นลอยปนลม
ค่าเคยชมยามชื่นก็ขื่นชัง
เมื่อเพรงพากย์สูญสัตย์ตระบัดสิ้น
ตราบด่าวดิ้นกายซบลงกลบฝัง
สัตย์สัญญาทั้งหลายที่พ่ายพัง
มิฝืนรั้งพจน์พากย์ให้บากทรวง๚ะ๛
9 กรกฎาคม 2556 08:59 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ หวนมาบรรจบแล้ว...อีกครา
วันที่เก้ากรกฎา..........ศกแก้ว
เชิญมิตรร่วมรจนา.......สาส์นส่ง
มอบแด่ผู้เพริศแพร้ว....ชื่อนั้นอัลมิตรา๚
๏ น้อมจิตบริสุทธิ์ตั้ง.....อวยชัย
พุทธองค์ผู้เกริกไกร.....ปกป้อง
พระธรรมสถิตย์ใจ........เสมออยู่ แม่เอย
คุณพระสงฆ์ครอบคล้อง....จิตให้วัฒนา๚
๏ มวลพรหมเทพแห่งฟ้า....เมืองแมน
ดุสิตสวรรค์แดน...................เหล่าไท้
โปรดจงร่วมสวดแสน.........บริบท พรเอย
พิสุทธิ์มงคลให้.....................แม่เนื้อนาบุญ๚
๏ จงมากทรัพย์เปี่ยมล้น.......บารมี
ลาภเพิ่มพูนทวี......................ยิ่งล้ำ
ฐานะพรั่งพร้อมศรี..............เกียรติก่อ
ยศศักดิ์ดำรงค้ำ......................เหล่าพ้องวงศ์วาร๚
๏ มีใจกายเปี่ยมล้น..............สดใส
ปราศสิ่งโรคาภัย................ห่มห้อม
มาดหวังมุ่งการใด..............สมดั่ง จินต์เอย
สุขเกษมสัตน์พร้อม..........ชั่วฟ้าดินสลาย๚ะ๛
30 มิถุนายน 2556 10:23 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ลั่นทมร่วงดอกหล่นเกลื่อนบนพื้น
ในยามคืนมืดดำฟ้าฉ่ำฝน
ดอกซีดเซียวบอบบางทอดวางตน
กลีบสีหม่นหมดงามเมื่อยามวาย
เคยเบ่งบานชูดอกลมหยอกล้อ
ผึ้งพนอรุมเร้าทุกเช้าสาย
ดอมดมกลิ่นทั่วร่างสรรพางค์กาย
แล้วลับหายเหินห่างเหมือนอย่างเคย
ปล่อยลั่นทมเศร้าสร้อยละห้อยหา
หลายเวลานานเนิ่นคล้ายเมินเฉย
ผึ้งมิคืนย้อนมาสักคราเลย
มีเพียงลมรำเพยดั่งเผยนัย
ว่าเขาคงมิคืนมาชื่นแก้ม
ผ่านคืนแรมวันลับกับสมัย
เฝ้าคิดถึงภุมรามีค่าใด??
เขาจากไกลหายสิ้นมิยินยล
ความหอมหวานหมดแล้วมิแคล้วหมอง
คือครรลองแห่งธรรมตอกย้ำผล
ถ้วนทุกสิ่งแปรเปลี่ยนและเวียนวน
มิว่าคนฤๅผึ้ง..คือหนึ่งการณ์
ลั่นทมเอยดอกหล่นเกลื่อนบนพื้น
ยามค่ำคืนแสนเศร้าเกินเล่าขาน
ลมรำเพยเลือนหายกับสายธาร
ปล่อยลั่นทมร้าวราน..กับวารเวลา๚ะ๛