12 มีนาคม 2546 16:56 น.
บัวน้ำเงิน
Always be honest , would you want them to lie to you?
จงซื่อสัตย์เสมอ...... คุณต้องการให้เพื่อนโกหกคุณเหรอ
Be there when they need you, or you may wind up alone
จงอยู่เคียงข้างเมื่อเขาต้องการ.....หรือคุณต้องการจะอยู่คนเดียว
Cheer them on, we all need encouragement now and then
ให้กำลังใจ......เราทุกคนต่างก็ต้องการการสนับสนุนเป็นบางครั้ง
Don't look for their faults, even if you have none
อย่ามองหาข้อผิดพลาดของเขา.....แม้ว่าคุณจะไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว
Encourage their dreams, what would we be without them?
สนับสนุนให้เขาทำตามความฝัน.......เราจะอยู่อย่างปราศจากความฝันได้อย่างไร
Forgive them, you just may do something wrong sometime
ให้อภัย ....คุณอาจจะเคยทำผิดพลาดในบางเวลา
Get together often, misery loves company, so does glee
เจอกันบ่อยๆ...... เมื่อมีความทุกข์ ต้องมีเพื่อนเพราะการคบค้าสมาคมทำให้เกิดความสนุกสนาน
Have faith in them, the human animal is remarkable
มีศรัทธาในเพื่อน.....การมีศรัทธาเป็นสิ่งที่แบ่งแยกมนุษย์ออกจากสิ่งมีชีวิตอื่น
Include them, you may need to be included sometime
รวมเขาเข้าไปด้วย......คุณก็อาจจะต้องการถูกรวมบ้างบางครั้ง
Just be there when they need you
อยู่ข้างๆ.......เมื่อเขาต้องการคุณ
Know when they need a hug, and couldn't you use one?
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องการให้กอด...เคยกอดเพื่อนบ้างหรือยัง
Love them unconditionally, that is the only condition
รักโดยไร้ข้อแม้........นี่เป็นเพียงเงื่อนไขข้อเดียวเท่านั้น
Make them feel special, because aren't we all special?
ทำให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษ.. เพราะเราทุกคนก็เป็นคนพิเศษไม่ใช่เหรอ
Never forget them, who wants to feel forgotten
อย่าลืมเพื่อน........ ใครบ้างอยากถูกลืม
Offer to help, and know when " Nothanks" is just politeness
เสนอตัวที่จะช่วยเหลือ......และควรรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คำว่า
"ไม่เป็นไร ขอบคุณ"เป็นคำพูดแค่เพื่อมารยาท
Praise them honesly and openly
ยกย่องเพื่อนอย่างจริงใจ และเปิดเผย
Quietly disagree, noisy No's make enemies
อย่าโต้แย้งอย่างโจ่งแจ้ง........การทำเช่นนั้นก่อให้เกิดศัตรู
Really listen, a friendly ear is a soothing balm
ตั้งใจรับฟัง.......การรับฟังของเพื่อนคือยารักษาอาการ
Say you're sorry, don't let them assume it
กล่าวคำขอโทษ.......อย่าปล่อยให้เพื่อนต้องสันนิษฐานเอาเอง
Talk frequently, connunication is important
พูดคุยกันบ่อยๆ ........การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ
Use good judgement
ใช้ข้อตัดสินที่ดี
Verbalise your feelings
อธิบายความรู้สึกของคุณเป็นคำพูด
Wish them luck, hopeftlly good
อวยพรให้โชคดี ..........หวังว่าเขาจะพบแต่เรื่องดี
Xamine your motives before you "help" out
ตรวจสอบเจตนาของคุณ ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ
Your words count, use them wisely
คำพูดของคุณมีค่า ......จงใช้อย่างชาญฉลาด
Zip your lips when they told a secret
ปิดปากให้สนิทเมื่อเพื่อนบอกความลับ
7 มีนาคม 2546 13:49 น.
บัวน้ำเงิน
ฉันได้พบเด็กชายที่แลดูธรรมดาคนหนึ่ง ประเภทที่เขาแหย่
คุณ และคุณก็แหย่เขากลับ กลั่นแกล้งกันไปมา พูดง่ายๆว่า ตอนพบกันครั้งแรกนั้นเรารู้สึกดีต่อกันแล้ว พอได้มาเจอกันอีก เราก็แหย่กันเล่นตรง
บริเวณรั้ว และที่นั่นก็กลายเป็นที่ที่เราพบกันและเล่นด้วยกันเสมอมา ฉันน่าจะเล่าความลับของฉันทั้งหมดให้เขาฟังได้นะ เขาเป็นคนเงียบๆ คอยแต่นิ่ง
ฟังเวลาที่ฉันเล่าโน่นนี่ เป็นคนที่ฉันสามารถคุยด้วยได้ทุกๆเรื่อง ตอนอยู่ในโรงเรียน เราอยู่คนละกลุ่ม แต่พอกลับบ้าน เราก็จะคุยกันถึงเรื่องราวใน
โรงเรียน วันหนึ่ง ฉันบอกเขาว่า เด็กผู้ชายที่ฉันชอบคนหนึ่งหักอกฉัน เขาปลอบว่าไม่เป็นไรหรอก สักพักมันจะดีไปเอง ฉันเลยสบายใจขึ้น และยิ่งทำให้
นึกว่าเขาเป็นเพื่อนแท้คนหนึ่งของฉัน... นั่นเป็นความรู้สึกตอนนั้นของฉันจริง ๆ
เราเรียนด้วยกันเรื่อยมา จากมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย คบหากันมาโดยตลอด แม้ฉันจะคิดเสมอว่าเราเป็นแค่เพื่อน แต่ลึกๆแล้ว ฉันรู้ว่า
มันไม่ใช่ ในคืนวันสำเร็จการศึกษาเราต่างมีคู่นัดไปนั่งฟังเพลงกัน แต่ฉันก็ยังอยากจะพบเขาอยู่ดี เมื่อทุกคนกลับบ้านกันหมด ฉันแวะไปหาเขา
เพื่อจะบอกว่า...ฉันอยากจะขอคบกับเธอ... นั่นดูเหมือนจะเป็นโอกาสทองของฉันทีเดียว แต่ที่สุดแล้ว เราแค่นั่งดูดาว ผลัดกันเล่าแผนการชีวิต
ของกันและกัน ฉันจ้องตาเขาขณะฟังเขาเล่าว่าเขาอยากแต่งงานและวางหลักปักฐาน ทั้งยังคุยถึงวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองร่ำรวย และประสบความ
สำเร็จในชีวิต โดยมีฉันนั่งคุดคู้อยู่ข้างๆเขา คืนนั้น ฉันกลับบ้านพร้อมความรู้สึกปวดร้าว ด้วยเหตุที่ฉันไม่ได้พูดไปดังใจปรารถนา ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก
ที่หัวใจฉันเจ็บปวด สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ฉันอยากจะบอกเล่าให้เขาฟังใจจะขาด แต่ทุกครั้งจะต้องมีใครสักคนอยู่ตรงนั้นด้วยเสมอ
หลังจากนั้น เขาก็ได้งานทำในนิวยอร์ก แน่นอนฉันยินดีกับอนาคตอันสดใสนั้น แต่ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองเช่นเดิม ขณะที่เขา
กำลังจากไป ฉันกอดเขาแล้วร้องไห้ คิดว่านั่นเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะมีเขาอยู่เคียงข้าง คืนนั้นฉันร้องไห้จนตาบวม และยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น เมื่อนึกถึงว่า
ที่สุดแล้ว ฉันก็ยังไม่ได้เล่าความในใจให้เขาฟัง ฉันเริ่มต้นด้วยงานเลขา แล้วย้ายสายงานมาเป็นนักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์ รู้สึกภูมิใจในตัวเอง
ที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
วันหนึ่ง ฉันก็ได้รับการ์ดแต่งงานใบหนึ่งทางไปรษณีย์ มาจากเขานั่นเอง ใจหนึ่งฉันก็ยินดีกับเขา แต่อีกใจก็โศกเศร้า ได้แต่พร่ำบอกกับ
ตัวเองว่า ฉันไม่มีโอกาสได้อยู่เคียงข้างเขาอีกแล้ว อย่างมากที่สุด เราก็เป็นได้แค่เพื่อนกัน
งานแต่งงานได้จัดขึ้นอย่างอลังการทีเดียว ณ โบสถ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ขณะที่งานเลี้ยงจัดในโรงแรม ฉันได้พบเจ้าสาว และแน่ละ ได้พบเขา
ด้วย แล้วฉันก็ตกหลุมรักเขาอีกครั้งหนึ่ง ฉันเก็บความลับนี้ไว้กับตัวเอง ไม่อยากให้มันไปทำลายวันอันเป็นมงคลของเขา คืนนั้น ฉันพยายามทำตัวให้
สนุก แต่กลับกลายเป็นว่า ฉันกำลังฆ่าตัวเองด้วยการเผชิญหน้ากับคนที่กำลังดูมีความสุขมากอย่างเขา ฉันจึงจำเป็นต้องพยายามฝืนยิ้ม และทำตัว
ให้มีความสุข เพื่อกลบเกลื่อนหยาดน้ำตาที่ซุกซ่อนไว้ในใจ แต่แล้วเขาก็มาปรากฎตัวตรงหน้า ก่อนที่ฉันจะก้าวขึ้นเครื่องบิน เขามาเพื่อจะบอกลา
พร้อมกับกล่าวว่า ดีใจที่ได้พบเขาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันพยายามลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในนิวยอร์ก มันถึงเวลาแล้ว ที่ฉันต้องเดินไปตามวิถีทางของฉันเองบ้าง ตลอด
หลายปีมานี้ เรายังคงติดต่อกันทางจดหมาย เขาย้ำเสมอว่าคิดถึงฉันมาก อยากจะมีโอกาสได้คุยกับฉันอีก
และแล้วเขาก็เงียบหายไปหลังจากที่ฉันเขียนไปหาเขา 6 ฉบับ ฉันเริ่มกังวลว่าอาจจะมีเรื่องร้ายๆอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วก็ได้รับโน้ตสั้นๆ
บอกว่า 'ขอให้มาพบผมตรงรั้ว ณ ที่เดิมที่เราเคยเล่าอะไรต่ออะไรให้กันฟัง' ฉันไปตามนัด และพบเขาอยู่ที่นั่นจริงๆ เขากำลังอกหักและดูโศกเศร้ามาก
เรากอดกันแน่นและหายใจแทบไม่ออก และเขาก็เล่าเรื่องการหย่าร้างให้ฉันฟังทั้งน้ำตา เขาร้องไห้...ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมา ... ในที่สุด
เราก็เดินเข้าไปในบ้าน คุยกันและหัวเราะเมื่อนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ อย่างไรก็ตาม ฉันยังคงเก็บความลับนั้นไว้ ไม่ได้เล่าความในใจให้เขาฟัง หลายวันที่
อยู่ด้วยกัน ทำให้เขากลับมามีความสุขและลืมปัญหาการหย่าร้าง ขณะที่ฉันได้ตกหลุมรักเขาอีกครั้ง
เมื่อถึงวันที่เขาต้องกลับไปนิวยอร์ก ฉันต้องไปส่งเขาด้วยน้ำตา ไม่อยากห็นภาพเขาเดินจากไป แม้เขาสัญญาว่า จะบินมาหาฉันทุกเมื่อ
ที่ฉันสามารถลางานได้ แต่ฉันไม่สามารถรอเขาได้อีกต่อไป โดยส่วนลึกในหัวใจแล้ว เราต่างมีความสุขเสมอเมื่ออยู่ด้วยกัน วันหนึ่ง เขาก็ไม่ได้กลับมา
อย่างที่เขาเคยสัญญาไว้ ฉันได้แต่คิดว่าคงเป็นเพราะ เขางานยุ่งเกินกว่าที่จะปลีกตัวมาได้ มันผ่านไปจากวันนั้นเป็นเดือน...จนลืมเรื่องนี้ไป
และแล้วทนายความจากนิวยอร์กก็แจ้งข่าวร้ายนี้ให้ฉันทางโทรศัพท์ เขาเพิ่งเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ระหว่างที่กำลังเดินทาง
ไปสนามบิน ฉันเข้าใจทันทีถึงความรู้สึกของคนหัวใจสลาย เพิ่งรู้ว่าทำไมเขาไม่มาหาฉันในวันนั้น นี่เป็นอีกครั้งที่ฉันรู้สึกว่า ตัวเองอกหัก คืนนั้น
ฉันร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ถามตัวเองว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับคนดีๆอย่างเขา ฉันเดินทางไปนิวยอร์กอีกครั้ง เพื่อร่วมรับฟังการเปิด
พินัยกรรม แน่นอนที่สุด สมบัติต่างๆ เขามอบให้กับครอบครัวและอดีตภรรยา นี่เป็นอีกครั้งที่ฉันได้พบภรรยาเขาอีก เธอเล่าถึงความเป็นอยู่ของเขา
ให้ฉันฟัง และยังบอกว่าเขาได้ทำอะไรให้เธอบ้าง แต่กลับสัมผัสได้ว่า เขาไม่มีความสุขเลย แม้ว่าเธอพยายามเอาอกเอาใจต่างๆนานาแล้วก็ตาม
แต่ไม่สามารถทำให้เขามีความสุขอย่างคืนวันแต่งงานได้เลย ในพินัยกรรมระบุว่า ฉันจะได้รับสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่เป็นสมบัติส่วนตัวของเขา ที่ไม่อาจ
ล่วงรู้ได้เลยว่า ทำไมเขาจึงตัดสินใจเช่นนั้น
เมื่อเสร็จธุระ ฉันจึงบินกลับไปยังแคลิฟอร์เนีย ระหว่างเดินทางฉันหวนระลึกถึงเรื่องราวเก่าๆของเรา และเปิดสมุดบันทึก สมุดบันทึกนั้น
เริ่มบันทึกขึ้นจากวันแรกที่เราได้พบกัน อ่านไปชั่วขณะหนึ่งฉันเริ่มร้องไห้เมื่อพบข้อความว่า เขาได้ตกหลุมรักฉันในวันที่ฉันถูกหักอก แต่เขาก็ขลาดเกิน
ไป ที่จะบอกฉันว่าเขารู้สึกอย่างไร นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวันนั้น เขาจึงนิ่งเงียบและคอยแต่จะเป็นผู้ฟัง จากบันทึกทำให้ฉันรู้ว่า เขาพยายามจะบอกฉัน
หลายครั้ง แต่เขาก็ไม่มีความกล้าหาญพอ เวลาที่เขารู้สึกดีใจที่สุด จึงเป็นโอกาสที่เขาได้พบฉันและเต้นรำด้วยกันในวันแต่งงาน ซึ่งเขาพยายาม
จินตนาการว่า นั่นเป็นงานวิวาห์ของเรา นี่ละสาเหตุที่ทำให้เขาไม่มีความสุข จนกระทั่งเขาได้หย่าขาดจากภรรยา ส่วนเวลาที่มีความสุข กลับเป็นวินาทีที่เขา
กำลังอ่านจดหมายของฉัน
ในที่สุดสมุดบันทึกก็จบลงด้วยข้อความว่า "แล้วก็มาถึงวันนี้...วันนี้แล้วที่ผมจะได้บอกรักเธอ ... " แต่มันกลับเป็นวันที่เขาต้องจากไป
อย่างไม่มีวันกลับ...วันที่ฉันเพิ่งมาค้นพบว่า เขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับฉันตลอดมา...!
7 มีนาคม 2546 13:33 น.
บัวน้ำเงิน
เริ่มตั้งแต่ การจูบ
ถ้าการจูบเป็นหนึ่งในวิธีการแสดงออกซึ่งความรักวิธีหนึ่ง
เรามาดู ความหมายของการจูบ กันดีกว่าค่ะ...จะได้ไม่จูบผิดที่ผิดทาง
จูบที่แก้ม...เป็นการแสดงออกระหว่างเพื่อน
จูบที่มือ...หลงใหลในตัวเธอ
จูบที่ไหล่...ต้องการเธอ
จูบที่ปาก...ฉันรักเธอ
จูบที่หู...ไปห้องนอนกันเถอะที่รัก
จูบที่หน้าผาก.....เอ็นดู รักและถนอนเรา
พรมจูบไปทั่ว...เร็วๆ เหอะที่รัก ทำอย่างอื่นดีกว่า
กุมมือ...เราสองคนสามารถเรียนรู้ที่จะรัก
ขยิบตา...ไปกันดีกว่า
ตีก้น...ระวังหน่อย...ที่รัก
เล่นหู...ไม่สามารถที่จะอยู่ได้โดยไม่มีคุณ
โอบเอว...ไม่อยากให้ไปเลย
ดึง - เล่นผม...บอกฉันหน่อยสิ ว่าคุณรักฉัน
นั่งมองตากัน...(บรรยากาศกำลังเริ่มโรแมนติก)
กอดแน่นๆ...อย่าไปจากฉัน