เขลางค์นคร - ลำปาง

ปติ ตันขุนทด

***เขลางค์นคร*** 
ปติตันขุนทด
***เขลางค์นคร***
หลังจากพระนางจามเทวีสละราชสมบัติให้เจ้ามหันตยศพระโอรสแล้ว    พระนางมีพระเกียรติยศเป็น   พระพันวัสสา  (พระราชชนนี)    ทรงบำเพ็ญแต่พระราชกุศล   ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา     เช่น   สร้างอรัญญิกวิหาร  (วัดต้นแก้วทางทิศตะวันออก)   สร้างอารามแห่งหนึ่ง  ณ   ป่าไม้ยางทราย  ชื่อ   มาลุวาราม   และสร้างวิหารทางทิศอิสาน  (วัดสันป่ายาง)   สร้างพัทธาราม  ในทิศอุดร    (วัดพระคงคาฤาษีทางทิศเหนือ)    สร้างลังการราม  และมหาวนารามไว้ในเบื้องทิศปัจจิม    (วัดมหาวันทางทิศตะวันตก)   สร้างมหาสถารามไว้ในเบื้องทิศทักษิณ   (วัดประตูลี้ทางทิศใต้)   ทรงสร้างพระพุทธรูปใหญ่น้อยเป็นอันมาก    วิหารทั้งห้านี้   พระนางจามเทวีสร้างด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์   พระองค์ทรงรักษาอุโบสถศีล   และทรงธรรมเสมอมิได้ขาด   ครั้งนั้นเสนาอำมาตย์ราชมนตรี   และชาวพระนครก็พากันประพฤติปฏิบัติตามอย่างพระนาง  เป็นที่พุทธอุปถัมภก  ยกย่องพระพุทธศาสนารุ่งเรืองสืบมา
เมื่อเมืองหริภุญชัยมีความเจริญมั่นคงทางการเมืองแล้ว   ได้ขยายอำนาจออกไปสร้างเมือง    เขลางค์นคร   ในที่ราบลุ่มแม่น้ำวัง
ตามตำนานกล่าวว่า   ภายใต้การสนับสนุนของสุพรหมฤษี  แห่งเขลางค์บรรพต   สุพรหมฤาษีเป็นสหายอีกตนหนึ่งของวาสุเทพฤาษี    สร้างเขลางค์นคร   เพื่อให้อินทรวรกุมาร    หรืออนันตยศ  โอรสองค์เล็กขึ้นครอง    เขลางค์นครมีความสำคัญรองจากเมืองหริภุญชัย
หลังจากที่เจ้าอนันตยศครองเมืองเขลางค์นครมีความเจริญมั่นคงในระยะหนึ่งแล้ว   ได้มาทูลขอคณะสงฆ์  และพระครูพราหมณ์ไปสืบศาสนาในเขลางค์นคร   พระเชษฐาธิราชเจ้ามหันตยศได้พระราชทานอนุญาต   เจ้าอนันต์ยศจึงได้เชิญพระนางจามเทวี  พระราชมารดาเสด็จเขลางค์นคร   และให้ประทับอยู่ที่เขลางค์นคร   เจ้าอนันตยศ   ได้ปรึกษามหาพรหมฤาษี   สร้างเมืองขึ้นมาทางทิศใต้อีกเมืองหนึ่ง   ให้ชื่อว่า  อลัมพางค์นคร   โดยเจ้าอนัตยศทรงประทับอยู่   และมาปฏิบัติพระราชมารดาอยู่เสมอทุวัน   พระนางจามเทวีเสด็จมาประทับอยู่ที่เมืองเขลางค์นครได้   ๖   พรรษา  ทรงพระประชวรจึงเสด็จกลับสู่หริภุญชัยนคร   หลังจากนั้นพระอาการกำเริบหนัก   ได้เสด็จสวรรคตเมื่ออายุได้   ๙๒  พรรษา  หรือในราว  พ.ศ.   ๑๒๕๘
เมื่อพระนางจามเทวีสเด็จสวรรคตแล้ว   เจ้ามหันตยศ  และเจ้าอนันตยศ  ได้ปลงพระศพที่บริเวณป่าไม้ยาง   แล้วได้นำพระอัฐิมาบรรจุไว้ด้านประจิม  (ตะวันตก)  แห่งเมืองหริภุญชัย   ได้ชื่อว่า  สุวรรณจังโกฏเจดีย์
(พงศาวดารโยนก)
ผู้ตั้งกระทู้ ปติตันขุนทด (suchati2495-at-yahoo-dot-com)  :: วันที่ลงประกาศ 2010-03-14 14:05:44 IP : 125.26.103.175				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน