วิถีชีวิตบางอย่างหายไป 1 นำ้ฝนเคยรองไว้ดื่ม กลับกลายเป็นแค่น้ำที่ตกจากฟ้าลงมาให้ชื่นใจหรือข่มขื่นยามท่วมท้น 2 ข้าว เคยได้มาโดยดำนา และลงแขก บัดนี้ต้องซื้อหาในพื้นที่ซึ้งไม่มีแม้แต่ดินเหนียวให้ปลูกข้าว 3 ควาย เคยเป็นสัตว์ที่มับุญคุณล้นล้ำต่อชาว เริ่มหายหน้า และมิรู้ว่าเมื่อไหร่จะเป็นเรื่องเล่าในนิทาน 4. สายน้ำ เคยพายเรือ นั่งเรือหางยาว บัดนี้บ้างตื้นเขิน บ้างกลายเป็นระบบชลประทานที่ใช้างโอกาสในการแข่งเรือยาว 5. เคยยืน หรือหยุดปั่นจักรยาน หยุดรถ ทุกเช้าเมื่อเพลงชาติไทยบอกเวลาแปดนาฬิกา บัดนี้พฤติเยี่ยงนั้น อาจโดนมองด้วยสายตาบางประการซึ่งไม่สัมผัสได้เลยถึงความภูมิ เผลอเข้าอาจโดนด่า เพราะหยุดรถเพียงหน่อยเดียวรถติดอาจไปทำงานสายได้ง่ายๆ 6 เคยนับถือคนกันด้วยบารมีแห่งดี ความเสียสละ บัดนี้เพียงมีเงินก็มีผู้พร้อมยอมสิโรราบแทบเท้า 7 แม้ไม่เคยเจ็บ แต่รู้สึกเจ็บและสำนึกในความเจ็บปวดและความเสียสละของบรรพบุรุษ บัดนี้เต็มไปด้วยความเฉยชา ไม่อยากจำ และเจ็บไม่เป็น 8 เมื่อวัยเยาว์เคยใจแทบขาดหากห่างพ่อแม่ พ่อวัยรุ่นใจแทบขาดหากห่างเพื่อน ในวัยหนุ่มวัยสาวใจแทบขาดหากห่างรักแรกพบ วัยครอบครับใจแทบขาดหากห่างลูก (และเริ่มรักแม่พ่อใจแทบขาดเมื่อมีเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง) ในวัยชราใจชินชาเพราะกำลังจะจากทุกอย่างไป 9. ชาวบ้านรักล้นฟ้า สุดท้ายไม่เท่าความเหม็นขี้หน้าของพ่อแม่ ฯลฯ
27 สิงหาคม 2554 08:56 น. - comment id 34530
ถูกทุกข้อฯลฯ แต่คิดว่า เกิดจากการที่คนเราเปลี่ยนไปด้วยมากกว่าค่ะ ความเจริญเข้าที่ไหน ความวุ่นวายเกิดที่นั้น จิตใจคนเรากับตกต่ำลง เพราะลุ่มหลงกับวัตถุนิยม ถ้าอยุ่อย่างพอเพียงแบบสมัยก่อน การแก่งแย่ง แข่งขันแบบเห็นแก่ตัวคงไม่มี มีแต่ความเอื้ออาทร บ้านเรือนอยู่ห่างกันคนละหมู่บ้าน ยังรู้จักกันไปหมดทั้งตำบล.. แต่เดี๋ยวนี้ฝาผนังติดกันแท้ๆ กลับไม่รู้ชื่ออะไร (ตึกแถวอาคารพาณิชย์) แถมแย่งที่จอดรถกัน แทบยิงกันตาย อิอิ แต่เวลาหมาที่ตัวเองเลี้ยงกลับให้ไปอุนจิที่คนอื่นซะงั้น สมัยก่อนบ้านอยู่ติดแม่น้ำ น้ำก็ท่วมทุกปี เรือกสวนไร่นา ก็ถูกท่วม จนต้องสร้างเนินดินเรียกว่าโคก ปลูกผักผลไม้ให้เสียหายน้อยที่สุด เราไม่เคยต้องรอให้รัฐบาลหรือใครต้องมาช่วยเลย เป็นเรื่องปกติธรรมชาติ พระท่านก็พายเรือมาบิณฑบาตร เราก็นั่งตรงขั้นบันไดใส่บาตร เป็นภาพสมัยเด็กๆที่จำได้ แต่คนสมัยนี้ สร้างโน่น นี่นั้น ขวางทางน้ำซะงั้น เวลาน้ำท่วมก็ได้แต่รอความช่วยเหลือจากหลวงจากรัฐ แทนที่จะช่วยเหลือตัวเองก่อน เมื่อก่อนเวลาฝนตก ที่บ้านจะรองน้ำฝนไว้กินกันได้ทั้งปี ไม่มีน้ำประปาใช้ แบบสมัยนี้ แต่ตอนนี้มลภาวะจากอุตสาหกรรมต่างๆทำลายความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ น้ำก็รองไว้กิน ไว้ใช้ไม่ได้ เพราะมีสารพิษเจือปน..น้ำยังต้องหาซื้อกิน อิอิ อันนี้คือ ตัวอย่างข้อที่ 1 เท่าที่เห็นนะคะ ไว้ว่างๆจะมาสาธยายข้ออื่นบ้าง ถูกผิด ขออภัยมาด้วยเพราะชอบคิดเอง เออเองอ่ะ
26 สิงหาคม 2554 23:02 น. - comment id 34531
27 สิงหาคม 2554 04:55 น. - comment id 34533
ไม่เข้่าใจข้อ 9 อ่ะ ชาวบ้านรักล้นฟ้า สุดท้ายไม่เท่าความเหม็นขี้หน้าของพ่อแม่ ไม่เก็ตอ่ะ อธืบายคนอ่อนภาษาไทยหน่อยดิ
27 สิงหาคม 2554 08:36 น. - comment id 34535
สวัสดีค่ะ คุณแทน มีอะไรหายไปจากชีวิตท่านบ้าง .............. เท่าที่รู้สึกติดอยู่ในใจ....ก็ -ต้นไม้เก่าแก่ ที่เห็นมาตั้งแต่เด็กสมัยปู่ย่าตาทวด พอความเจริญเข้ามา มนุษย์ก็ต้องเลือก แต่ท้ายที่สุดก็กลับมาคิดถึงสิ่งที่เลือกในวันนี้ และระลึกถึงสิ่งที่หายไปในอดีต - ความฝัน หลายอย่างที่เคยคิดอยากเป็น อยากทำให้สำเร็จ วันนี้ ความฝัน ที่เคยคิดว่าจะไม่เปลี่ยน กลับหายไปไกลออกไปทุกทีเหลือแต่ ความเป็นจริงของชีวิต - ความรู้สึก ที่เคยคิดว่าคนไทยเป็นเมืองยิ้ม วันนี้ไม่รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว กลับมีภาพความแตกแยก ต่างสีเข้ามาแทนที่ - ความสงบ เริ่มเป็นสิ่งน่าค้นหา เป็นของหายากที่มนุษย์ที่บรรลุแล้วซึ่งสัจธรรมดั้นด้นหาวิถีชีวิตอย่างผู้สันโดษ - เสียงเพลงยามตื่นตอนเช้าและก่อนนอน ทำไมเริ่มหายไปจากวิถีชีวิต ณ ตอนนี้ก็ไม่รู้ ฤาเราจะใช้เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไปกระมัง ..................... ไว้คิดออกจะมาเพิ่มเติมอีกค่ะ ขอบคุณที่ตั้งกระทู้ ชวนระลึกถึงสิ่งที่หายไป
27 สิงหาคม 2554 09:13 น. - comment id 34536
ลบเข้าไอ้แก่ทึ่ม ปัญญาเพิ่มขึ้นไหม คิดได้แต่โดยประชาชนสิญญานิ่ม แลวสู้เด็กวัดบ้านนอกได้ไหมล่ะ ขำชิกหาย แก่แล้วยังสมองกลวงปัญญานิ่ม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาแต่เช้าเชียวนะมรึงไอ้แก่ทึ่ม ใช้วิธีหลบเหรอ
27 สิงหาคม 2554 17:35 น. - comment id 34537
สวัสดีน้องกลั่นแก้ว เห็นน้องมาแล้วคงเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ดีเนอะ เป็นไงบ้างมีอะไรเปลี่ยนไหม
27 สิงหาคม 2554 17:36 น. - comment id 34538
คุณ ยกป ตามที่ได้ตอบรวมไปเลย ภาษาไทยอ่อนไม่เป็นไร ข้อให้ภาษาใจสะอาดก็พอ
27 สิงหาคม 2554 17:38 น. - comment id 34539
คุณโคลอน ผมชอบเสียงเพลงที่หายไปครับ เอาเถอะมามาเปิดฟังเองก็ได้จริงไหม
27 สิงหาคม 2554 17:48 น. - comment id 34540
คุณเฌอมาลย์ นานๆพบคุณมาตอบสักครั้ง ความนึกคิดของคนรุ่นสู่รุ่นเปลี่ยนไปมากจริงๆครับ คนคิดแบบเดิมเริ่มล้าหลัง มีคนคนหนึ่งว่าไว้ครับ ว่าเราหลงผิดอะไรรึเปล่า เกิดเป็นไทยดีดี ดันคิดว่าย้อมหัวทองจะเป็นฝรั่ง ทำผิวขาวจะเป็นญี่ปุ่นไปได้ เราเป็นอะไรกันไปหมด หลายอย่างหายไป เราขาดความภูมิใจที่เคยเป็นไทย นิยมอารยะของต่างชาติต่างภาษามากขึ้น ขาดการการยอมรับของคนในชาติด้วยกัน พึ่งพิงแม้แต่ความเห็นของต่างชาติ ตาที่เคยดี กลับบอดสนิทหนึ่งข้าง และบอดสีอีกหนึ่งข้าง พูดเรื่องฝน ผมสงสัยครับเคยอาบน้ำฝน วันนี้ยังอาบกันได้บ้างหรือเปล่า ที่คุณพูดถูกทุกข้อครับ มีอีกหลายอย่างเนอะ
27 สิงหาคม 2554 09:24 น. - comment id 34541
ความคิดเห็นที่ 2 คุณไปเอานิยายเพ้อเจ้อกะคนแก่ปัญญาทึ่มเหรอ มันพูดนึกว่าเท่ ถุย แก่แล้วคิดได้แค่นั้น ในความจริงหากมันพบพ่อแม่จิตใจอำมหิตมันก็ไม่เอาด้วยหรอก จริงไหมไอ้แก่ปัญญานิ่ม พ่แม่จิตใจอำมหิต ปล่อยให้นักเลวอันธพาลกระทืบลูก ปล่อยให้อันธพาลเหยียบย่ำ แต่คนทั่วไปยกย่องเชิดชู มีลูกคนไหนเคารพพ่อแม่แบบนี้ พ่อแม่จิตใจโหดร้ายแบบนี้ เราคนหนึ่งละไม่เอา ด้วย ไม่เคารพนับถือ และคิดว่าชาวบ้านเขาก็ไม่เอากับพ่อแม่แบบนี้ เห็นไหมตัวอย่าง พ่อแม่ทิ้งลูกต้องถูกประนาม ถูกจับส่งตำรวจ พ่อแม่ตบตีลูก ถูกชาวบ้านจับส่งตำรวจและติดคุกแหงๆๆ อยู่แล้ว
27 สิงหาคม 2554 09:27 น. - comment id 34542
ไอ้แก่ปัญญาทึ่มมรึงเถียงมาสิว่ากรูพูดจริงหรือไม่ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปัญญาอย่างมรึงอวดเก่งทำได้ก็แค่มาลบทิ้ง ปัญญาเหตุผลมรึงไม่มีหรอก เรียนที่ไหนวะเสียชื่อหมด สู้กรูเรียนที่วัดกะหลวงปู้ก็ไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
27 สิงหาคม 2554 12:51 น. - comment id 34547
สิ่งที่ขาดหายไป ที่มองเห็นรอบๆตัวเรามีมากมายเลยค่ะ จำได้ว่า ตอนอยู่บ้านนา เก็บสารพัดผัก กุ้ง หอย ปูปลา หากินได้ง่ายๆ แต่ทุกวันนี้กลับมองไม่เห็น สิ่งที่หายไป คือผู้คนที่เมื่อก่อนเดินสวนกันไปมา จะส่งยิ้มทักทาย แลกเปบี่ยนอาหารการกิน แต่ทุกวันนั้น ใครเดินใกล้ กลับมีแต่ความระแวง ขาดรอยยิ้ม ขาดความเชื่อใจ อีกหลายๆอย่างที่รู้สึกว่าเริ่มหายไปจากชีวิต อย่าหนึ่งละ เสียงจากคณะเกษทพิย์ เสียงละครวิทยุที่เคยฟังสมัยเด็ก ตอนนี้ไม่ได้ฟังเลย ว่าปะคะ หายไปเยอะเลยนะ
27 สิงหาคม 2554 12:57 น. - comment id 34548
ช่วยขยายความข้อ 9 ด้วยจ้า แบบว่าความรู้เราน้อยอ่านแล้วไม่เข้าใจ.. สำหรับสิ่งที่หายไปคือ จดหมาย เพราะมี email เข้ามาแทน อยากได้รับแบบซองติดสแตมป์บ้าง เพราะดูมีเสน่ห์ดี ได้ฉีกซอง เก็บแสตมป์เก่าๆ อ่านลายมือคนอื่นๆ บ้าง :)
27 สิงหาคม 2554 14:32 น. - comment id 34549
ลบเข้าไอ้แก่ทึ่ม ปัญญาเพิ่มขึ้นไหม คิดได้แต่โดยประชาชนสิญญานิ่ม แลวสู้เด็กวัดบ้านนอกได้ไหมล่ะ ขำชิกหาย แก่แล้วยังสมองกลวงปัญญานิ่ม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาแต่เช้าเชียวนะมรึงไอ้แก่ทึ่ม ใช้วิธีหลบเหรอ
27 สิงหาคม 2554 17:02 น. - comment id 34550
อ๋ฃฃฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆขำชิกหาย คนแก่แพ้เด็กวัดบ้านนอก อายชิกหาย ถุยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
27 สิงหาคม 2554 17:31 น. - comment id 34552
ผมแวะมาตอบข้อความที่ 9 ของผมนะครับ ขยายความให้คนที่อยากรู้ แต่ไม่ได้อวดฉลาดอะไร แม้จะขบขันในความโอ้อวดที่แสนน่าสงสารของคนบางคน ไปท่องนะโมอย่างเดิมน่าจะดีแล้ว อย่าเกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินข้าราชการ จดทะเบียนสมรส ใช้สิทธิเมียเพื่อจะได้มีใช้สิทธิหลวงแต่กลับไม่เคยรู้สำนึกนี่ เที่ยวด่าทอคนนี่คนนั่นไปทั่ว ถ้าไม่เจ็บแค้นอะไร ก็ต้องเคยมีประสบการณ์ที่น่าสงสาร คำพูดคำจาไม่น่าเป็นคนมีการศึกษาที่ต้องตรองก่อนจะเขียนถ้อยคำอะไรออกไป สังคมสมัยนี้วัดอะไรไม่ได้หรอกครับกับสิ่งที่พบเห็น เพราะในสังคมที่แท้จริงอาจหลอกลวงแม้กระทั่งตัวเองและคนที่รักตัวให้หลงคิดว่าวิเศษล้ำก็เป็นได้ สิ่งเหล่าอาจไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงแต่เป็นความวิปริตของจิตมนุษย์ แต่ผมคิดไปคิดมาก็ยังดีกว่าปล่อยให้นุ่งกางเกงในตัวเดียว พกมีดพกพร้า วิ่งไล่ฟันหมู หมา กา ไก่ ดีไม่ดี อาจไปฟาดฟันเอาคนที่ควรอยู่เพื่อยังประโยชน์แก่ผู่อื่นเข้าอีก.... ผมเขียนมาไกล มาพูดถึงข้อ 9 ดีกว่า ความรักของพ่อแม่ประเสิฐสุดครับ และเป็นเช่นนั้นในนิยามของคนสติดีทั้งหลาย ตอนวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาว เราอาจเผลอไปรักและคิดว่าคนโน้นคนนี้รักเรา หวังดีกับเรา และให้ความสำคัญว่าดีกว่าพ่อแม่ที่คอยพร่ำบ่น เตือน บังคับ และยัดเยียดบางอย่างที่เราแสนเบื่อหน่ายแต่ท่านคิดว่าดี จนเราคิดไปว่าพ่อแม่ไม่ได้รักเรา หรือเกลียดชังเราก็มี วันหนึ่ง หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งหอบผ้าหอบผ่อนหนีมากับแฟนหนุ่ม ทราบว่าแฟนหนุมปันใจและติดการพนันซะแล้ว ความรักที่ชายหนุ่มเคยมีให้หาไม่พบเพราะตกเป็นทาศการพนังและหลงระเริงกับกิเลสใหม่ บ่อยครั้งเธอต้งเสียใจ เสียเงิน เสียน้ำตา แล้วโดนทุบตีทำร้ายร้ายร่างกาย จนคิดฆ่าตัวตาย วันนั้น เธอคิดว่าความรักของเธอหมดสิ้นแล้ว จึงตัดสินใจพยายามฆ่าตัวตายโดยการกระโดดตึก ใครเล่าจะห้ามเธอได้ ในเมื่อเธอไม่มีความรักที่พอจะเป็นแรงบันดาลใจให้มีชีวิตอยู่สักคนเดียว เสี้ยววินาทีนั้น เธอได้ยินเสียงพ่อแม่ที่เธอหนีจากมากำลังร่ำไห้อยู่เบื้องล่าง น้ำตานั้นเธอรู้สึกได้ว่าไม่ได้เกิดจากการเสแสร้งอะไร หรือหวังเรือนกายเรือนเงินจากเธอเลย นี่หรือ พ่อแม่ที่เคยนึกชัง และคิดว่าท่านเกลียด เพียงเพราะ 1....ห้ามกลับบ้านดึก 2....ทำงานบ้านให้ครบถ้วน 3....ช่วยทำมาหากิน 4....บังคับให้ลุกมาอ่านหนังสือตีสี่ตีห้า 5....เช็คพฤติกรรมการคบเพื่อน 6....วัยนี้ห้ามมีแฟน และก้าวก่ายเสรีภาพเธอสารพัด จนเธอพบชายหนุ่มที่แสนดีจึงได้ชวนกันหนีจากมา ไร้ค่าจะทนอยู่กับคนที่เกลียดเรา มาอยู่กับความรักของคนแปลกหน้าดีกว่า เธอ... ก้าวลงจากระเบียง พบบางอย่างหายไปจากชีวิตเธอ 1...เธอเรียนไม่จบ 2....ไม่อาชีพที่จะรับประกันความมั่นคงได้ 3....ไม่มีคนคอยเซ้าซี้ถามเรื่องส่วนตัว 4....ไม่มีความรักจากชายแปลกหน้า ที่ได้ร่างกายและย่ำยีศักดิ์ศรีและเสรีภาพเธออย่างแท้จริง จนบางครั้งเธอจำต้องให้เงินก้อนสุดท้ายไปเพราะโดนมีดจ่อที่คอหอย แต่...... เธอก็ลงจากระเบียงมาเบื้องล่าง กราบเท้าแม่กับผู้ผู้เกลียดชังเธอนักหนา "เอ็งอย่าทำอะไรโง่นะลูก ถึงเอ็งจะไม่ได้เรื่องใครไม่รักเอ็งแต่ข้ารักเอ็ง และเป็นห่วงเอ็งทุกวัน" เธอพบแล้วว่า ความรักที่ได้จากชาวบ้านไม่นานถ้าหายไปอาจย่ำยีและฆ่าฟันเราได้ เหมือนข่าวชู้สาวมากมาย แต่โดยวิสัยของพ่อแม่ทัวไป แม่ผิดหวังและเสียใจในตัวลูกเพียงไร "ความรัก" เมื่อครั้งลูกเกิดมายังไม่เคยหายไปไหน พ่อแม่ที่ไหน สาปแช่งลูก อยากให้ลูกตาย อยากให้ลูกตกต่ำ.... อย่าลืมว่าในความรู้สึกว่าเกลียดชังที่เราคิดว่าพ่อแม่ได้กระทำต่อเรา แท้แล้วเป็นความรักที่เราอาจไม่เท่าทัน ผมอธิบายแบบนี้ด้วยรักทุกท่านที่ถาม หวังว่าจะกระจ่าง ส่วนคนที่คิดลบก็พบแต่ใจที่มืดมนต่อไป ต่อให้จบสูงต่ำ หรืออยูในสังคมวงวานว่านเครือที่จอมปลอมว่าดีเพียงไหน ก็มองเห็นแต่ผิวและสัมผัสได้แต่กลิ่นอับชื้นของความเสื่อมทราม สวัสดี คุณยา ผมตอบคุณนะครับ ความเห็นตอบคุณเป็นประเภทใช้ "ข้อยกเว้นมาทำลายหลัก" สวัสดีคุณกุ้งหนามแดง ผมตอบคุณเช่นกัน ขอบคุณทุกท่านที่มา ยกเว้นคนที่ตอบคุณยา เพราะไม่ต้องขอบคุณเขาฉลาดหลักแหลมแค่ไหนอ่านกันเอง
27 สิงหาคม 2554 17:50 น. - comment id 34553
คุณกุ้งหนามแดงผมตอบไปแล้วครับ ขอบคุณที่มาครับ
28 สิงหาคม 2554 07:28 น. - comment id 34557
ความคิดเห็นที่ 12 โถเจ้าแก่ทึ่ม คิดยังงัยทำใจกว้างไม่ลบ มรึงลบไปเลย กรูไม่ว่าสักคำ อย่ามาทำเท่เขียนเลย ...เรียนไม่จบไม่มีอาชีพน่ะ มรึงเอาไปสอนลูกไอ้ปากแหลม ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้ได้ก่อนเถอะ มาทำเท่สอนคนอื่น ลูกมันน่ะจบอะไร มาทำกร่างก้าวร้าว ผู้ใหญ่ กรรมจะสนองมันมรุงคอยดูไป เรื่องพ่อแม่อะไรของมรุงน่ะ ใครๆเขาก็รู้ว่าคนขี้อิจฉาอย่างมรึงน่ะหมายความว่างัย จึงมีคนถามหลายคน อย่ามาทำปัญญานิ่มเลยมันสมเพช
28 สิงหาคม 2554 08:33 น. - comment id 34558
ความคิดเห็นที่ 12 กรูถามมรึงจริงๆ เกิดมาจนแก่เฒ่า เรียนมาก็เยอะ คำตอบกับตัวอย่างใน คห ๑๒ กับกับ ข้อ ๙ " ชาวบ้านรักล้นฟ้า สุดท้ายไม่เท่าความเหม็นขี้หน้าของพ่อแม่" มันตรงกันไหม มรึงอย่ามาเฉไฉเลย มันสมเพช มรึงตั้งใจให้คนเข้าใจผิด เหมือนนิสัยเลวๆของพวกประชาทิกัดนั่นแหละ จริงไหม ไอ้ปากแหลมนั่นมันพูดอะไรกำกวมให้คนเข้าใจผิด เหือนมรึงงัยจริงป่ะ พวกมรึงมันคิดว่าคนอื่นในบ้านเมืองนี้เขาโง่ตามไม่ทันพวกมรึง จริงป่ะ แน่จริงก็ตอบมา และอย่าลบด้วย
27 สิงหาคม 2554 20:40 น. - comment id 34559
29 สิงหาคม 2554 08:56 น. - comment id 34561
ข้อความที่มาเม้นท์ หายไปจ้า...
29 สิงหาคม 2554 12:23 น. - comment id 34562
และ " ไข่" บางใบที่หายไป
29 สิงหาคม 2554 13:32 น. - comment id 34563
สวัสดีครับ คุณแทนคุณฯ มานึกถึงความหลังมั่ง อิอิ (ตามวัย) จริงอย่างที่คุณแทน..ว่า หลายอย่างหายไป ตามวิถีทางของมัน ยิ่งคนเห็นโลกมานาน ยิ่งเห็น สิ่งต่างๆ และวิถีต่างๆ หายไป ตามหลัก มีเกิดมีดับ อิอิ หากเราอยากมอง แบบบวก ก็อาจบอกได้เหมือนกัน ว่า.. มีอะไรเพิ่มขึ้นในชีวิตเราบ้าง ๑. น้ำฝน มีสารประกอบเพิ่มขึ้น เป็นการล้าง ฟ้า ที่คนส่งสารขึ้นไปทำสกปรก ฝนจึงส่งกลับมาให้คน ส่วนคนที่เคยชอบเล่นน้ำฝน หายไป ที่เพิ่มคือคนที่เล่นน้ำในทะเล ในสระ ในอ่าง อิอิ ๒. ข้าวหายไป แต่มีโรงงานเพิ่ม ชาวนากลายเป็นคนงาน คนกินข้าว เลยกินก๋วยเตี๋ยว กินขนมปังเพิ่มขึ้น ๓. มีควายเหล็ก เพิ่มมานานแล้ว จน เจ้าทุยจ๋า ใกล้สูญพันธุ์ เด็กเลี้ยงควายหายไป (เด็กเลี้ยงแกะก็คงหายไปเหมือนกัน อิอิ) มีคาราบาวมาแทน แบบ อินเตอๆ (ระหว่างชาติ คือ ควาย กลายเป็นคน อิอิ) (กระบือ ของขอม ไปอยู่เกาะเลยกลายเป็น คระเบา - คาราบาว ..มั้ง) ๔. สายน้ำ ทางน้ำ หายไป ทางถนน ทางลอยฟ้า เพิ่มขึ้นมา แข่งเรือ ไหนเลยจะมันเท่าแข่งซิ่ง มอไซ อิอิ ๕. ยืนนิ่งๆเคารพเพลงชาติ ก็ ไม่มันเท่ายืนเต้นยึกยัก หน้าเวทีคอนเสิท ๖. คน หิว กลัวตาย เงินเป็นตัวแทนของสรรพสิ่งของเขา คนมีเงิน จึงเสมือน พระเจ้า อิอิ ๗. อดีต ของใครของมัน คนยุคนี้ คงไม่มีอดีตที่ดีงามให้จดจำ มีแต่ อนาคต ที่ถวิลหามาชดเชยกิเลสตันหาของตน ... มั้ง ๘. มันเป็นเช่นนั้นแหละโยม มีเกิด มีดับ มีพบ มีพลัดพราก เอวัง ๙. พ่อแม่คือยีนส่งต่อผ่านให้ลูก ความผูกพันทางสายเชื้อ เลือดเนื้อเชื้อไข ย่อมไม่มีวันลบเลือน ตราบวันตาย มาแจม แหย่เล่นครับ (เดี๋ยวคนหมานุดก็มาแหย่ต่อ )
29 สิงหาคม 2554 15:00 น. - comment id 34564
เห้...ไอ้ดาวสัตว์ทวยคนหัวคา ไอ้ดาวสัตว์ที คนหน้า ..... โผล่หัวมาได้แล้วเหรอ เย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สนุกอีกแล้ววววววววววววววว ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
29 สิงหาคม 2554 17:25 น. - comment id 34566
เอ .. นับไอ้ที่เคยอยู่ข้างซ้ายได้ป่าว แล้วทีนี้ มันดันชวนไอ้ที่อยู่ข้างขวาไปด้วยน่ะสิ
29 สิงหาคม 2554 22:14 น. - comment id 34574
คุณอิม แต่ถ้าได้อะไรบางอย่างมาทดแทนนะ แรงใจ มิตรไมตรี เพื่อน และสหาย ถึงแม้ทดแทนไม่ได้จริง ก็ทำให้รู้ว่า บางอย่างมีอยู่จริง
30 สิงหาคม 2554 03:32 น. - comment id 34575
คลัง ไฟเขียว บัตรเครดิต-พักหนี้เกษตรกร เร่งอีก 2 นโยบายรัฐรับจำนำข้าว-กองทุนหมู่บ้าน หวังช่วยยกระดับราคาสินค้าเกษตร เพิ่มรายได้และสร้างคุณภาพชีวิตระยะยาว
30 สิงหาคม 2554 10:09 น. - comment id 34576
ฟ้องกระทรวงการต่างประเทศ รายงานข่าวแจ้งว่าได้มีข้าราชการรวมตัวกันฟ้องกระทรวงการต่างประเทศและปลัดกระทรวงฯที่เบี้ยวค่าแต่งตัวกรณีถูกคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศ และศาลปกครองประทับรับฟ้องไว้แล้ว ยุครัฐบาลไหนเนี่ย ขี้ทิ้งไว้กองเบ้อเร่อ
30 สิงหาคม 2554 10:10 น. - comment id 34577
ท่านนายกทักษิน หนีหัวซุกหัวซุน ท่านจะมาประเทศลาวอีกแล้ว เร็วๆนี้ คาดว่าประชาธิปัตย์จะให้กระทรวงต่างประเทศไปตามจับ และตั้งกรรมการสอบประเทศลาว นี่สอบไปกี่ประเทศแล้วเนี่ย ญี่ปุ่น จีน ลาว นิวซีแลนด์ ทางที่ดี ปชป.น่าจะส่งนายกษิต ภิรมย์ไปตามจับนะ อาหารดี ดนตรีไพเราะที่สนามบินสุวรรณภูมิก็ทำมาแล้ว ขอเอาใจช่วยนะครับ
30 สิงหาคม 2554 21:28 น. - comment id 34581
กัมพูชาออกแถลงการณ์ยินดีเจรจารบ.ยิ่งลักษณ์พร้อมแฉรบ.มาร์ค
30 สิงหาคม 2554 21:29 น. - comment id 34582
เฮทุกวัน! "ปตท.-บางจาก"ลดราคาแก๊สโซฮอล์95ลงลิตรละ1.07บ. โซฮอล์91,E20ลด1.60บ.พรุ่งนี้
31 สิงหาคม 2554 08:42 น. - comment id 34583
พี่แทนฯ ครับ ต้นน้ำว่า 'คุณธรรม' และ 'สามัญสำนึก' ของคนส่วนใหญ่ก็หายไปนะครับ อาจยังมีอยู่บ้าง แต่ทว่าน้อยเหลือเกินนะครับพี่แทนฯ นี่ยังไม่ได้รวมไปถึง 'น้ำใจ' อีกด้วยนะครับ ที่นับวันก็จะเหือดหาย ด้วยความนับถือครับ
31 สิงหาคม 2554 16:14 น. - comment id 34584
'คุณธรรม' และ 'สามัญสำนึก' หายไปจริงด้วย ไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน กู้มาโกง ตอแหลรายวัน พวกตาบอดหูหนวกมันยังบอกว่าดี ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
31 สิงหาคม 2554 21:15 น. - comment id 34585
ข่าวร้ายหนังคนโขนของศรัณยูเจ๊งรายได้หวิว ข่าวร้ายกว่ามาร์คกู้เงินนอกให้ทำทุนคนไทยช่วยใช้หนี้ ช็อค!-หนังคนโขนเจอข่าวร้าย4วันแรกรายได้หวิว4ล้าน ไม่ผ่าน3วันอันตราย หากเรื่องไหนไม่ถึง 10 ล้านจะโดนลดรอบหรือถอดจากโรง ข่าวร้ายกว่าคือรัฐบาลอภิสิทธิ์นำเงินกู้ต่างประเทศให้ทำทุนสร้างไป 8 ล้าน คนไทยน้ำใจดีก็ต้องช่วยกันใช้หนี้กันต่อไป
31 สิงหาคม 2554 23:14 น. - comment id 34586
มาด้วยกัน ก็ต้องไปด้วยกันซิ (วะ)...ลูกพี่กำลังเดือดร้อน ทำไมต้องตีลูกมึน ชิ่งหนีเอาตัวรอดไปก่อนล่ะไอ้หมอน้องรัก.. เจอเข้าเต็มๆครับ เรื่องเจรจาลับ กับกัมพูชาเรื่องผลประโยชน์ด้านพลังงานในเขตทับซ้อนบริเวณ อ่าวไทย..เห็นที ปี้เทพเทือกจะรอดยากเพราะเงื่อนไขเวลามันมัดตัวเอง..พูดอย่างไรก็เห็นจะดิ้นไม่หลุดแล้วล่ะครับ ยิ่งมาร์ค ออกมายอมรับด้วยว่าครม.ตั้ง นายสุเทพ เป็นตัวแทนไปเจรจาจริง.. จะนอกรอบ หรือลับ ก็เห็นทีจะรอดยาก แต่เจ้าหมอวรงค์นี่ซิครับ พวกเหมือนนกรู้แกล้งมึนไปซะอย่างนั้น ว่าไม่รู้ไม่เห็นด้วย..? -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธให้รายละเอียดกรณีที่กัมพูชาออกแถลงการณ์ระบุว่า สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ได้เจรจาทางลับกับรัฐบาลกัมพูชา ถึงประโยชน์ด้านพลังงานในทะเลอ่าวไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลว่า เป็นในส่วนของฝ่ายบริหาร ซึ่งที่ผ่านมา นายสุเทพไม่เคยนำรายละเอียดดังกล่าวเข้าที่ประชุม ส.ส.ของพรรค เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า นายสุเทพจะไปเจรจาในนามส่วนตัว นพ.วรงค์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ คงต้องสอบถามรายละเอียดจากนายสุเทพ
1 กันยายน 2554 08:08 น. - comment id 34587
เอ้าชาวพันทมิตรช่วยไปดูคนโขนกันหน่อย อภิสิทธิ์ให้งบไทยเข้มแข็ง นายศรัณยู ตั้วมา ทำหนัง 8 ล้านบาท ดีใจไหมครับพี่น้องงงงงงงงงงงงง
1 กันยายน 2554 11:23 น. - comment id 34590
เปลี่ยน นายก ...ความซึมเศร้า เปลี่ยน นายกใหม่ ความซึมเศร้าก็เข้ามาครับ กลุ่มโฆษณา ให้นายกออกทีวีโปรโมทตัวเอง.. ซึม ขาดรายได้ คนซ่อม-ขายทีวี...ซึม ยอดซ่อม-ขายลดลง ไม่พังเหมือนก่อน กลุ่มคนจัดงาน...ซึม หาคนขึ้นพูดบนโพเดียมไม่ได้ ประชาคมโลก..ซึม ตัวตลกจากประเทศไทยเปลี่ยนไป
1 กันยายน 2554 11:36 น. - comment id 34591
เพิ่งรู้ตัวเหรอขี้แพ้เพราะอะไร...ขำกลิ้ง ปชป.กางผลวิจัยแพ้พท.เพราะ เชื่องช้า-ทำงานไม่เป็น-ไม่ติดดิน ---------------------------------------------------------------------------------------
3 กันยายน 2554 08:42 น. - comment id 34597
อย่าลืมมาพูดเรื่องเงิน ๘ ล้านที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้นายศรัณยู ไปสร้างหนัง จนขาดทุนย่อยยับด้วยนะ ไอ้แก่ท่มปัญญานิ่ม
3 กันยายน 2554 08:44 น. - comment id 34598
กว่าคุณปูนายกจะบริหารครบ ๔ ปี จะมีเรื่องชั่วๆโกงๆของพรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนอะไรๆออกมาอีกนะ
3 กันยายน 2554 09:55 น. - comment id 34599
เงิน ที่กู้มาหายไป ๘ ล้านด้วยฝีมือคนเสื้อเหลือง และพรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนแห่งเมืองตอแหลแลนด์ แปลกคนพรรคนี้ชอบทำอะไรลับๆล่อๆ
15 กันยายน 2554 21:08 น. - comment id 34732
คนที่ใจเย็นรับฟังคนอื่น เริ่มหายไป คนเป็นกลางเริ่มหายไป เหลือแต่พวกแบ่งแยกข้าง คนคิดดีกับคนอื่นก็เริ่มหายไป เหลือแต่คิดไม่ดี คิดลบกับคนอื่น คนที่เคยทำคุณงามความดีกับคนไทยมาแต่อดีต ก็เริ่มหายไป เหลือแต่พวกทำความดีด้วยการใช้เงินซื้อ คนที่เคยกตัญญูรู้คุณประเทศชาติ รู้คุณของคนที่เสียสละชีวิตเพื่อประเทศชาติเริ่มหายไป เหลือแต่พวกข้ารับใช้ของคนมีเงิน คนมีอาชีพทำนาที่อยู่ได้ด้วยตนเองก็เริ่มหายไป กลายเป็นทาสของเงินต่อไป