กลอนกลบทรุ้งพาดนภา

คนกุลา

กลอนกลบท
กลอนกลบท ก็คือกลอนสุภาพ ซึ่งมักจะเห็นการเล่นกลอนกลบท ในกลอนแปด  โดยมีการบังคับฉันทลักษณ์พื้นฐานของกลอนสุภาพทั่วไป  แต่มีการ บังคับเพิ่มเติม ตามที่แต่ละกลบทนั้นๆจะกำหนดไว้  ผมขอเขียนเรื่องกลอนกลบท  ไปเรื่อยๆตามแต่ เวลาจะอำนวย  และความสนใจ ที่ยังมีนะครับ
กลอนกลบท รุ้งพาดนภา
กลอนกลบทรุ้งพาดนภา เป็นการนำเอากลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี มาผสมผสานกับกลอนกลบทครอบจักรวาล  โดยผมเห็นคุณ din ได้ลองแต่งผสมผสานขึ้น  หลังจากได้อ่านและลองแต่งดูก็เห็นว่าไพเราะดี  ผมจึงได้ขออนุญาตคุณดินในการนำมาเผแพร่ และตั้งชื่อว่ากลบทรุ้งพาดนภา
โดยในเบื้องต้นก็บังคับตามแบบกลบทเบญจวรรณห้าสี มีการเล่นคำมีข้อบังคับให้วรรคหนึ่งๆ ต้องมีพยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน  ตั้งแต่คำที่ ๑ ถึงคำที่ ๕ เสียงเดียวกันในที่นี้ รวมทั้งพยัญชนะคู่ระหว่างอักษร สูงและอักษรต่ำด้วย เช่น  ข กับ ค หรือ  ถ กับ ท และ ธ เป็นต้น
ส่วนการบังคับอีกโสตหนึ่ง ก็มีบังคับเพิ่มเติมตามแบบกลอนกลบท ครอบจักรวาล  โดยกำหนดเพียงให้คำแรกและคำสุดท้ายในแต่ละวรรคเป็นเสียงเดียวกัน(ซ้ำ เสียงกัน) โดยแต่ละวรรคขึ้นต้นด้วยคำใดก็ต้องลงท้ายด้วยคำที่มีเสียงซ้ำกัน(หรือคำ เดียวกัน)
ดังนั้นตอนเขียน ผู้เขียนต้องวางแผนในใจก่อนว่าวรรคนั้นจะลงท้ายวรรคด้วย คำอะไร แล้วจึงขึ้นต้นวรรคด้วยคำเสียงเดียวกัน โดยให้มีความหมายที่ต้องการ ที่เป็นอย่างนี้เพราะในการเขียนกลอน คำท้ายวรรค จะมีการบังคับคำสัมผัส และ เสียงสูงต่ำ ท้ายวรรคแต่ละวรรค
ดังแผน
(ซ) (๐) (๐) (๐) (๐) ๐ ๐ (ซ)......................(ซ๑) (๐) (๐) (๐) (๐) ๐ ๐ ซ๑
คำในวงเล็บคือ พยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน ส่วน  ซ คือคำที่ใช้ซ้ำเสียงในพยางค์ต้นวรรค และพยางค์ท้ายวรรค
ตัวอย่างกลอนกลบทรุ้งพาดนภา
**รุ้งพาดนภา..ในสายัณห์**
๐ รุ้งเรื่อเรืองร่ำระบาย เป็นสายรุ้ง
โค้งขอบคุ้งข้ามเขา  สาดเงาโค้ง
โยงยองใยเยี่ยมยอด  เชื่อมสอดโยง
แลลิบโล่งเลิศล้ำ  ฉ่ำตาแล
๐ ฝอยฝนฟุ้งฟากฟ้า  พร่าเป็นฝอย
แขไขค่อยคืบคลาน   คลี่ม่านแข
แปรเปลี่ยนปานเป็นไป  ใจปรวนแปร
ชวนเชือนแชช่างชอบ   อยากตอบชวน
๐ กับกลกลอนก่อนเก่า  เอาบวกกับ
สรวลสร้อยสรรพเสียงใส  ไยกำสรวล
นวลน้องนางนุชแนบ  แอบเนื้อนวล
ใจเจ็บจวนจำจน   หมองหม่นใจ
๐ พร่างพรมพรูพรายพราว   ราวลมพร่าง
ไหลเลือนรางลูกลอน   ทวนย้อนไหล
ไกลใกล้กลายกลืนกลับ  ลับเลือนไกล
นานเนิ่นในนับเนื่อง  เรื่องยาวนาน
๐ รุ้งเรื่อเรืองร่ำระบาย เป็นสายรุ้ง
ผ่านพวยพุ่งเพียงพาด  คราวาดผ่าน
การกะเกณฑ์กิจกรรม    หมายทำการ
วามแววหวานหวามไหว  ในรุ้งวาม
อีก ตัวอย่างหนึ่ง ครับ
**สูญสิ้น**
หยาดหยดย้ำยลยิน  ที่รินหยาด
เหมือนหมายมาดหม่นไหม้  หาใดเหมือน
เลือนลบลาลอยลับ  กลับลางเลือน
คำคล้อยเคลื่อนเคืองคิด  ผิดถ้อยคำ
ฟ้าฟูฟ่องฟองเฟือน  มิเลือนฟ้า
ต่ำติดตาไตร่ตรอง  มองต้อยต่ำ
จำจดจารเจียนเจ็บ  เหน็บให้จำ
รอยรินร่ำเรียงรจ  จดร่องรอย
ฝนฝอยฝอยฝันฝาก  จากหยาดฝน
ถอยถดถลถ้อยถ่วง  ดวงจิตถอย
คอยคิดค้นครวญคลั่ง  ตั้งตาคอย
จนจิตจ๋อยเจียนจาก  หากอับจน
อยู่อย่างยังยืนยง  ดำรงอยู่
หนหดหู่โหยแห้ง  ทุกแห่งหน
ทนทุกข์ท้นทานเทียม  เปี่ยมทุกข์ทน
ดินดาลดลดังดับ  ลงกับดิน
.........................Din
โดยส่วนตัวผมเห็นว่าการผสมผสานนี้ เป็นการต่อยอดงานได้อย่างงดงาม เกิดเป็นกลอนกลบทใหม่ที่น่าสนใจ เพราะแต่งง่าย และมีความไพเราะจากการเล่นคำ สองชนิดมารวมกันใครสนใจลองฝึกแต่งกันดูนะครับ
คนกุลา
เรียบเรียง				
comments powered by Disqus
  • din

    18 สิงหาคม 2554 18:34 น. - comment id 34462

    16.gif.............
    
    เข้าใจตั้งชื่อกลบท
    อีกทั้งรุ้งพาดนภา..ในสายัณห์ ก็เพราะมากเลยจ้าคุณคนกุลา
    
    ................16.gif
  • กลั่นแก้ว

    18 สิงหาคม 2554 19:42 น. - comment id 34463

    1.gif1.gif1.gif1.gif16.gif16.gif16.gif36.gif36.gif
  • คน กุลา

    19 สิงหาคม 2554 07:13 น. - comment id 34467

    เข้าใจตั้งชื่อกลบท
    อีกทั้งรุ้งพาดนภา..ในสายัณห์ ก็เพราะมากเลยจ้าคุณคนกุลา
    
    ................
    din 
    
    ..................................
    
    ต้องขอบคุณ คุณ din ที่สร้างสรรค์กลบทนี้ขึ้นมา 
    ทำให้ผมเห็นว่า เป็นการสร้างสรรค์ ที่มีคุณค่า
    และน่าจะนำไปเผยแพร่ ต่อนะครับ ผมเองนั้น
    โดยส่วนตัว เห็นว่าการจะสร้างความเจริญให้แก่
    แวดวงกวี นั้น ต้องดำเนินการ ทั้งอนุรักษ์ สืบสานและพัฒนาต่อยอด 
    ในนามผู้สนใจงานด้านกวีคนหนึ่ง ผมขอขอบคุณอีกครั้ง 
    ด้วยความจริงใจ ครับ
    
    
    
    1.gif1.gif1.gif36.gif36.gif36.gif
  • คน กุลา

    19 สิงหาคม 2554 07:14 น. - comment id 34468

    กลั่นแก้ว 
    
    ...................................
    
    1.gif1.gif1.gif36.gif36.gif36.gif
  • din

    19 สิงหาคม 2554 12:52 น. - comment id 34469

    16.gif..........
    
    รุ้งเรื่อเรืองเริงร่ายที่ปลายรุ้ง
    ใฝ่ฝันฟุ้งฟันฝ่ามาให้ใฝ่
    ในเนื่อนับเนิ่นนานปานทรวงใน
    แรรำไรรายรอบขอบรุ้งแร
    
    ..................16.gif
  • din

    19 สิงหาคม 2554 12:54 น. - comment id 34470

    16.gif...........
    
    ขอโทษจ้า คุณคนกุลา พิมพ์ผิด
    
    18.gif18.gif
    
    รุ้งเรื่อเรืองเริงร่ายที่ปลายรุ้ง
    ใฝ่ฝันฟุ้งฟันฝ่ามาให้ใฝ่
    ในเนื่องนับเนิ่นนานปานทรวงใน
    แรรำไรรายรอบขอบรุ้งแร
    
    .................. 
    16.gif
  • cicada

    20 สิงหาคม 2554 22:04 น. - comment id 34471

    8.gif8.gif8.gif
    
    รุ้งพาดนภามาจากดิน......
    
    รูปงาม นามเพราะค่ะ..
    ชื่อก็เพราะ  กลบทก็สวยงามยอดเยี่ยม...
    ขอบคุณทั้งท่านพี่คนกุลา และพี่ดินนะคะ...
    
    ตอนนี้งานแซมยุ่งมากมาย..เดี๋ยวต้องแอบเขียนตอนเจ้านายเผลอๆ ซะแล้ว..
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    ขอให้สนุกสนานค่ะ
    
    แซมค่ะ
  • คน กุลา

    20 สิงหาคม 2554 18:06 น. - comment id 34472

    ไพเราะครับ คุณ din
    
    ๐เหมยหมอกเหมือนหม่นหมอง  ครองหมอกเหมย
    แขข้าเคยแข่งขับ  กับไขแข
    แชเชือนช่างเชื่องช้า  ว่าเชือนแช
    กันกับแกก่อการ   นานพอกัน
    
    ขอบคุณนะครับ ที่มาเยี่ยมและแจมกลอนไว้
  • คนกุลา

    21 สิงหาคม 2554 01:27 น. - comment id 34473

    รุ้งพาดนภามาจากดิน......
    
    รูปงาม นามเพราะค่ะ..
    ชื่อก็เพราะ  กลบทก็สวยงามยอดเยี่ยม...
    ขอบคุณทั้งท่านพี่คนกุลา และพี่ดินนะคะ...
    
    ตอนนี้งานแซมยุ่งมากมาย..เดี๋ยวต้องแอบเขียนตอนเจ้านายเผลอๆ ซะแล้ว..
    
    
    
    ขอให้สนุกสนานค่ะ
    
    แซมค่ะ
    cicada 
    
    ........................
    
    เป็นเช่นนั้น จริงๆ ครับ แซม 
    โดยส่วนผมเห็นว่าเป็นกลบทหนึ่งที่น่าสนใจ
    นะครับ จึงนำมาเรียบเรียง เผยแพร่ และตั้งชื่อให้ นะครับ
    
    จะรออ่าน กลอนกลบท รุ้งพาดนภา ของแซม นะครับ
    
    
    
    1.gif1.gif1.gif36.gif36.gif36.gif
  • เดือนดวงเดิม

    26 สิงหาคม 2554 06:48 น. - comment id 34511

    36.gif36.gif36.gif
  • คน กุลา

    2 กันยายน 2554 06:07 น. - comment id 34594

    เดือนดวงเดิม  
    
    
    .......................................
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • คนกุลา

    2 กันยายน 2554 06:34 น. - comment id 34595

    **ผสมผสาน**
    
    ๐ คร่ำครวญครางคราคราว  เจ้าครวญคร่ำ
    ใสสดส่ำสรรพเสียง  สำเนียงใส
    ใยยองยามแย้มเย็น  เป็นยองใย
    นวลนางไหนนานเนิ่น  หาเกินนวล
    
    ๐ ฟ้าฟากเฟือนฟอนไฟ  ไหม้ลามฟ้า
    หวนโหยหาห่อนให้ พาใจหวน
    ยวนยอดยิ่งโยเย  ราวเปลยวน
    แปรปรับปรวนเปลี่ยนไป  หรือใจแปร
    
    ๐ เหมยหมอกเหมือนหม่นหมอง  ครองหมอกเหมย
    แขข้าเคยแข่งขับ  กับไขแข
    แชเชือนช่างเชื่องช้า  ว่าเชือนแช
    ทนท้อแท้ถูกทิศ  ฝึกจิตทน๚ะ๛
    
    ...............คน กุลา  ๒ กันย์  ๕๔

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน