....................ความครึกครื้น ย่อมสนองกระตุ้นความคึกคัก กระปรี้กระเปร่าในหัวใจ ได้ดีนักนะครับ ความครึกครื้นบางครั้งมาจากอารมณ์รื่นเริง หรือมาจากการฟังเพลงสนุกสนาน เพลงสนุกสนานนั้นอยู่ที่จังหวะเร็วๆหรือไม่เนิบนาบ สมัยนี้คงเรียกจังหวะแด๊นซ์ ส่วนสมัยก่อน จังหวะที่สนุกสนาน พวกชะชะช่า สามช่า บิกิน ตลุง ฯลฯ ... หรือย้อนไปให้ไกลเข้าไปอีก ยุคผู้นำเผด็จการ ก็ยังชอบเพลงจังหวะรำวง กันอย่างขนานหนัก เลยมีการกำหนด เพลงรำวง ท่ารำวงมาตรฐานต่างๆ กลายเป็นเพลงรำวงประจำชาติไปเลย คนที่อายุสักสามสิบอัพ คงพอจะได้เรียน หรือไม่ได้เรียนรำวงมาคงพอ จะจับจีบมือ ออกท่าเป็นวง (ไม่ใช่วงสวิงนักตีกอล์ฟ) ได้สวย เต้นให้จังหวะไปกับเสียงกลอง และเสียง หรืออาจจะเห็นตามแห่งานบวช มีรำวงแตรวง แห่แหนนาคเข้าวัด แต่ตอนนี้ยุคสมัย จะมีแต่เพลงรำวงมันจะโบราณจัด เลยมีแต่แตรวง จังหวะแดนซ์ คนสูงอายุ มาเต้นคงหอบซี่โครงบาน เลย .... วันนี้อยากนำเสนอเพลงรำวง แต่เป็นรำวงทางพี่น้องชาวที่ราบสูง นั่นคือ รำวงสาวบ้านแต้ ชุดเดิมที่ขับร้องไว้เป็นของสุนทราภรณ์ ที่บันทึกร้องโด่งดังในปี 2511 ทั้งๆที่เพลงนี้ เขียนไว้ 2502 สมัยจอมพลสฤต กิ่งโศกชอบในทำนองเพลงรำวง นี่แหละ การประสานเสียงร้องหมู่ก็แสนจะได้อารมณ์แห่งความสามัคคี ( อยากจะให้คนในชาติสามัคคีกันแบบนี้สักเรื่อง) แต่ที่สดุดหู น่าจะเป็นคำร้อง ที่คงความเป็นภาษาท้องถิ่นไว้เกือบทั้งหมด คนภาคอื่นอาจจะงง เช่นกิ่งโศก แต่ก็พยายามนึกๆ ตาม แต่บางคำ ก็แปลไม่ออก หรือ บางคำไม่แน่ใจว่า เป็นของคนอีสานหรือไม่ เช่นคำว่า... ..... วันตี้ห้า ดือนกันยายน....คำว่าตี้ห้า..แปลเป็นภาษาภาคกลางคือวันที่ ๕ นั่นเอง..คำว่าตี้ ที่ส่วนมากจะเป็นคนเหนือ ใช้แทนคำ..ที่ เลยทำให้สับสน หรือ สวีวี่วี... แต่พอไปหาประวัติ ที่มาเพลงนี้เกิดจากการไปนำเพลงท้องถิ่นทางภาคอิสาน มาดัดแปลงเป็นเพลงของวงสุนทราภรณ์ ที่จริงบทเพลงร้องโต้ตอบ ชายหญิงแบบนี้ เพลงท้องถิ่นจะมีกันทุกภาค เช่นเพลงเหย่ย เพลงฉ่อย เพลงเรือ อีแซว ค่าว ซอ หมอลำ ผญา ฯลฯ ...... วันนี้ ขอเสนอในเวอร์ ของ รวมดาว 2 ลองฟังกันดูนะครับจะรู้ว่า ม่วน มาก รำวงสาวบ้านแต้ คำร้อง ธรรมนูญ แสงรังษี ทำนอง ธนิต ผลประเสริฐ (สร้อย) พร้อม) เดี่ยนสามนกกาเหว่ามันฮ้อง ยูงทองมันมาฮ้องไหว้วอน หมู่หญิง) จากไปสวีวี่วี หมู่ชาย) จากไปสวีวี่วี หมู่หญิง) ถ้าบุญเฮามีคงจะได้เจอกัน หมู่ชาย) ถ้าบุญเฮามีคงจะได้เจอกัน หญิง) จากไปตั้งแต่วันตี้ห้า หมู่หญิง) วันตี้ห้าเดือนกันยายน หญิง) พอศอสองสี่เก้าเก้า หมู่หญิง) พอศอสองสี่เก้าเก้า หญิง) เจ้าสิอ่งไล้เด้อเฮ็ดเพ้อเซ่อถือกระด้งฟัดข้าว เจ้าสิอ่งไล่แม่สาวบ้านแต่ขี่ซักขะยาน หมู่หญิง) สาวบ้านแต่ขี่ซักขะยาน ชาย) จดหมายไปสองซาบับ ได้ฮับหรือเปล่าคนดี จากไปสวีวี่วี หมู่ชาย) จากไปสวีวี่วี ชาย) ถ้าบุญสันมีคงจะได้เชยชม หมู่ชาย) ถ้าบุญสันมีคงจะได้ชมเชย ซ้ำ (สร้อย) ชาย) สายัณห์ตะวันแล่แล่ สาวบ้านแต้ขี่รถซักขะยาน ขี่ไปทุกถิ่นสถาน หมู่ชาย) ขี่ไปทุกถิ่นสถาน ชาย) ขี่รถซักขะยานไปกะสันไหมเธอ หมู่ชาย) ขี่รถซักขะยานไปกะสันไหมเธอ หญิง) เสียใจบ้านอยู่ไกลไปหน่อย กล้วยอ้อยเป็นแต่ป่าสอนลอน ขี่ไปจนหัวเข่าเหนื่อยอ่อน หมู่หญิง) ขี่ไปจนหัวเข่าเหนื่อยอ่อน หญิง) เป็นป่าสอนลอนคือเกษตรสมบูรณ์ หมู่หญิง) เป็นป่าสอนลอนคือเกษตรสมบูรณ์ ๏ .. ลำนำ..ไปแล้ว ..สวีวี่วี .. ๏ ด้วย อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑ ๏ ยามจรระอุจิต ........ พิเคราะห์พิษคุพองแผล ตรึงบั่นผลิบิแบ ......... ก็ประสบภวังค์วาย ๏ ภาพหลังก็เราะเร้า ..... สติเหง้าละงันหงาย เจ็บเอยอุระกลาย ........... มนแตกฤดีดาล ๏ แผลเป็นเพาะพุชู ...... บมิรู้สิสำราญ รอป่นมละมาน ........... ทิวะล่วงลุกลืนโลม ๏ หันหลังมิพะว้า ........ กิริยายะเยงโคม ลี้พายุตะโบม ............. ประทุไล่มิวายเว้น ๏ ลับลา-บหวนคืน ....... สรดื่นจะล่วงเห็น รอยร้าวคุลำเค็ญ .......... จะอบายพิบัติดล ๏ ฝากไว้ประจุจาร ....... วจะขานพจีผล จำตรึงตริกมล .............. รติต่างสะอางองค์ ๏ ล่วงผ่านอธิบาย ........ ก็ประกายจุบรรจง วางปลดคณะปลง ............ ขณะบ่ายขจรลา ๏ โอจอมเทวะโลก ...... ลุวิโมกข์และทุกขา ปัดเป่าผิประดา .............. ปะทุเถ้าสลายทัณฑ์ ๚ะ๛ + กิ่งโศก + -ขอบคุณภาพ จากGoogle
17 มิถุนายน 2554 10:23 น. - comment id 33675
สาวบ้านแต้ขี่รถจั๊กยาน ปะ ไว้ก่อนค่ะ
17 มิถุนายน 2554 11:52 น. - comment id 33676
คราหนึ่งประคองจิต เพ่งพินิจตะละพ่อ หนูแก้วจะหน้างอ ตะละแม่แลประโลม ครานี้ที่ปะพบ กิ่งโศกคบคอยประหงม บ้าแต้แห่ประโคม ฉลองรักจักชื่นบาน แง่วๆๆ ไม่ถนัดฉันท์เลยจริงค่ะปู่
17 มิถุนายน 2554 13:18 น. - comment id 33680
อยากรู้มานานาแล้ว สวีวี่วี แปลว่าอะไร โห เขียนฉันท์ด้วย เยี่ยมๆ
18 มิถุนายน 2554 06:32 น. - comment id 33685
๑ คุณแบม สาวบ้านแต้ ขี่ ซักกะยานๆๆ ม่วนหลายเด้อ
18 มิถุนายน 2554 06:34 น. - comment id 33686
๒ คุณแบม มีผิดอยู่ครับ อิอิอิ เด๋วเอาไว้ บอกรายละเอียดอีกที เพราะผมเองก็กางตำราเขียน หมายถึง ผังนะครับ
18 มิถุนายน 2554 06:36 น. - comment id 33687
พี่ไร้ฯ อิอิอิ ลองฉันท์ ดูนะครับ แต่ตะกุกตะกักมากเลยครับ สวี...เป็นอำเถอหนึ่งทางใต้ เป็นสถานที่ไกลห่างจากดินแดนที่ราบสูงมากนะครับ เหมือนไกลสุดหล้าฟ้าเขียว หากคนที่หายไปไกลๆ นานๆ ให้นึกว่าไปที่ อำเภอสวี อิอิ ส่วน วี่วี เป็นคำสร้อย ที่คอยย้ำ ว่ามันไกลๆๆจริงๆๆนะ ประมาณนี้แหละครับ อิอิอิ
18 มิถุนายน 2554 07:00 น. - comment id 33688
โห กว่าจะตะกายเข้าบ้านปู่ได้ น๊านน คนรอก็ร๊อออ ขอบ่นนิดนุง อิอิ
18 มิถุนายน 2554 10:45 น. - comment id 33691
ไปแล้วจรลับ ฤดิดับสลายดวง ไกลแสนรุจิสรวง นภพร่างสถิตพลัน สุขอย่าได้สร่าง
18 มิถุนายน 2554 21:02 น. - comment id 33697
คุณฉางน้อย น้องฉาง เนตช้าละสินี่ แต่อาจจะเป็นภาพที่ พี่กิ่งลงนะ มันภาพใหญ่อะ
18 มิถุนายน 2554 21:03 น. - comment id 33698
คุณคอนพูทน ขอบคุณกับแปะงานที่บ้านกิ่งโศกนะครับ
19 มิถุนายน 2554 15:54 น. - comment id 33701
ทั้งลำนำ ตำนาน ตบท้่ายด้วยฉันท์ อีก แต่ครูอยากให้เปลี่ยนคำๆหนึ่งคือจะได้เข้า กับ สวีวีวี นะฮ่าๆๆ แผลเป็นเพาะพุชู ...... บมิรู้สิสำราญ เป็น บมิฮู้สิสราญ จะได้เข้ากับภาษาท้องถิ่น อันเพลงนี้ผสม ผสานระหว่างเหนือกับอีสาน ดังคำพูด ของชาวเมืองเลยล่ะจ้า ฟังทางเหนือก็ได้ ทางอีสาณก็ได้นะ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มิถุนายน 2554 09:05 น. - comment id 33702
คุณครูแก้วประเสริฐ ขอบคุณครูแก้วมากครับ ฉันท์เป็นอะไรที่ต้องหาคำยาก ยากตรงที่ต้องสื่อให้ได้ความหมายครับครู กระทู้ เข้าไปแก้ไขเนื้อหาไม่ได้ครับครู
20 มิถุนายน 2554 09:57 น. - comment id 33703
โอ้ ปู่ หัวฟูกันไปหลายคนแระเน้อ เชื้อฉันท์ ฯ อิอิ
20 มิถุนายน 2554 10:21 น. - comment id 33707
คุณยาแก้ปวด 5555 เรื่องฉันท์ หัวไม่ฟูอย่างเดียวนะ มังจาล้านไปด้วยอะ...
20 มิถุนายน 2554 13:42 น. - comment id 33713
ศิษย์รักเรา อันที่จริงครูเรียนแค่รู้ไว้นะ สิ่งที่สำคัญคือ คำ ครุ ลหุ จะต้องวางตาม ตำแหน่งที่เขากำหนดไว้ แต่ไม่บังคับว่า คำต่อไปจะใช้อักษรใดก็ได้ คำครุ ลหุ นั้น ก็ไม่ได้บังคับไว้ด้วยว่า ต้องเป็น ครุ หรือ ลหุก่อนหน้าหลัง เขาคำนึงถึงสภาพแวดล้อม และเสียงทำนองเป็นเกณฑ์ ฉันท์จะมีสิ่ง คล้ายๆกันแปรเปลี่ยนได้ไม่ยากหากจำข้อ กำหนดกฏเกณฑ์ไว้ แต่ โศลก กับ คำฉันท์ ที่ใช้ ภาษาสันสฤต นี่แหละจะยาก ด้วย พวกเราไม่ได้เรียนหนังสือบาลีสันสฤต มา นอกจากพระเท่านั้น จึงเป็นสิ่งยาก สำหรับเราจ้า ดีแล้วหัดไว้หลายๆอย่าง เพื่อรู้แนวทางไว้ตามตำราที่มอบหากลอง ทำดูก็จะมีความเห็นเหมือนครูแหละ เมื่อฝึกไปรอบรู้แล้วก็จะหันกลับที่ตั้งเดิม แหละจ้า รักศิษย์เราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2554 10:32 น. - comment id 33724
คุณครูแก้วประเสริฐ ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะในทุกๆเรื่องเกี่ยวกับงานเขียนครับครู และโอกาส คล้ายวันเกิดครุแก้ว ผมขอให้ครูแก้ว มีแต่สุขภาพกายใจแข็งแรงครับ
21 มิถุนายน 2554 13:23 น. - comment id 33725
จำความได้ก็ร้องเพลงนี้ได้แระคร๊า อิอิ
21 มิถุนายน 2554 17:16 น. - comment id 33727
คุณพิม น้ำตาลหวาน เชื่อจ้า เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม
22 มิถุนายน 2554 14:23 น. - comment id 33733
โห ปู่ แค่โคลง หลานก็จะแย่แล้ว นี่มาเอาดีทางฉันท์อีกเหรอเนี่ย คาราวะ 2 จอกค่ะ
22 มิถุนายน 2554 15:15 น. - comment id 33734
ไข่ปู่
24 มิถุนายน 2554 09:14 น. - comment id 33743
19-20 คุณเฌอมาลย์ ปู่กิ่งก็สะเอะลองเขียนไปงั้นแหละ เห็นคนอื่นเขียนกันเราเลยลองมั่ง แต่ มังม่ายง่ายเหมือนอันอื่นเอาเสียเลยอะ.. ว่าแต่ ตามไปดู แพลงกิ้ง ของคุณเฌอฯแล้วแหละ หนุกหนานกันดีแท้อะ ..มีคนแซวปู่ ให้พาย่า..ไปแพลงกิ้งที่วัดอะ อิอิอิ
28 มิถุนายน 2554 11:22 น. - comment id 33811
สาวบ้านแต้นี่สงสัยจะชัยภูมินะคะ