การย้อนสู่กาลอดีต ในห้วงความนึกคิด หากเป็นเรื่องปีติสุข ก็ย่อมทำให้ชื่นใจอยู่ไม่สร่างซา เลยทีเดียว หากแต่เป็นเรื่องที่ทุกข์ท้อ หรือเจ็บปวดย่อม ก่อให้เกิดแต่ความกำสรดอาดูร ทั้งสองอารมณ์ย่อมถูกความทรงจำบันทึกไว้ แม้ว่าบางครั้งเลอะเลือนไปบ้าง แต่ก็ใช่ว่าบันทึกนั้นจะหดหาย เพียงรอจังหวะ ที่จะถูกดึงให้นึกถึงตามช่วงแห่งกาลนั้นๆ ช่วงนี้ฝนตกถี่มาก รถก็เลอะเปื้อนโคลนดินบ่อย ทำให้ต้องปล่อยปละละเลย ตามประสาติ๊ก ..ประสากิ่งโศก ผู้อนุรักษ์สิ่งที่เป็นปัจจัยแห่งกาลเวลา (เก่า) ณ..คาบเพลานี้ ตามเส้นทางสัญจรไม่ว่าเป็นถนน ทางเดิน ในตรอก ลึกแค่ไหน ป้ายท่านผู้มีเกียรติ ติดรกเต็มไปหมด ภาพในสื่อต่างๆ ท่านผู้ทรงเกียรติเหล่านั้น ขี่เกวียน ดำนา นอนวัด สารพัดเขาทำได้หมด ไม่น่าเชื่อเลย พนมมือแต้ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกัน ไหว้สลอนไปหมด ...ตอนนี้เราประชาชนน่าจะภูมิใจนะ มีท่านผู้มีเกียรติมายกมือไหว้ ดูข่าวท่าน อ.สุขุม นวลสกุล เล่าไว้สมัยก่อน กกต. ไม่เฮี๊ยบขนาดสมัยนี้นั้น เมื่อก่อนมีแจกรองเท้าหาเสียงด้วย แจกข้างเดียว พอได้แล้วค่อยเอามาให้อีกข้าง ..หุหุ ทำให้นึกถึงเพลงเสียดสีการเมือง...ไม่ว่าจะเป็นเพลงมนต์การเมืองของคำรณ สัมปุณณานนท์ (สมัยไม่รุอะ) หรือเพลงของน้าแอ๊ด คาราบาว ...หรือแม้แต่ นิค นิรนาม เพลงคนกินแดด ที่ร้องไว้ว่า คงจะดีถ้าหนึ่งปีเลือกผู้แทนทุกเดือน หุหุหุ ที่มองนักการเมืองนั้นดั่งพวกกินบ้านกินเมือง เป็นผู้ร้ายในคราบผู้ดี มองระบบประชาธิปไตยแบบ อสูรครองเมือง ปานนั้น แต่มางวดนี้ (ไม่ใช่หวย) จะย้อนยุคเพลงสมัย รวมดาว ( หักมุมหน่อย) เพลงคู่ มนต์รักอสูร เพลงนี้น่าจะมาจากนิยาย มนต์รักอสูร ที่สมัยก่อนดังมาก พิศาล กับ นาตยา (น่าจะใช่) ที่แสดงไว้เป็นภาพยนต์ ลองมาฟังกันนะครับ มนต์รักอสูร ชุดรวมดาว เกร็ดของเพลงนี้ ได้นำบทประพันธ์ของโคลงโลกนิติ ท่อนแรกมาดัดแปลง ๐ รูปแร้งดูร่างร้าย..............รุงรัง ภายนอกเพียงพึงชัง........ชั่วช้า เสพสัตว์ที่มรณัง.............นฤโทษ ดั่งจิตสาธุชนกล้า...........กลั่นสร้างทางผล ...................................................................................... มนต์รักอสูร ช) รูปแร้งดูร่างร้าย รุงรัง ภายนอกเพียงพึงชัง ชั่วช้า เสพสัตว์ที่มรณัง นฤโทษ สาธุชนนั้นอ้า เลิศด้วยดวงใจ ญ) โอมเอย อย่าเป่ามาเลยมนต์รักอสูร รักยิ่งเพิ่มพูนเทียมโขดเขินเนินไศล รังสีอสูรบ่สดใส ผิว์ดำผิวนอกแต่ในผ่องเนื้อนพคุณ ช) ดวงใจผูกอยู่ภายในความรักแน่นหนา รักเทพธิดาแผ่เมตตามาเปรียบบุญ นางฟ้าองค์ไหนไม่นำหนุน โอ้ความรักดังอรุณ รุ่งฟ้าแล้วมาสูญสิ้น ญ) สายลมกระซิบมาเบาๆ ช) พัดเอากลิ่นเนื้อเจือบางๆ ญ) มนต์รักแว่วเลือนลางไม่จางจากให้ใจถวิล ช) สวยเอยเทพธิดาลาวัณย์ ญ) สัมพันธ์อสูรทูนเทวินทร์ ช) มนต์รักดังเพลงพิณ ผืนดินอาบแสงทองผ่องพรรณ พร้อม) โอมเอย เป่าผ่านไปเลยความรักสลาย ขอรักหญิงชายรุ่งเรืองคล้ายดาวสวรรค์ ความรักอันแท้อย่าแปรผัน เปรียบรังสีแวมแจ่มจันทร์ เช่นกันมนต์รักอสูร บทท้ายแห่งลำนำ กิ่งโศก ฝากงานฝึกเขียน พร้อมรับคำติชมด้วยครับ งานนี้หัดเขียนฉันท์เป็นครั้งแรก ครับ ๏.. ลำนำ อสุรีครองนาคร.. ๏ มาณวกฉันท์ ๘ ๏ ฤาอสุรา .......... คร่าสุรเสียง ก้องดะเผดียง ......... ย่ำอฏวี มืดนภกว้าง ............ ด่างเลอะฤดี ดำลุธุลี ................. ป่นสวะบุญ ๚ะ ๏ ฝูงสฤคาล ......... พล่านแสยะผลุน ไล่นรกุล .............. เปิงแบะปริไป ขู่แขวะกระสา ......... ฆ่าปรลัย ทัณฑ์อริไล้ ........... พือคุนคร ๚ะ ๏ ทรงนรศีล ......... ปีนละสลอน งัน ณ ขนอน .......... นิ่งแสะศิลา ปล่อยมนวาง .......... บ้างเยาะยถา- กรรมบ่คณา ............ ใช่ธุระเรา ๚ะ ๏ รอยเปรอะเลอะทั่ว ....... กลั้วสติเขลา เลือดประทุเงา ................ แง้มแงะแคะครืน ชั่วทุรชน ................... กลก็บ่ขืน เข่นตละกละกลืน ............. ฆาตพรกาล ๚ะ ๏ เย้ยเทวะเจ้า ............ เนา ณ วิมาน ผู้ตริผิศานต์ .................. ครองศศิธร แลทะลุข้าม ................. ลามอดิศร ย่ำศิวะพร ................ หมิ่นสวภู ๚ะ ๏ เพลิงกุกระพือ ....... มือศตคู้ งอเจาะเลาะชู ........... ฉีกฉะระล้วง นบสุรผู้ ............. ปูชยบวง กฤษณะสรวง .......... สืบอวตาน ๚ะ ๏ ล้างอริราบ ........... ปราบมิติมาร เข็นสิริกาล ............. สู่เสนาะเนา ธรรมจะลุร้อย .......... สร้อยสิเฉลา แสงศศิเกลา ........... ท่วมหฤทัย ๚ะ๛ + กิ่งโศก + -ขอบคุณภาพ จากGoogle
13 มิถุนายน 2554 20:55 น. - comment id 33629
ตามมาฟังเพลง อีกครั้ง
13 มิถุนายน 2554 21:00 น. - comment id 33630
ขอบคุณค่า
13 มิถุนายน 2554 21:06 น. - comment id 33631
มนต์รักใดจักล้ำ.... เหมือนมูล น้ำมากหลากเกื้อกูล... .สู่หย้า. ชาวนาบ่อาดูร..............กินอิ่ม พี่เอย มนต์อสูรใดเฝ้า..........เสกเพี้ยงมลายแลฯ ฮี่ๆๆ เย็น สดชื่นน
14 มิถุนายน 2554 14:41 น. - comment id 33636
ชาวคณะไทย ..... ใจปริวิตก ดำริสทก ............ อกจะทลาย ฤๅอสุรี ............... มีมนหมาย ครอบจิตกาย ...... มารสิระเริง ครา ธ วิบัติ ......... อัฐกะเถลิง ธรรมจะกระเจิง .. เปิงลุนคร จำปะทะต้าน ....... ทานทุรรอน ค้านนยซ้อน ....... คงคณะไทย ...ฯ
14 มิถุนายน 2554 15:32 น. - comment id 33637
ปู่ๆ เหนเขาว่ากันว่า ถ้าแต่งฉันท์ฯบรรลุแล้ว แสดงว่าชะตาจะได้บวชน๊า ไม่เชื่อถามน้าแจ๊คสิ เห็นบ่นจะบวชร่ำไร ปล แต่ถ้าบวชก็เบียด ก็มิมีครายว่าอารายน๊า
15 มิถุนายน 2554 08:42 น. - comment id 33640
๑ คุณแบม เพลงย้อนยุคไปสักปี...2527 - 2529 นำมาฟังใหม่ก็ยังชวนไพเราะ ชุดรวมดาวนะครับ..ชุดนี้ที่จริงชอบเพลงอื่นมากกว่าเพลงนี้ เช่น นกเขาคูรัก...วิมานห้วยแก้ว... ขอบคุณที่มาติดตามเป็นแรกครับ
15 มิถุนายน 2554 08:42 น. - comment id 33641
๒ คุณโคลอน ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันครับ เพลงนี้ ป้าโคฯ น่าจะทันนะ อิอิอิ กาแฟ ยามเช้าจ้า
15 มิถุนายน 2554 08:43 น. - comment id 33642
๓ คุณแบม ไม่ลองฉันท์ ดูละครับ อิอิ แต่โคลงสี่ฯ เขียนได้อารมณ์นักแล้วละครับ
15 มิถุนายน 2554 08:50 น. - comment id 33643
๔ คุณดาวศรัทธา เพลงนี้ต้องรุ่นคุณดาวนี่แหละ 5555 งดงามในฉันท์ มา..นะ..วัก..กะ..ฉันท์...๘ มากครับ ผมเพิ่งจะลองหัดเขียนเป็นครั้งแรกนี่แหละครับ เพราะ ไปลองหัดพวก กลอน กาพย์ โคลง ก่อน ฉันท์ นี่ถือว่ายาก ในการหาคำ ครุ ลหุ..ครับ
15 มิถุนายน 2554 08:54 น. - comment id 33644
๕ คุณยาแก้ปวด อ้าว ยังงั้นเลยเหรอ แล้วน้าแจ๊ค แกไปบวชยังอะ..อิอิอิ ปู่กิ่ง ยังไม่บรรลุ อะไรเลยอะ...ยิ่งฉันท์ นี่กำลังมะงุมมะหงา...เลยและ กาพย์ กลอน โคลง ก็..ยังงม หาแก่นตัวเองมะเจออะ..คงเป็นมือที่ยังไม่ถูกเกลา....(ได้แต่เกาหัวตัวเองแกร๊กๆๆๆ) สร่างหรือยังท่านพี่....ถอนมะ..
15 มิถุนายน 2554 15:40 น. - comment id 33648
แก้วประเสริฐ.
15 มิถุนายน 2554 16:07 น. - comment id 33649
ฉันท์ขอลาละงานนี้
15 มิถุนายน 2554 21:02 น. - comment id 33652
ปู่คงไม่ได้มาสายศิลป์แต่ก็มีทั้งพรสวรรค์พรแสวง ผลงานที่ติดตามมา มีพัฒนาการดีเยี่ยมครับ แถมด้วยความมานะและพากเพียรไม่หยุดยั้ง รวมทั้งอารมณ์ศิลปิน และ ทัศนคติที่ดีงาม คงไม่ทอนกำลังหากขอแสดงความยินดีล่วงหน้า ผมมาทางสายศิลป์ทั้งๆที่ตั้งใจไปทางวิทย์ แต่มีอุบัติเหตุทางการสอบในปีสุดท้าย ผิดแบบไม่น่าผิด เลยถูกผลักให้มาทางนี้ แต่ก็ไม่ได้ฝืนใจนัก แค่ตั้งใจเรียนหมอตามความต้องการของแม่ แล้วไม่ได้เรียน สามัคคีเภทคำฉันท์ เลยบรรจุอยู่ในตารางสอนด้วย ทว่าไม่ค่อยได้แต่งนัก คนแต่งฉันท์เก่ง ต้องรู้ภาษาแขกเยอะๆ ลองเปิดทีวีแขกผ่านดาวเทียมหาการร่ายโศลก ส่วนมากเป็นการเล่นคำ ครุ-ลหุ ทำนองเดียวกับคำบาลี-สันสกฤต คนที่บรรลุฉันท์ เลยใกล้ฉันข้าววัดไปด้วย อิอิ เพลง มนต์รักอสูร แต่งโดยครูเพลง ไพบูลย์ บุตรขัน (โดยมากจะแต่งเพลงลูกทุ่ง) ผู้ขับร้องต้นฉบับ คือ วินัย จุลบุษปะ คู่กับ ทัศนัย ชอุ่มงาม เพลงของวงสุนทราภรณ์รวมทั้งวินัยเป็นเพลงโปรดของผม (เพื่อนชั้นเดียวกันสมัยม.ต้นที่รร.วัดหนองแขม ชื่อปรีชา เป็นหลานคุณวินัย) ส่วนคุณทัศนัย เป็นนักร้องหญิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยปี ๒๔๙๒ เพลงของทัศนัย ก็เพราะๆทั้งนั้น เช่น เพลงดอกบัว http://www.youtube.com/watch?v=xFPp86nffW8 เพลงนกขมิ้น http://www.youtube.com/watch?v=rmuGFJg5_YA&NR=1 แต่เพลงเก่าๆๆๆๆๆๆๆ ที่โปรดมากกว่าเพื่อน เป็นเพลงของ บุญช่วย หิรัญสุนทร โดยเฉพาะ เพลง นางแก้วในดวงใจ และ เพลงน้ำตาแสงไต้ แต่เพลงมีอิทธิพลต่อชีวิตมากที่สุด น่าจะเป็น เพลงเกียรติศักดิ์ทหารเสือ http://www.youtube.com/watch?v=gU6Sc0MeYxk&feature=related ได้จดใส่สมุดไว้ เหมือนเป็นปณิธานของชีวิตเลยเชียวแหละ - มโนมอบพระผู้....................เสวยสวรรค์ แขนมอบ(ถวาย)ทรงธรรม์...เทอดหล้า ดวงใจมอบเมียขวัญ............และแม่ เกียรติศักดิ์รักข้า................มอบไว้แก่ตัว
15 มิถุนายน 2554 21:29 น. - comment id 33654
ลองฟังเพลงเกียรติศักดิ์ฯ ท่อนที่เพราะประทับใจสุดๆ คือ - "..........ดวงใจให้ขวัญจิต ยอดชีวิต และมารดา ...." แต่เวอร์ชั่นของทหารและสันติลุนเผ่ แข็งแรงไปอีกแบบ http://www.youtube.com/watch?v=wQgRoHQeSQg&feature=related
15 มิถุนายน 2554 21:38 น. - comment id 33655
กำลังไล่ฟังเพลงเก่าๆๆๆๆๆ อยู่ เห็นเพลงนี้ เลยเอามาฝาก เพลงเย้ยฟ้าท้าดิน ต้นฉบับ (ขับร้องโดย สมสกุล ยงประยูร) http://www.youtube.com/watch?v=4IErAZtUUhY&feature=related
16 มิถุนายน 2554 08:31 น. - comment id 33659
ครูแก้วประเสริฐ ขอบคุณคุณครูแก้วมากครับ ที่แวะมาอ่านงานของศิษย์ เป็นครั้งแรกที่ลองเขียนฉันท์ครับ เป็นฉันท์ที่น่าจะง่าย พอๆกับวิชชุม ดูตามผังนะครับ..แต่การใช้คำลหุ ยังติดขัดอยู่มากครับ งานหน้าจะลองดูอีกสักอัน ที่มีคำเยอะๆ และมีครุลหุ อาจจะเป็นอินทรวิเชียร แต่ขอดูก่อนครับครู รักษาสุขภาพด้วยครับ
16 มิถุนายน 2554 08:34 น. - comment id 33660
คุณเฌอมาลย์ ฉาน....จะลาไปหนายๆๆ ละครับ 555 อยากเอาการฉันท์ นี่ เพราะ บังคับทุกชอตเลย คำครุ คำลหุ คือต้องอยู่ในกรอบ ไม่เหมือน กลอน กาพย์ โคลง ที่ยังมีข้อพออนุโลมได้บ้าง..แต่ฉันท์ นี่ต้องเปะ ยากตรงปะติดปะต่อคำ กับเรื่องราวนี่แหละ
16 มิถุนายน 2554 08:46 น. - comment id 33661
คุณดาวศรัทธา ขอบคุณมากครับคุณดาว ที่ติดตามงานกิ่งโศกตลอดเลยอะ..กิ่งโศก ตอนมัธยม มาทางสาย ศิลป-คณิต นะครับ แต่พอขั้นมหาลัย เรียนทางด้านการปกครอง และ การบริหารนะครับ ดูตามหน้าที่ การงาน ก็ดูขัดแย้งกับพวกงานกวีอยู่บ้าง 55 ผมเองก็ลองเรื่อยๆ ละครับ ลองเพื่อให้รู้ แต่ไม่ได้หวังให้เก่งครับ เรื่องฉันท์นี่นับว่าเป็นงานยาก ครับ เพราะต้องรู้จักคำครุลหุ แปลงคำ สันสกฤต บาลีมาใช้ นี่เป็นอีกประเด็นที่กิ่งโศก ยังไม่หาญเขียนฉันท์ อีกอย่าง ครูแก้วประเสริฐ ท่านให้เล่นสามอย่างให้อยู่ตัวก่อนคือ กลอน กาพย์ โคลง ตอนนี้เลยลองฉันท์ดูนะครับ มันติดๆๆขัดๆๆ มากเลย ..ที่น่าสนใจกับการพูดคุยกับคุณดาวคือ ตำนานเพลงเก่าๆนี่แหละ สุนทราภรณ์ ฟังบ้างครับ..ลูกกรุง..ลูกทุ่งเก่าๆ ลูกทุ่งนี่ชอบฟังยุค สุรพล ย้อนขึ้นไปนะครับ พรภิรม ชอบเพลงเห่กากี และนิทาน...ทูล ...สมยศ..หม่อมถนัดศรี..สุเทพ ธานินร์.. อีกอย่างฟังวิทยุ เอ เอ็ม บ่อยๆ จะมีรายการเพลงเก่า ที่ชอบเล่าประวัติเพลง ผู้แต่ง ผู้ร้อง..ดีเจย์ เกรียงศักดิ์ประครองวงค์ ทำให้รู้จักเพลงเก่า ที่คุณดาวว่ามานะครับ วินัย...รู้จักเพลงเพราะอ่านนิยาย จุฬาตรีคูณ ส่วนบุญช่วย รุ่นเดียวกับนริศ .. เพลงที่แปะได้ฟังทุกเพลงครับ ได้คุยแล้ว ได้อะไรในอดีตได้ดีมากครับคุณดาว... มีความสุขทุกวันนะครับคุณดาวศัทธา
16 มิถุนายน 2554 08:49 น. - comment id 33662
คุณดาวศรัทธา เพลงเย้ยฟ้าท้าดินนี่...ผมว่าเป็นเพลงโปรดของ บิ๊กเหนาะ เทียนทองนะครับ เมื่อก่อนเห็นชอบร้องออกงานบ่อยๆ.. ...ฟ้า.....หัวเราะเยาะข้าชะตาหรือ... คุณดาว ทำให้ผมต้องมนต์ บทเพลงแห่งกาลเวลาพวกนี้แล้วแหละ..อีกอย่างเดี๋ยวนี้หาฟังในเนตไ้ง่ายกว่าสมัยนักละครับ
16 มิถุนายน 2554 10:07 น. - comment id 33663
คุณกิ่ง อ้อ สมัยผม มีแค่ วิทย์ กับ ศิลป์ ไม่ได้แยกย่อยไปอีก แล้วไปต่อทางเสดสาด ไม่มีพื้นฐานพอแข่งเข้าหมอได้ ขนาดอยากจะเข้า วนศาสตร์ ยังไม่ได้เลย คุยเรื่องเพลง โดยเฉพาะเพลงเก่าๆๆๆๆๆ คุยได้ทั้งวัน ทั้งกรุง-ทุ่ง-ไทย-เทศ-แจซ-ร็อค-บลู-ฯลฯ นักร้องแต่ละคนมีเสียง-สำเนียงต่างๆกันไป เพลงเดียวกัน คนร้องคนละคน ได้อารมณ์ไม่เหมือนกัน นั่นคือ อิทธิพล ของโสตประสาท และการปรุงแต่งของเราเอง อิอิ ลองฟัง AM981 ของกรมประชาฯ ตอนดึกหน่อยๆทุกคืน มีรายการเพลงเก่า จัดโดย คุณ จารุลินทร์ มุสิกพงศ์ (ไม่รู้เป็นไรกับวีระ) เมื่อก่อนมีตอนดึกวันเสาร์-อาทิตย์ เดี๋ยวนี้มีวันธรรมดา ไว้ว่างๆคุยกันอีกครับ
16 มิถุนายน 2554 11:41 น. - comment id 33665
ดีจร้า...ท่านปู่กิ่งคนยาก...อิอิ พูดถึงเพลงยุครวมดาว... ผมว่า...ไพเราะ...พอกับต้นฉบับ... ได้บรรยากาศไปคนละแบบ... เปิดฟังกับเครื่องเสียงดีๆ... เปิดคลอไปเบาๆ...จิบน้ำเต้าหู้... เฮ้อ....ต้องหาเครื่องเสียงก่อน...อิอิ บ้านกลอน...ที่จริงน่าจะมี...เสียงด้วยเน๊อะ...ท่านปู่...อิอิ ยกหน้าที่ ดีเจ ให้เต็มวัน...เจ็ดวัน...เรยยย... สำหรับฉันท์... ขอบอกๆ...เขียนยากมั่กมากกก... ลองเขียนแจมไว้...ตั้งกะวันแรก...อิอิ แต่...ความหมายมันอิน...เรยแก้ไปเรื่อย...ๆ บอกตามตรง...ขอรับ...ปู่ท่าน... ที่ปู่เขียนไว้อ่ะ...กินใจตะหานมากมายนัก... เหล่าอสุรา.... ภาษวจี ถ่มปฐพี........ หยามทมมน แรงพยุพาต... ผาดพระยุคล ผองพิรชน..... เมินจะประจัญ ปลุกระดะหน...ก่นระบุลั่น ลามทวิวัน.......คลอนพระหทัย เหล่ารวิราษฎร์...มาสสมัย เถิงอดิไกร........เทพยะดา รอนอสุรี.........ขี่พยุคา ครุฑพระยา.....บั่นทุรชน เชือดชะ ถวาย..รายทุรฉล ฉ้อวสะพ้น........วรรชลุกรรม
16 มิถุนายน 2554 12:01 น. - comment id 33666
ตามคุงเพื่อนกีรมา เขียนเอ่ยวจีความ ขณะถามวลีหนึ่ง เอ่ยฉันท์ณวันซึ้ง ขณะซึ่งหทัยครวญ รำลึกละไมฝัน สติสั้นฤใจหวน คิดถึงสิทบทวน นยะล้วนมิใช่ลวง
16 มิถุนายน 2554 13:18 น. - comment id 33668
คุณดาวศรัทธา อิอิ ประเด๋ว จะมีคนแซวว่า คนชอบพูดความหลังนี่มันบ่งบอกวัย 55 คลื่นนี้ ยังไม่เคยฟังครับ ตอนเย็นจะลองดูครับ ฟัง AM นี่ฟังดู แล้วเป็นคนชนบทมากนะครับ หุหุ หิ้ววิทยุทรานซิสเตอร์ เกี่ยวข้าว ฟังเพลง ฟังละคร ฟังนิยาย ขอบคุณมากนะครับคุณดาว ที่มาร่วมปรุงแต่งอารมณ์เพลง ณ บ้านกิ่งโศก
16 มิถุนายน 2554 13:34 น. - comment id 33669
ท่านกีร์ ท่านเองนะแหละคือผู้เชี่ยวชาญ อันตัวปู่เอง เพียงแค่เขียนให้ได้ แต่ยังไม่ดีพอนะขอรับท่าน เรื่องเพลงในบ้านกลอน ฟังเสียงไม่ได้ก็คงเพราะ เรื่องลิขสิทธิ์ นะ เดาเอา อ่านฝีมือท่านกีร์แล้วต้องปรบมือให้เลย.. นี่ยังขำ ..ตาเทิดขายขนมครกอยู่เลยนะท่าน
16 มิถุนายน 2554 13:36 น. - comment id 33670
คุณยปก. หุหุ..ตามหลังมา ระวังด้วยนา ท่านกีร์ อาจวางกับดัก..55ขอบคุณมากนะครับที่มาช่วยแปะ ฉันท์ ..เด๋วกำลังคิดอยู่งานหน้าว่าจะลงฉันท์อีกแต่เอาแบบ อยากกว่าเดิมหน่อย (นิดเดียว)
16 มิถุนายน 2554 13:45 น. - comment id 33671
การเขียนโคลง ฉันท์นั้นหากเป็นคนทาง เหนือย่อมได้เปรียบคนอื่นเขาด้วยคำพูดนั้น เป็นต้นแบบอยู่แล้ว โคลงก่อเกิดจากชาว เหนือก่อนใคร คำครุลหุนั้นดังที่ครูกล่าวไว้ คือเสียงหนัก มักจะตัวเดียว เสียงลหุมักจะ ผสมออกเสียงเบาๆ จำไว้แค่นี้แหละเมื่อเล่น ไปผสมกับสำเนียงชาวเหนือก็จะได้สิ่งที่ งดงามไพเราะกว่าคนอื่นๆเล่นจ้า รักศิษย์เรา มากเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 มิถุนายน 2554 15:40 น. - comment id 33674
ครูแก้วประเสริฐ ต้องขอบคุณครูแก้วมากครับ ช่วงนี้ผมจะลองเล่นฉันท์ ดูนะครับครู ถูกผิดยังไง ครูช่วยชี้แนะด้วยครับ
20 มิถุนายน 2554 11:23 น. - comment id 33709
คิดถึง
20 มิถุนายน 2554 15:27 น. - comment id 33717
สวัสดี นู๋เอม หายไปนานเลยนะครับ เห็นมาลงกลอนแล้วคงสบายดีนะครับ
22 มิถุนายน 2554 17:22 น. - comment id 33735