เพียงเริ่ม ล่วงสู่ สิงหามาส อันนับว่าเป็นเดือนมหามงคล ( ทุกเดือน ย่อมเป็นเดือนมงคนทั้งนั้น) แต่ด้วยเป็นเดือนเฉลิมพระชนม์พรรษาของ องค์สมเด็จพระมหาราชินีฯ แล นับเป็นวันแม่ ในวันที่ ๑๒ สิงหา .. อย่างน้อยช่วงเดือนนี้ ลูกๆก็ ถูกกระตุ้น รำลึกถึงผู้เป็นแม่ มารดาผู้ให้กำเนิด กันพอดู ทั้งที่ความรักต่อบุพการีย่อมมีติดตัวกันอยู่ทั่วทุกตัวคนอยู่แล้ว กิจกรรมวันแม่เริ่มมีขึ้นมากมายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดเป็นวันที่ได้หยุดต่อเนื่องหลายวันสำหรับคนทำงานเพียงเขียนใบลาต่อเนื่องอีกวันสองวัน จึงมีการเดินทางของลูกๆ จากแหล่งทำมาหากินอันไกล ก็หวนย้อนคืนสู่ภูมิลำเนา สายธารมนุษย์ หลั่งไหล แลไออุ่นก็ อบอวนยิ่งแล้ว..สู่อ้อมกอดมาตุภูมิ บ้างสุข บ้างชื่น อาจมีบ้างที่ทุกข์ถม ห้วงนี้เอง กิ่งโศก ยินเรื่องบอกเล่าโดยตรงและโดยอ้อม ถึงสองเรื่องเกือบจะพร้อมๆ กัน อันเกี่ยวกับทุกข์ โศก..แม้นพุทธองค์ ทรงตรัสไว้ว่า เกิดแก่เจ็บตาย นั้นคือสิ่งที่ทุกคนจะต้องพบไม่มีใครหลีกพ้นก็เถอะ...ด้วยจิตมนุษย์ย่อมมีสายใยแห่งความรู้สึก เช่น รัก โลภ โกรธ หลง อันเป็นการตัดได้ยากยิ่งของมนุษย์ ดีใจ ย่อหัวเราะ หรรษาด้วยความสุข เสียใจ ย่อมร้องไห้ อมทุกข์ติดตัวไม่รู้สิ้นเช่นกัน.. วังวนกรรมะ.. เรื่องราวที่กิ่งโศกได้รับทราบ เป็นเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วย..อาการป่วยสองเรื่องเหมือนกัน..และคำพูด ของหมอ ที่บอกญาติ เหมือนกัน..คือ จะให้ไปโดยสงบ หรือจะยื้อชีวิตไว้จนกว่าจะหาไม่.. อาโรคภัย กำลังพร่าชีวิต ก็คงเป็นไปตามหน้าที่กระมัง หน้าที่ที่จะคอยนำพาสิ่งมีชีวิตให้ดับขันธ์ เพื่อเข้าสู่การละกายหยาบ.. หนึ่งนั้นคือบิดา ของมิตรกิ่งโศกเอง มิตรผู้นี้ของกิ่งโศก ที่เธอเหมือนจะผจญเรื่องราวแห่งการสูญเสียอยู่มิขาด..นับไม่นานคือแม่ มาบัดนี้คือบิดา ..อย่าท้อนะมิตรเอย.. อีกหนึ่ง พี่สาว ของมิตรกิ่งโศก อีกคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่ามัจจุมารคล้ายนั่งนับถอย ลมหายใจของเธอกระนั้น.. .. มรณา มรณะ มรณัง มรณ์ หรือความตาย นั้นกำลังรอ ทุกคน ให้เดินทางไปหาอยู่ทุกขณะ เป็นจุดรวมแหล่งสุดท้ายที่ทุกคนจำต้องเดินไป จะขัดขืน หลบเลี่ยง ยับยั้งหาได้ไม่.. เพียงความแตกต่าง อุปสรรคของทางเดินอาจต่างกัน...ต่างกันด้วยกรรม กรรมเก่าที่ให้มาชดใช้ เมื่อใช้ในห้วงภพนี้หมด ย่อมสิ้นสุดเส้นทางเดิน เพราะถึงประตู มรณ แล้วนั้นเอง.. ความเล่าผ่านเรื่องราวเพื่อนำสู่ลำนำ ครานี้ หาใช่ว่า กิ่งโศก จักบรรลุญาน หรือตัดกิเลส ตัดอารมณ์ได้ไม่ ยังคงคร่ำด้วย อารมณ์รัก โกรธ หลง หัวเราะ ร่ำไห้ เป็นปกติของมนุษย์ อยู่กระนั้น ด้วยอารมณ์ รันทด ที่ทอดทับดวงจินต์ จึงอยากนำ บทเพลง เกี่ยวกับธรรม ฟังเพื่อกล่อม ฤาเกลาจิตใจคงให้หาย แห่งอารมณ์กำสรดนั้นได้บ้างไม่มากก็น้อยละขอรับ.. บทเพลงนี้ อาจหาฟังกันยากสักหน่อย ต้นฉบับ เป็นนักร้องชื่อไม่คุ้นหู กิ่งโศก ได้ฟังเพลง นี้ นานมากแล้วตอนนั้น ได้ฟังผู้ขับร้อง เป็นผู้มีชื่อเสียงทางการเมือง เป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในอดีต นั่นคือ คุณกร ทัพพะรังสี ที่สนับสนุนเพลงลูกทุ่ง....... กิ่งโศกว่า เป็นบทเพลงที่น่าฟังทีเดียว เชิญรับฟังได้ครับ ปิยมิตรทุกคน.. เพลง หนี้กรรม ขับร้องโดย สุมิต สัจเทพ - ยุพินแพรทอง ซันชารกี ฮารีเชคา อิสตานาฮี พาซานาแฮ เอกะดุน เตเชยานาแฮ เอกะดุน ดะมียานาแฮ อนิจจา... เกิดมาเป็นมนุษย์ ดังคำพุทธาเตือนให้อาวรณ์ จนมีผู้ดี...ไหม้ไฟฟอน เมื่อตอนถึงวันสิ้นลมปราณ เวลามีชีวิตวายวุ่น ทำบุญเป็นกุศลให้คงมั่น ดับขันธ์..เราจะไปไหนกัน ขึ้นสวรรค์หรือนรกให้เลือกเอา เกิดมาต้องตาย...ใครจะค้ำฟ้า วัฏฏะสังขารา...อย่ามัวเมา บารมีนั้นมีไม่นานเนา ถูกเผาแล้วได้อะไรไป อวดศักดิ์บารมีจึงหลงคิดทำชั่ว เมามัวลืมตนหลงอำนาจ ขาดคุณธรรมค้ำคอยเจือจุน กรรมจึงหนุนให้ต้องได้เป็นไป ซันชารกี ฮารีเชคา อิสตานาฮี พาซานาแฮ เอกะดุน เตเซยานาแฮ เอกะดุน ดะมียานาแฮ เกิดแก่ดับจิตเป็นนิมิตฝัน ใครจะสรรหาได้ดังใจ เกิดทำไม..ต้องตายไม่จีรัง ถูกฝังแล้วไปที่ใดกัน?? หยุดพนมมือยึดถือพระธรรมมั่น เบียดเบียนกัน..สวรรค์ไม่คอยท่า หลับตาลงฟังพุทธวาจา กิเลสหนาขอจงจางไป ........ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ เดตุลทิยา ปายานีนาฮี ....... ๏ มานัสมานุษห้าว เริงบ่วงก้าวร่ำโลกีย์ คว้ายื้อไขว่ยึดยี ผยองเดชเผยอใด ๏ เหวยเหวย!หวังค้ำฟ้า แลมิช้าย่อมครรไล สู่แคว้น ณ แดนนัย ล้างรอยบาปบำราบบุญ ๚ะ๛ ๏ มานุษมานัสห้าว กำแหง จริงเฮย เหลิงจิตฤทธิ์จำแลง ลักษณ์ผู้- ทุศีลละสร้างแพง- บุญผ่อง กิเลส,ล้นก่นรู้ เลาะเนื้อเล็มหนัง ๚ะ ๏ โอหังอ้างโอ่โอ้ แอ่นตน ยาตรย่ำค้ำเวหน งัดง้าง เทพมฤตยูยล เยงพ่าย เจียวฤา ทรงศักดิ์ประจักสร้าง สื่อแม้นเฉกมอม ๚ะ ๏ จอมจักรพรรดิต้อง ทอดวาง ไอศูรย์นา ยาจก,ยกกะลาผาง พรากสิ้น มรณะเคลื่อนทาง ทะท่าว ใครฤหาญห้ามลิ้น- เทพเจ้าความตาย ๚ะ ๏ กรายเศิกเกริกฮึดสู้ หวังชัย ชำนะเนอ มนตร์พระเวทคุณไสย เสกป้อง ฤาหักผลักรั้งใด อมตะ ยุดเฮย ศรเสียดแทงจิตจ้อง ถอดแจ้งจึงถอน ๚ะ ๏ มรณาสุดท้าย ทุกชน ปราณหลีกปลีกหลบปน ไป่เร้น สร้างสมก่อกุศล ยังชีพ เถิดพ่อ ลาล่วงละบ่วงเส้น มัดร้อยห้อยถู ๚ะ ๏ นราอยู่รับรู้ แลนัย หน้าที่สิผลักไส สืบก้าว เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย-ใย ย่ำมรรค ทอดแฮ กรรมกอดสอดหน่วงน้าว เก่าใช้ใหม่ถอน ๚ะ๛ + กิ่งโศก+ จักรพรรดิ ต้องวางไอศูรย์ ขอทาน สูญสิ้นกะลา เมื่อมรณามาเยือน ไม่มียุทธภูมิให้เคลื่อน รบราเพื่อชนะต่อไป ไม่มีเวทมนตร์ใดจะปัดเป่าเพื่อรักษาชีวิตให้เป็นอมตา จงถอนศรเสียดแทงจิต ด้วยปัญญา อย่าประมาทในชีวิตเลย ..............ปัจฉิมวจนะแห่งพระตถาคตเจ้า..( ที่มา : ชามี นักบวชหญิงแคว้นกาสา , ทมยันตี ผู้รจนา)
16 สิงหาคม 2553 11:39 น. - comment id 31991
มรณานุสติ..............
16 สิงหาคม 2553 11:53 น. - comment id 31992
มรณาสติยั้ง.........................ก่อนตาย ทุกสิ่งย่อมสลาย...................ไป่มั่น ตามดวงจิตก่อนมลาย..........เถิดทุก ผู้เอย ร่างดับธรรมมะกั้น................สู่ภพสงบงามฯ อ่านแล้วเศร้าหน่อยๆ.ง รู้ว่าทุกสิ่งมีเกิด มีดับ หาเลี่ยงได้ แน่นอนค่ะว่า หากเกิดกับใคร ย่อมนำความโศกเศร้าเสียใจมาให้ สติเท่านั้นจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นค่ะ
16 สิงหาคม 2553 12:00 น. - comment id 31993
เกิดแก่เจ็บตาย
21 สิงหาคม 2553 02:13 น. - comment id 32010
ปู่ๆ... บวชก่อนเบียดดีมะ "วัดเป็นสิ่งงดงาม แต่อย่าลืมถามหัวใจคุณ"
18 สิงหาคม 2553 08:29 น. - comment id 32026
เป็นสัจจธรรมค่ะ
18 สิงหาคม 2553 14:31 น. - comment id 32027
พี่ปู่กิ่งเข้มแข็งนะคะ
18 สิงหาคม 2553 16:23 น. - comment id 32028
ช่วงที่คุณแม่นอนโรงพยาบาลครั้งสุดท้าย พิมไม่กล้าแม้แต่ เข้าไปหา หรือเข้าไปดูแลปรนนิบัติ พิมทำใจไม่ได้ ได้แต่เดินเลาะไปเลาะมาอยู่หน้าห้อง จน..วาระสุดท้าย น้องสาวเดินออกมาบอกว่า แม่จะไปแล้วแต่ไปไม่ได้สักที คงเพราะยังไม่เห็นหน้าพิม... คงไม่ต้องบอกว่าเป็นยังไง รู้สึกยังไง ชีวิตคนเราก็เท่านี้....นะค่ะ
18 สิงหาคม 2553 19:14 น. - comment id 32029
ไอ้คนเลวๆที่มันสั่งฆ่าคนในวัดนี่ มันจะนึกถึงความ มรณังบ้างไหมนะ ไอ้คนเลวๆที่มันกดขี่ข่มเหงรังแกคนจนยากไร้ มันนึงถึงมรณังแล้ว มันจะรู้สึกอย่างไรบ้างไหมหนอ ไอ้ทรราชย์ฆาตกรชั่วอย่างมันคงไม่รู้สึกเรื่องบาปกรรมนะ
19 สิงหาคม 2553 11:58 น. - comment id 32031
ขอขอบคุณทุกท่านๆที่เข้ามาอ่านครับ ทั้งที่เม้น และไม่เม้น ขอบคุณ คุณแก้วประภัสสร ที่ร่วมโคลงเพราะ.. ขอบคุณ คุณก้าวที่กล้า ที่แวะมาเยี่ยม ขอบคุณคุณโคลอน ที่หายไปนาน ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมกัน.. ขอขอบคุณ น้องดอกบัว มากที่มาร่วมให้ข้อคิด..ขอให้น้องดอกบัว ดูแลตัวเองด้วยนะ ขอขอบคุณ คุณวุ้นเส้น ขานี้ก็หายไปนานเช่นกัน.. ขอบคุณคุณวิทย์ มากครับ...เมื่อไหร่จะเอาเรื่องขำๆ มาเล่าอีกละครับ ขอบคุณ คุณเฌอมาลย์ เป็นไปอย่างที่น้องเฌอฯ ว่านะแหละ ครับ.. ขอบคุณ คุณเพียงพลิ้วครับ ปู่กิ่งเข้มแข็มเเข็งเสมอจ้า...ขอบคุณมาก ขอบคุณ คุณน้ำตาลหวาน มากครับที่มาแชร์เรื่องประสบการณ์.. ชีวิตเราก็เท่านี้ครับ ขอขอบคุณ คุณรากหญ้า อย่างน้อยก็ยังไม่ลืมกัน ..หุหุ
17 สิงหาคม 2553 09:19 น. - comment id 32048
เป็นสัจธรรมที่ยากจะทำใจ แต่ต้องทำความเข้าใจ พยายามใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างเข้าใจความเป็นไปต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตและโลกใบนี้ค่ะ แต่ยากจังเนอะ
17 สิงหาคม 2553 13:35 น. - comment id 32054
ทำใจพร้อมและยอมรับกับความเป็นไป ไม่มีอะไรที่หน้ากลัวเลยในโลกใบนี้ ทุกขณะแห่งความระลึกรู้เรานี้ไม่พ้น กับวิบากกรรมไปได้ เราแค่ไม่เพิ่มผลแห่งวิบากขึ้นมาใหม่เท่านั้น ตัวเราเองเช่นกันเมื่อเราก้าวออกเดืนไปข้างหน้า เราอาจจะก้าวไปหาความสิ้นสุด โดยที่เราไม่รู้ เพราะฉะนั้น เราจะเป็นที่จะเตรียมความพร้อมอยู่เสมอทุกเวลาทุกขณะแห่งการก้าวเดิน สวัสดีค่ะ พี่กิ่งโศก สบายดีนะค่ะ ขอให้พี่กิ่งโศกมีความสุขในทุกๆวันค่ะ
17 สิงหาคม 2553 21:00 น. - comment id 32058
พี่กิ่งโศก อ่านยังไม่จบอ่ะ ง่วงๆๆๆ นอนก่อนนะ ไว้แว๊ปมาอ่านใหม่...ฟี้ๆๆๆๆ
17 สิงหาคม 2553 21:58 น. - comment id 32059
เขียนได้เยี่ยมมากคับ
23 สิงหาคม 2553 10:34 น. - comment id 32063
คุงฮ่องเต้.. ปู่กิ่งฯ บวชแย้วอะ อิอิ..
23 สิงหาคม 2553 20:56 น. - comment id 32065
6 ธันวาคม 2554 17:06 น. - comment id 36515