ถูกลอกบทความค่ะ

จ้อย..ยย

อยากถามความเห็นถึงเรื่องการถูกลอกบทความ
เนื่องจากจ้อยได้ทำการเขียนบทความ
A  Z Mineral Makeup Ingridiants ไว้ในบล๊อค เมื่อ วท.07 มค 2552
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nuchhut&month=01-2009&date=07&group=29&gblog=2
และพึ่งมาพบว่าบทความดังกล่าว(มีการตัดทอนเนื้อหาบางส่วนออกรวมถึงรูปภาพประกอบได้ถูก"ลอก"โดยคุณลุงแทน ใน วท. 07 มค 2552 เช่นกัน :)
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9894.html
จ้อยได้ทำการติดต่อผู้ลอกบทความตาม e mail ที่แจ้งไว้ในบทความแล้ว
พบว่าไม่มีสัญญาณตอบรับจาก e mail mท่านติดต่อ :)
ในวันนี้จึงได้ทำการ e mail นำเรียนไปยัง WB ของ thaipoem ไปแล้วค่ะ
คือนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จ้อยถูกลอกบทความที่เขียนในบล๊อค
แต่ครั้งนี้ออกจะแปลกใจอยู่ไม่น้อย
เพราะคาดไม่ถึงว่าผู้ลอกจะเป็นสมาชิกของเวปที่ส่งเสริมเรื่องการเขียน
เพราะจ้อยเชื่อมาเสมอว่าหากเวลาที่เราเขียนบทความ เรื่องสั้น กลอนหรืออะไรก็ตาม
เรามีความยินดีหากสิ่งที่เราเขียนเป็นประโยชน์และได้รับการเผยแพร่
โดยที่รับได้รับเกียรติถูกให้เครดิตว่าเป็นผู้เขียนสิ่งนั้นขึ้นมา
เพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆมีความเห็นอย่างไรบ้างคะ				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    10 กรกฎาคม 2553 14:44 น. - comment id 31563

    A  Z Mineral Makeup Ingridiants 
    
    แร่ ที่นำมาเป็นส่วนผสมใน MMU มีมากมายหลายชนิด จึงขอนำตัวที่มักพบใน MMU ทั่วๆไปมาให้รู้จักกัน เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อและใช้ MMU คะ
    
    Allantoin : ส่วนผสมตัวนี้ช่วยในการปกป้องผิวหนัง และช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว และกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ จึงช่วยในเรื่องของการสมานผิวด้วย
    
    Bismuth Oxychloride : เป็นแร่ธาตุที่ให้ความวาวๆ สวยเชียวคะ แต่ว่ามันอาจทำให้ผิวระคายเคือง อุดตันได้
    
    Boron Glow : คุณสมบัติเหมือน Boron Nitride คะ แต่ต่างกันที่แร่ตัวนี้ ให้ลุคเงาวาวๆฉ่ำๆ ที่เรียกว่า Dewy คะ
    
    Boron Nitride : มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องของการต่อต้านแบคทีเรีย ช่วยดูดซับน้ำมัน ช่วยให้ผิวเรียบลื่น และเมคอัพติดทนขึ้นคะ ราคาก็แพงดีจังคะ
    
    Boron Veil : คุณสมบัติเหมือน Boron Nitride คะ แต่ต่างกันที่แร่ตัวนี้ จะโปร่งแสง ที่เรียกว่า translucent คะ ในบรรดา Boron ทั้ง 3 ชนิด Boron Glow กับ Boron Veil จะแพงกว่า Boron Nitride (ซึ่งปกติก็แพงอยู่แล้ว)คะ
    
    Calcium Carbonate : มีความสามารถในการดูดซับความชุ่มชื้นเอาไว้คะ
    
    Color Clay : เป็นดินบริสุทธิ์ที่มีสีคะ มีความปลอดภัยและไม่ค่อยพบว่าจะให้ให้แพ้เป็นผื่นแต่อย่างไร ถ้าเป็นดินสีที่ใช้ในเพื่อให้สีกับเครื่องสำอางจะมีราคาค่อนข้างสูง
    
    Iron Oxides : เป็นสารประกอบอนินทรีย์ที่ให้สีคะ ถ้าเป็น Cosmetic Grade จะผ่านขบวนการทำให้ปราศจากโลหะหนักซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ออกไปแล้ว สีออกแนวเอิร์ธโทน
    
    Kaolin clay : เป็นดินขาวจีน เป็นดินบริสุทธิ์ ปกปิดปานกลางแต่ให้การซึมซับความมันสูง ติดทนและมีลักษณะเป็นเนื้อครีม และยังช่วยลดความวอกของผิวด้วยคะ
    
    Magnesium Stearate : เป็นผงสีขาวอ่อนลื่นๆนิ่มๆ เพื่อช่วยในเรื่องของการยึดเกาะ ความลื่น
    
    Mica : ทำมาจากแร่ซิลิก้าคะ มีสีสันสวยงามและให้ประกายวิ้งๆ
    
    Micronized Pearl Powder : ผงไข่มุกแท้จะมีขนาดโดยประมาณที่ 5 ไมครอน ทำให้เวลาเราเอานิ้วขยี้ผงไข่มุกจึงรู้สึกได้ว่าเป็นเม็ดละเอียดเล็กๆเหมือน กากเพชร และยังมีความหนืดอย่างเด่นชัด ผงไข่มุกประกอบไปด้วยแคลเซียมถึง 31% และโปรตีนอีก 56% ซึ่งดีเท่ากับการแยกตัวของกรดอะมิโน ที่เชื่อกันว่าดีต่อการพัฒนาการทางกระดูก เสริมสร้างสุขภาพ และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
    
    Micro Titanium Dioxide : เป็น Titanium Dioxide ที่มีขนาดเล็กกว่า โปร่งแสงมากกว่า เกาะตัวได้ดีกว่า และยังละลายในน้ำมันได้ดี มันเลยกันน้ำได้ด้วยคะ และราคาแพงกว่า Titanium Dioxide คะ
    
    Micro Zinc Oxide : ก็คือ Zinc Oxide ที่มีขนาดเล็กกว่า คุณสมบัติเหมือนกับ Zinc Oxide แต่โปร่งแสงกว่า นุ่มลื่นกว่า ราคาแพงกว่าเยอะเลยคะ
    
    Rice starch , Kosher: แป้งข้าวเจ้าเป็นทางเลือกที่ดีแทนการใช้แป้งข้าวโพดที่ทำมาจากพืชและมีอายุ สั้น และยังสุ่มเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แป้งข้าวเจ้ามีคุณสมบัติฟื้นฟูผิว สร้างเกราะบางๆและการปกป้องผิว และดูดซับความมันได้ดี แต่ถึงแม้จะดูดซับความมันได้ดี ก็พบว่าการดูดซับความมันได้อย่างช้าๆกว่าแป้งข้าวโพดคะ
    
    Silica Microsphere : ซิลิก้ามีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและช่วยควบคุมความมัน ยังช่วยกระจายแสงช่วยพรางริ้วรอยต่างๆ อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเมคอัพได้อีกด้วยคะ
    
    Silk Powder : ผงไหมเป็นมอยเจอร์ธรรมชาติที่จับน้ำมัน และช่วยบรรเทาอาการไหม้ของผิวหนัง ช่วยฟื้นฟูผิว ช่วยให้ผิวหน้ารู้สึกเรียบลื่นดุจแพรไหมอีกด้วย
    
    Serecite Mica : มีลักษณะโปร่งแสง เนื้ออ่อนละมุน และให้ความคงทนในระดับปานกลาง ช่วยสะท้อนแสงกลับอีกทั้งยังปกปิดรูขุมขนและริ้วรอยต่างๆ
    
    Talc : มีคุณสมบัติเกาะติดดีมาก ลื่นและกระจายแสงได้เยี่ยม และราคาถูกจึงเป็นส่วนผสมหลักในเครื่องสำอางทั่วไป แต่มันอาจทำให้เกิดการระคายเคือง อุดตันได้
    
    Titanium Dioxide : มักเป็นส่วนผสมหลักใน MMU คะ ให้คุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสงแดด มีการสะท้อนแสงกลับของแสงทั้ง UVA และ UVB ให้การปกปิดสูง และยังติดทนอยู่บนผิวหน้าด้วย
    
    Ultramarine Colors : เป็นสารประกอบของ Sodium aluminium sulfosilica , Ultramarine ส่วนใหญ่ FDA ของอเมริกาไม่อนุญาติให้นำมาใช้บนริมฝีปาก ดังนั้นหากจะนำ MMU มาใช้กับปาก ให้ระมัดระวังว่าต้องไม่มีส่วนผสมของ Ultramarine โดยเด็ดขาด
    
    Zea Mays / Constarch : คือแป้งข้าวโพดคะ ข้อดีคือแป้งข้าวโพดดูดซับความมันได้ดีและรวดเร็วเนื้อลื่นๆ แต่มีข้อเสียก็คือมันอายุสั้น จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเจริญของแบคทีเรียได้ และอาจก่ออาการแพ้ ผื่นได้คะ
    
    Zinc Oxide : ส่วนผสมหลักอีกหนึ่งตัวใน MMU มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดด อีกทั้งยังช่วยบรรเทาผิวจากอาการระคายเคืองและช่วยในกรณีผิวมีปัญหาอย่าง rosacea (อาการแดงและเห็นเลือดฝอยบนใบหน้าอย่างชัดเจน) และยังให้การปกปิดที่ดีและยังติดทนอยู่บนผิวอีกด้วย
    
    
    Create Date : 07 มกราคม 2552
    Last Update : 8 มกราคม 2552 20:11:02 น. 
    7 comments
    
    Counter : 416 Pageviews.
    
    คัดลอกมา เพื่อสาวๆ ได้พิจารณากันก่อนใช้
  • จ้อย..ยย

    10 กรกฎาคม 2553 14:52 น. - comment id 31564

    อันนี้คือต้นฉบับค่ะ
    
    A  Z  Mineral Makeup Ingridiants 
    
    แร่ที่นำมาเป็นส่วนผสมใน MMU มีมากมายหลายชนิด  จึงขอนำตัวที่มักพบใน MMU ทั่วๆไปมาให้รู้จักกัน  เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อและใช้ MMU คะ
    
     
    
     Allantoin : ส่วนผสมตัวนี้ช่วยในการปกป้องผิวหนัง และช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี  ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว และกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่  จึงช่วยในเรื่องของการสมานผิวด้วย
    
     
    
     Bismuth Oxychloride : เป็นแร่ธาตุที่ให้ความวาวๆ  สวยเชียวคะ  แต่ว่ามันอาจทำให้ผิวระคายเคือง  อุดตันได้  
    
    
     
    
     Boron Nitride :  มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องของการต่อต้านแบคทีเรีย ช่วยดูดซับน้ำมัน ช่วยให้ผิวเรียบลื่น และเมคอัพติดทนขึ้นคะ ราคาก็แพงดีจังคะ  
    
     
    
     Boron Glow : คุณสมบัติเหมือน Boron Nitride คะ  แต่ต่างกันที่แร่ตัวนี้  ให้ลุคเงาวาวๆฉ่ำๆ  ที่เรียกว่า Dewy คะ
    
     
    
     Boron Veil : คุณสมบัติเหมือน Boron Nitride คะ  แต่ต่างกันที่แร่ตัวนี้  ให้ผลิตภัณฑ์โปร่งแสงคะ
    
     
    
     Calcium Carbonate : มีความสามารถในการดูดซับความชุ่มชื้นเอาไว้คะ
    
     
    
     Color Clay : เป็นดินบริสุทธิ์ที่มีสีคะ  มีความปลอดภัยและไม่ค่อยพบว่าจะให้ให้แพ้เป็นผื่นแต่อย่างไร  ถ้าเป็นดินสีที่ใช้ในเพื่อให้สีกับเครื่องสำอางจะมีราคาค่อนข้างสูง 
    
     
    
     Iron Oxides : เป็นสารประกอบอนินทรีย์ที่ให้สีคะ  ถ้าเป็น Cosmetic Grade จะผ่านขบวนการทำให้ปราศจากโลหะหนักซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ออกไปแล้ว  สีออกแนวเอิร์ธโทน
    
     
    
     Kaolin clay : เป็นดินขาวจีน  เป็นดินบริสุทธิ์  ปกปิดปานกลางแต่ให้การซึมซับความมันสูง  ติดทนและมีลักษณะเป็นเนื้อครีม  และยังช่วยลดความวอกของผิวด้วยคะ
    
     
    
     Magnesium Stearate  :  เป็นผงสีขาวอ่อนลื่นๆนิ่มๆ เพื่อช่วยในเรื่องของการยึดเกาะ ความลื่น
    
     
    
     Mica : ทำมาจากแร่ซิลิก้าคะ  มีสีสันสวยงามและให้ประกายวิ้งๆ
    
     
    
     Micronized Pearl Powder : ผงไข่มุกแท้จะมีขนาดโดยประมาณที่ 5 ไมครอน ทำให้เวลาเราเอานิ้วขยี้ผงไข่มุกจึงรู้สึกได้ว่าเป็นเม็ดละเอียดเล็กๆเหมือนกากเพชร และยังมีความหนืดอย่างเด่นชัด ผงไข่มุกประกอบไปด้วยแคลเซียมถึง 31% และโปรตีนอีก 56% ซึ่งดีเท่ากับการแยกตัวของกรดอะมิโน ที่เชื่อกันว่าดีต่อการพัฒนาการทางกระดูก เสริมสร้างสุขภาพ และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
    
     
    
     Micro Titanium Dioxide : เป็น Titanium Dioxide ที่มีขนาดเล็กกว่า โปร่งแสงมากกว่า  เกาะตัวได้ดีกว่า  และยังละลายในน้ำมันได้ดี มันเลยกันน้ำได้ด้วยคะ  และราคาแพงกว่า Titanium Dioxide คะ
    
     
    
     Micro  Zinc Oxide : ก็คือ Zinc Oxide ที่มีขนาดเล็กกว่า คุณสมบัติเหมือนกับ Zinc Oxide  แต่โปร่งแสงกว่า นุ่มลื่นกว่า  ราคาแพงกว่าเยอะเลยคะ
    
     
    
     Rice starch , Kosher: แป้งข้าวเจ้าเป็นทางเลือกที่ดีแทนการใช้แป้งข้าวโพดที่ทำมาจากพืชและมีอายุสั้น และยังสุ่มเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย  แป้งข้าวเจ้ามีคุณสมบัติฟื้นฟูผิว สร้างเกราะบางๆและการปกป้องผิว  และดูดซับความมันได้ดี  แต่ถึงแม้จะดูดซับความมันได้ดี  ก็พบว่าการดูดซับความมันได้อย่างช้าๆกว่าแป้งข้าวโพดคะ  
    
     * * Nuchminerals  หลังจากได้พยายามค้นหาแป้งข้าวเจ้าเกรดดีที่สุด(เท่าที่จะหาได้แล้ว)  ก็พบแป้งข้าวเจ้าขนาด 3-8 ไมครอน  เนื้อจะนุ่มและลื่น  แถมยังกันน้ำได้ด้วย  เป็นแป้งข้าวเจ้าที่ไม่ผ่านการ ตัดต่อทางพันธุกรรม (Non-GMO Rice) ทั้งยังเป็นสารอินทรีย์ (Organic) ทำให้สามารถย่อยสลายได้โดยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ (Biodegradable) และผ่านกระบวนการผลิต และฆ่าเชื้อจึงปลอดภัยต่อผู้ใช้  เพราะเป็นแป้งเกรดที่สามารถนำไปใช้ทำแป้งฝุ่นทาตัวที่ใช้กับเด็กได้ด้วยคะ  แป้งมีความฟุ้งกระจายต่ำ  จึงไม่เกิดการสะสมในปอดคะ
    
     
    
     Serecite Mica : มีลักษณะโปร่งแสง เนื้ออ่อนละมุน  และให้ความคงทนในระดับปานกลาง  ช่วยสะท้อนแสงกลับอีกทั้งยังปกปิดรูขุมขนและริ้วรอยต่างๆ 
    
     
    
     Silica Microsphere : ซิลิก้ามีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและช่วยควบคุมความมัน  ยังช่วยกระจายแสงช่วยพรางริ้วรอยต่างๆ  อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเมคอัพได้อีกด้วยคะ
    
     
    
     Silk Powder : ผงไหมเป็นมอยเจอร์ธรรมชาติที่จับน้ำมัน  และช่วยบรรเทาอาการไหม้ของผิวหนัง  ช่วยฟื้นฟูผิว  ช่วยให้ผิวหน้ารู้สึกเรียบลื่นดุจแพรไหมอีกด้วย
    
     
    
     Silk Mica : Silk Mica เป็นไมกาขนาดใหญ่ (มีขนาดประมาณ 50 ไมครอน) และไม่มีสวนผสมของสารให้ความขาวดังเช่น Titanium Dioxide , Silk Micaจะคล้ายๆกับ Serecite Mica ต่างกันตรงที่Silk Micaมีลักษณะคล้ายเส้นไหมมากกว่า ขาวกว่าและแพงกว่า 
    
    
     
    
     Talc : มีคุณสมบัติเกาะติดดีมาก ลื่นและกระจายแสงได้เยี่ยม  และราคาถูกจึงเป็นส่วนผสมหลักในเครื่องสำอางทั่วไป แต่มันอาจทำให้เกิดการระคายเคือง อุดตันได้  
    
     
    
     Titanium Dioxide : มักเป็นส่วนผสมหลักใน MMU คะ ให้คุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสงแดด มีการสะท้อนแสงกลับของแสงทั้ง UVA และ UVB  ให้การปกปิดสูง และยังติดทนอยู่บนผิวหน้าด้วย 
    
     
    
     Ultramarine Colors : เป็นสารประกอบของ Sodium aluminium sulfosilica  , Ultramarine ส่วนใหญ่ FDA ของอเมริกาไม่อนุญาติให้นำมาใช้บนริมฝีปาก  ดังนั้นหากจะนำ MMU มาใช้กับปาก  ให้ระมัดระวังว่าต้องไม่มีส่วนผสมของ Ultramarine โดยเด็ดขาด
    
     
    
     Zea Mays / Constarch : คือแป้งข้าวโพดคะ  ข้อดีคือแป้งข้าวโพดดูดซับความมันได้ดีและรวดเร็วเนื้อลื่นๆ  แต่มีข้อเสียก็คือมันอายุสั้น  จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเจริญของแบคทีเรียได้  และอาจก่ออาการแพ้ ผื่นได้คะ  
    
     
    
     Zinc Oxide :  ส่วนผสมหลักอีกหนึ่งตัวใน MMU มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดด อีกทั้งยังช่วยบรรเทาผิวจากอาการระคายเคืองและช่วยในกรณีผิวมีปัญหาอย่าง rosacea (อาการแดงและเห็นเลือดฝอยบนใบหน้าอย่างชัดเจน) และยังให้การปกปิดที่ดีและยังติดทนอยู่บนผิวอีกด้วย
  • กิ่งโศก

    10 กรกฎาคม 2553 14:59 น. - comment id 31565

    เข้าใจว่า การคัดลอกงานเขียนของผู้อื่นที่ถือว่าเป็นเจ้าของผลงาน  มีความผิดครับ
    ..................
    
    พิจารณา ตามที่เข้าไปอ่าน 
    ตอนท้าย ลุงแทนระบุไว้ ว่าคัดลอกมา..
    เพียงแต่ไม่มี การให้เครดิต เจ้าของผลงาน
    
    อาจเป็นการลืม หรือ อาจจะไม่ทราบมากกว่า
    คิดว่า ลุงแทน คงไม่มีเจตนาเพื่อนำไปหาประโยชน์แต่อย่างใด และอาจเป็นเพียง ลืม(นึกไม่ถึง) ให้เครดิต เจ้าของผลงานมากกว่า
    และเห็นว่าเนื้อหางานมีประโยชน์ ถือว่าได้เผยแพร่เพื่อประโยชน์ต่อคนอื่นๆ
    
    ไม่ได้ปกป้องให้ลุงแทนแต่อย่างใด เพียงแสดงความเห็นเท่านนั้นครับ
  • .

    10 กรกฎาคม 2553 19:30 น. - comment id 31568

    เขาเอาไปต้มยำทำแกงเสียป่าว หากทำไปเพื่อความงอกงามแห่งสติปัญญา  ไม่เสียหาย ดีเสียอีกได้ทำบุญเป็ยวิทยาทาน เพียงรูปแบบเล็กๆน้อยๆ มีชื่อหรือไม่ คงไม่ได้เสียอะไรมากมายเนอะ แกล้งโง่แบบจี้กง  ทำไม่รุ้ไม่เห็นซะ ไร้ใจ อะไรๆก้ดีสำหรับเรา จิตประภัสสร สวยวันสวยคืนน่า...
    46.gif21.gif20.gif
  • แก้วประภัสสร

    10 กรกฎาคม 2553 22:39 น. - comment id 31580

    ลุงแทน หรือ หลวงลุง
    คงไม่มีเจตนาที่จะลอกงานมาหรอกค่ะ..
    แก้วฯเข้าใจแบบนี้ ..
    แต่อาจจะผิดตรงที่ไม่ได้อ้างต้นฉบับมาจากไหน
    
    แต่เจตนาเท่าที่เคยสนทนากับท่าน 
    ท่านนำเนิ้อหาต่างๆ มาลงไว้ 
    เพื่อให้หลายๆคน ได้รับความรู้
    
    อีกอย่างคือ ท่านนำความรู้เหล่านี้ไปสอน
    สามเณรในวัด นับร้อยๆรูป เพื่อให้ได้
    ข้อมูล ข่าวสาร นอกจากการเรียนในวัดค่ะ
    
    "จิตอันเป็นกุศล  โดยไม่หวังผลตอบแทน
    ไม่ยึดมั่น ถือมั่นในตนเอง
    ถือว่าเป็นการทำบุญค่ะ"
    
    29.gif29.gif36.gif
  • จ้อย..ยย

    11 กรกฎาคม 2553 01:13 น. - comment id 31581

    เมื่อจ้อยเริ่มเขียนบล๊อค 
    จ้อยก็เหมือนนักเขียนสมัครเล่นธรรมดาคนอื่นๆ
    
    คือเมื่อเขียนก็อยากให้คนอื่นๆได้อ่านงานของเรา
    และมีเจตนาจะ"แบ่งปัน"ผู้อื่นอยู่แล้ว
    
    เพราะเราเลือกเขียนในบล๊อค  ซึ่งให้ทุกคนเข้ามาอ่านได้
    ไม่คิดจะยึดมั่น ถือมั่น ใจแคบ คิดเล็กคิดน้อยแต่อย่างไร 
    
    และหากว่าหากคุณเคยไปอ่านที่บล๊อคของจ้อย
    (ขอเชิญในโอกาสต่อไป เพราะติดนี้ปิดบล๊อคชั่วคราวค่ะ)
    
    คุณจะเห็นว่าในการเขียนของจ้อย
    หลายๆเรื่องมีการอ้างอิงที่มาของข้อมูล 
    
    และยังมีการอ้างอิงที่มาของภาพที่ลงในบล๊อคด้วย
    เพราะจ้อยคิดของจ้อยเองว่าเราควรเคารพและให้เครดิตต้นทาง
    
    ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นเนื้อหา
    และภาพที่เราไม่ได้ถ่ายเอง งานของเขาเราต้องให้เครดิต
    
    เจตนาที่เขียนกระทู้นี้ก็ตามที่บอกว่าเรื่องความแปลกใจและอยากถามความเห็น
    
    ที่ว่าแปลกใจเพราะจ้อยรู้สึกว่าที่นี่คือต้นทาง
    เป็นชุมชนแห่งนักเขียน 
    ซึ่งน่าจะเคาพเรื่องลิขสิทธิ์งานเขียนมากกว่าใครเท่านั้นเอง
    
    ตอนนี้ได้ทราบเพิ่มเติมว่า"ลุงแทน"ท่านเป็น"พระ"
    ก็ขอกราบขออภัยด้วย จ้อยไม่ได้เป็นสมาชิกประจำที่นี่จึงไม่ทราบค่ะ
    
    และตอนนี้ได้รับทราบจากหลายๆความเห็นถึงในกรณีนี้แล้ว
    จ้อยก็หายแปลกใจแล้วหล่ะค่ะ 
    
    ขออภัยที่ตั้งกะทู้นี้ขึ้นมาค่ะ
    และขอปิดกระทู้นี้แต่เพียงเท่านั้นค่ะ  ... ขอบคุณค่ะ
  • ใบคา

    11 กรกฎาคม 2553 20:48 น. - comment id 31589

    จะเพิ่งรีบยุติครับ
    
    เรื่องคัดลอกงานเขียน ถ้าติดใจเอาความ นี่ก็ฟ้องได้เลยครับ เพราะไม่ว่าจะลงไว้ที่ใดมันก็คือลิขสิทธิ์ของผู้เขียนครับ
    
    อ่านดู เห็นคุณจ้อยบอกว่าโดนคัดลอกงานบ่อย ผมเสนอนะครับ หน้าแรกเขียนโตๆ เลยก็ได้ครับว่า ใครลอกไปกรุณาให้เครดิตด้วย (หรือทำอยู่แล้ว)
    
    ผมเข้าใจว่าคุณจ้อยต้องการเรียกร้องจรรยาบรรณนักเขียนมากกว่า (ใช่ไหม) งั้นรอให้ ลุงแทนแกมาขออภัย ดีกว่าครับ
    
    เพื่อไมตรี
  • Sugar Free

    11 กรกฎาคม 2553 22:44 น. - comment id 31595

    เป็นเรื่องของสามัญสำนึกค่ะ การที่เจ้าของบทความออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม กลับกลายเป็นฝ่ายผิด เพราะคนที่ลอกเป็นพระ มันน่าอนาถใจค่ะ ยิ่งเป็นพระ เป็นครู เป็นผู้สั่งสอนต้องยิ่งตระหนักค่ะ ไม่ใช่ออกมาแก้ตัวแทนว่าลืม
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    11 กรกฎาคม 2553 23:17 น. - comment id 31596

    เปิดใจให้กว้างหน่อย เขาเอาไปประโยชน์อะไรหรือเปล่า
  • คุณพีทคุง พิธันดร

    12 กรกฎาคม 2553 07:10 น. - comment id 31597

    ข้อเขียนที่ผู้เขียนสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนครับ และกฎหมายคุ้มครองให้ผู้เขียนเป็นผู้เดียวที่มีสิทธิเผยแพร่และดัดแปลงได้
    
    นอกจากเรื่องกฎหมายแล้ว การเคารพสิทธิของผู้อื่น ยังเป็นมารยาท จรรยาบรรณ และจริยธรรม ที่บุคคลในสังคมควรมีครับ
    
    แนวความเห็นในทำนองที่ติติงเมื่อเจ้าของผลงานออกมาเรียกร้องนั้น เป็นการส่งเสริมการกระทำผิดในทางที่ยิ่งผิดเข้าไปใหญ่ แสดงให้เห็นว่าทัศนคติของคนในสังคมเรานั้น ไม่เคารพในสิทธิของผู้อื่น แถมยังส่งเสริมให้คนอื่นคิดแบบเดียวกันเสียอีก
    
    การอ้าง "บุญ" หรือจิตประภัสสร หรือเปิดใจให้กว้าง หรืออะไรก็ตามนั้น ไม่ทำให้การกระทำผิดกลายเป็นถูกไปได้ครับ ผมมั่นใจว่าพุทธศาสนาไม่มีแนวคิดของการ "ล้างบาป" แบบนี้
    
    สิ่งที่กัลยาณมิตรควรจะทำก็คือ มองเห็นสิ่งที่ผิดว่าผิด ถ้าใจเราจะกรุณาผู้กระทำผิด ก็ต้องเสนอแนะทางที่ถูกครับ ไม่ใช่ส่งเสริมให้พุ่งตรงลงเหวกันไป
    
    การไปหยิบเอาผลงานของผู้อื่นมา โดยไม่ได้ขออนุญาตนั้น มองอย่างไรก็ผิดครับ ไม่ต้องไปมองต่อเลยว่าเจ้าของเขาจะเสียหายสักกี่มากน้อย  อันนั้นเป็นเรื่องปลายทาง
    
    ยิ่งผู้กระทำเป็นครูบาอาจารย์หรือพระสงฆ์องค์เจ้า ที่ต้องสอนคนอื่นให้ทำดี ท่านยิ่งควรจะได้รับการบอกกล่าวให้ทราบว่า การกระทำนี้มันผิด และวิธีที่ถูกควรจะเป็นอย่างไร
    
    หากพวกเราปรารถนาดีต่อวงการเขียน ต่อสังคมไทย และต่อท่านจริง ควรจะช่วยกันสนับสนุนให้ช่วยกันทำสิ่งที่ถูก ไม่ใช่ช่วยกันผลักไสให้ลงเหวไปด้วยกันครับ
  • ผ่านมา

    12 กรกฎาคม 2553 09:03 น. - comment id 31599

    คุณพีธันดรพูดไว้ดีมากแล้ว กรุณาตื่นตัวในเรื่องนี้กันหน่อยก็ดีนะคะ ข้อใหญ่ใจความไม่ได้อยู่ที่ลอกงานของคนอื่นไปทำไม สำคัญที่สุดคือลอกไปค่ะ ไม่ยากเลยที่จะให้เครดิตผลงานที่ผู้สร้างเขาใช้เวลาใช้แรงงาน ใช้สมองสรรค์สร้างงานขึ้นมาแล้วเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้โดยไม่ปิดบัง ควรเคารพและส่งเสริมในแง่นั้น ไม่ต้องพูดกันถึงความผิดทางกฎหมายเลยด้วยซ้ำ การส่งเสริมให้ลอกแบบนี้อาจทำให้คนที่คิดจะสร้างงานใหม่ๆ หมดกำลังใจ เพราะการสร้างงานงานชิ้นหนึ่งไม่ใช่ง่ายๆ แต่พอมีคนลอกเอาไปหน้าตาเฉยแบบนี้ มันทำให้ท้อและหมดกำลังใจค่ะ และถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ต่อไปใครอยากคิดทำอะไรใหม่ๆ อีกล่ะค่ะในเมื่อคอยลอกของคนอื่นมันง่ายกว่าแบบนี้ 
    
    อีกอย่างสำหรับบอร์ดนี้นะคะ ไม่คิดหรือคะว่าคนนอกเข้ามาดูแล้วเห็นสมาชิกบอร์ดสนับสนุนและสร้างเหตุผลให้กับการลอกงานแบบนี้ บอร์ดนี้จะน่าเชื่อถืออีกหรือคะ คนที่แวะเวียนมาอ่านอะไรก็จะต้องสงสัยแล้วว่าแล้วว่างานนี้ บทความนี้ หรือกลอนบทนี้นี่ลอกมาจากไหนหรือเปล่า ใช่ไหมคะ
  • อัลมิตรา

    12 กรกฎาคม 2553 12:48 น. - comment id 31603

    ใครจะผิด ใครจะถูก ก็ให้ระบุเจาะจงเป็นตัวบุคคลไป นั่นน่ะ ถูกต้องแล้ว
    
    แต่การที่เหวี่ยงแหกวาดมาทั้งหมดเวปหมดบอร์ด  ถูกต้อง ?????
  • ไม่กล้าล๊อกอิน ..อายยยยย

    12 กรกฎาคม 2553 14:31 น. - comment id 31604

    เอ้า เฮ้ย
    ทำแบบนี้อายเขาน่ะ
    ลอกเขาก็ขอโทษเขาซะนะ
  • F-nis

    12 กรกฎาคม 2553 14:58 น. - comment id 31605

    เจอเจ้าของเขามาทวงถามแบบนี้
    อายเขาน่ะ
    จะเป็นพระเป็นเจ้าเป็นใคร?
    รู้จักคำขอโทษก็จบ ท่าทางเจ้าของเขาจะใจดีน่ะ
    
    หรือสักแต่ลอกของเขามาวาง
    แล้วไม่เข้ามาดูมาแลเลยคะ ...เฮ้ออ ย61.gif
  • F-nis

    12 กรกฎาคม 2553 15:02 น. - comment id 31606

    ล๊อกอินแล้วเด๊อออค่ะ
  • แทนคุณแทนไท

    12 กรกฎาคม 2553 16:46 น. - comment id 31622

    อะไรที่ผิดก็แก้ไขกันไปครับ
    อะไรไม่เข้าใจกันก็พูดคุยกันไป
    
    อย่าให้กลายเป็นความบาดหมาง
  • โคลอน

    12 กรกฎาคม 2553 16:57 น. - comment id 31632

    อืมมม
    
    รอลุงแทนมาชี้แจงดีกว่านะคะ
    
    ส่วนตัวคิดว่าท่านไม่ได้ตั้งใจจะลอกผลงานท่านใดมาโดยเจตนาไม่บริสุทธิ์อ่ะค่ะ
    
    
    
    แต่ก็เป็นอีกกรณีที่ต้องศึกษาและระมัดระวังกันค่ะ เรื่องการให้เครดิตผู้เขียนหรือแหล่งที่มาแนบท้าย
    
    ถ้ามองในมุมของผู้เขียนงาน
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    สวัสดีค่ะ คุณ พิธันดร พีทคุง
    
    ไม่นึกว่าจะเจอในบ้านกลอนนะคะเนี่ย11.gif
    
    จำโคลอน ได้มั๊ยคะ
    
    เราเคยถกกันเรื่อง "ไทยบุ๊ค" ในพันทิพกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว21.gif
    
    
    ขอบคุณข้อมูลในกระทู้นั้นมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ...29.gif36.gif29.gif
  • plaing_piu

    12 กรกฎาคม 2553 22:46 น. - comment id 31648

    กฏหมายไม่ได้มองแค่ตัวหนังสือหรือการกระทำเป็นสำคัญเท่านั้น  เจตนาหรือความสุจริตในความรุ้สำนึกพึงต้องพิจารณาเป็นสำคัญมากกว่า  
    
    ส่วนจิตประภัสสรหรือไม่ก็เป็นสันดานสั่งสมความจัดเจนในการเรียนรู้และรับรู้ของคน ของมนุษย์ หรือของสัตว์นรกที่จะสามารถยกระดับให้ก้าวพ้นหรืออยู่เหนือกฏเกณฑ์ถูกผิดและศีลธรรมจรยาหรือคุณธรรมได้หรือมีในพุทธธรรมจริงหรือไม่ ..ใช้สติปัญญาและศีลวินัยหรือกรอบพิจารณาความตื้นลึกของปัญหาของสิ่งเอาเองเถิด  เรื่องของอัตตาและความงามของจิต ยิ่งจิตพุทธะไม่เคยเรียนรู้จบได้โดยง่ายหรือเพียงปฏิบัติให้ผ่านๆไป
  • ผ่านมาอีกรอบ

    12 กรกฎาคม 2553 23:23 น. - comment id 31650

    เข้าใจผิดแล้วคุณความเห็น 18 ถ้ามีการฟ้องร้องกันจริง ไม่มีผู้บังคับใช้กฎหมายที่ไหนมานั่งพิจารณาเจตนากันหรอกค่ะ กรุณาทำความเข้าใจเสียใหม่ด้วย การละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์คือการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ อยู่ที่ผู้เสียหายจะเอาเรื่องหรือไม่ กรุณาศึกษากฎหมายเรื่องลิขสิทธิ์ดูเสียก่อนนะคะ มีตรงไหนบ้างที่พูดถึงเจตนา ถ้าหาเจอก็กรุณาชี้ให้เห็นด้วย จะกลับมาดู
    
    สำหรับความเห็นที่ 12 ที่เขียนไปก่อนหน้าไม่ใช่การหว่านแห แต่เป็นการชี้ให้เห็นผลที่อาจมีตามมาเมื่อบอร์ดนี้ปล่อยให้มีการลอกผลงานคนอื่นมาเป็นของตัวโดยไม่ให้เครดิตเจ้าของงาน และที่สำคัญคือสมาชิกบอร์ดที่แสดงความคิดเห็นในลำดับต้นๆ แทนที่จะตักเตือนผู้กระทำผิด กลับเสียดสีเจ้าของบทความซึ่งเป็นผู้เสียหายเสียอีก ทั้งยังสร้างเหตุผลที่แท้จริงแล้วฟังไม่ขึ้นให้กับการกระทำนั้นด้วย จะให้คนที่ผ่านมาเห็นเข้าใจว่าอย่างไร และถ้านี้เป็นแบบนี้ คนที่ผ่านมาเห็นเข้าจะไม่คิดหรือว่านี่อาจเป็นเรื่องปกติธรรมดาของที่นี่ นั่นแหละค่ะคือเจตนาที่พยายามเตือน
  • คุณพีทคุง พิธันดร

    13 กรกฎาคม 2553 07:16 น. - comment id 31651

    สวัสดีครับคุณโคลอน (คคห 17)
    
    กระทู้นั้น ยาววววววว มากกกกกกก เลยครับ ผ่านมาปีครึ่งแล้วนะนี่ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ติดตามข่าวคราวอีกเลยครับ ว่าเป็นยังไงไปถึงไหนมั่ง
    
    หวังว่าคุณโคลอนคงสบายดี และมีความสุข สนุกกับการเขียนเหมือนเคยนะครับ
  • กิ่งโศก

    13 กรกฎาคม 2553 08:36 น. - comment id 31652

    รอ ลุงแทนมากล่าว มาบอก มาขอโทษ หรือจะมารับผิด ไม่ดีกว่าหรือครับ ..ดีกว่ามาชวนวิวาทะกัน ..บางความเห็นก็ว่า รวมทั้งสมาชิกเวปบอร์ด..
    
    ปัญญาแบบนี้ก็เคย มีถกกันมาแล้ว  ..นี่ไม่ใช่ครั้งแรก..
    
    การคัดลอกข้อความ นั้นนะผิดแน่นอน
    
    รอ ลุงแทน ดีกว่ากระมัง..
    
    และความเห็นต้นๆ ในส่วนของผม ไม่ได้เสียดสีใคร นะ .งการระบุ ของคุณคนที่ผ่านมา ควรบอกไปเลยว่าคอมเม้นไหน..ที่เสียดสีเพราะ แบบนี้ ก็คือการว่าเหมารวมเช่นกัน..
    
    สมาชิกที่นี่มีมากมาย ..ส่วนเจ้าของผลงานจะฟ้องนั่นก็เป็นสิทธิ ของเขาครับ 
    
    ที่เข้ามาแสดงความเห็นในนี้
    ก็เนื่องจาก  เจ้าของกระทู้ เปิด คำถามไว้แล้ว นะครับ
  • คนผ่านมาอ่าน

    13 กรกฎาคม 2553 10:01 น. - comment id 31664

    จริงๆแล้วการคัดลอกบทความของใครมาก็ตามจะเพื่อประโยขน์ส่วนรวมหรือเพื่อเผยแพร่อะไรก็ตามควรให้เครดิตผู้เขียน  ควรบอกที่มาที่ไปและใครคือเจ้าของบทความไม่ใช่คัดลอกกันมาเฉยๆ  นี่เป็นจรรยาบรรณของนักเขียนทุกคน    เข้าใจนะว่าหลายๆข้อความที่แสดงความคิดเห็นนั้นเป็นเพียงข้อความแสดงความคิดเห็นเท่านั้นไม่ได้สนับสนุนผู้กระทำผิดแต่อย่างใด   และหลายๆข้อความที่เขียนก็เพียงแค่อยากให้ผู้คัดลอกออกมาผิดชอบหรือชี้แจงก็เท่านั้น...คำขอโทษคงไม่ยากเกินไปกระมั้งสำหรับคนไทยอย่างเราๆ   เข้าใจเจ้าของกระทู้นะ คุณจ้อย..ยย  ที่คุณออกมาเรียกร้อง  ไม่ใช่ความผิดอะไรของคุณเลยคุณออกมาเรียกร้องเพื่อความถูกต้องก็เท่านั้น   แต่คุณก็ยังมีน้ำใจที่จะขออภัยและเปิดกระทู้นี้  ซึ้งในน้ำใจของคุณ
  • โคลอน

    13 กรกฎาคม 2553 11:53 น. - comment id 31681

    ขออนุญาตเจ้าของกระทู้อีกครั้งค่ะ
    
    46.gif
    
    สวัดีอีกครั้งค่ะ คุณพีทคุง ค.ห ๒๐
    
    กระทู้นั้นจำได้ว่าเลยหลักพันกว่าคอมเม้นนะคะ ไม่เคยอ่านกระทู้ไหนยาวขนาดนั้นมาก่อน อิอิ 21.gif
    
    และที่สำคัญทุกๆคอมเม้นก็จะมีข้อมูลหนาปึ่ก
    
    คนอ่านได้กำไรมากๆได้ข้อมูลทั้งสองด้าน
    
    ในการตัดสินใจวิเคราะห์
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
    
    ส่วนเรื่อง ไทยบุ๊ค ครั้งสุดท้ายเขาติดต่อขอนัดเซ็นสัญญามาค่ะแต่โคลอนขอให้เขาส่งสัญญามาให้อ่านก่อนแล้วจะส่งกลับไปให้เขาอีกที
    
    นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ได้ข่าวและขาดการติดต่อไปอัติโนมัติอ่ะค่ะ
    
    ไม่รู้เป็นไงเหมือนกันค่ะ สำหรับท่านอื่นๆที่ได้รับการติดต่อ
    
    พอจะกลับไปหาอ่านอีกก็หาไม่เจอแล้วอ่ะค่ะ
    
    สำหรับกระทู้ที่ถือว่าเป็นคลังห้องสมุดของโคลอนเลยทีเดียว
    
    36.gif29.gif36.gif
    
    
    ตอนนี้สนุกการกับเขียนจนดูท่าจะเยอะเกินไปจนดูเหมือนล้นๆ ค่ะ ฮ่า20.gif
    
    
    
    ขอบคุณอีกครั้งนะคะ 46.gif36.gif46.gif
  • .

    13 กรกฎาคม 2553 12:20 น. - comment id 31682

    19...
    กฏหมายไม่ได้มองแค่ตัวหนังสือหรือการกระทำเป็นสำคัญเท่านั้น  เจตนาหรือความสุจริตในความรุ้สำนึกพึงต้องพิจารณาเป็นสำคัญมากกว่า  
    
    ...
    คุณอ่านความเห็นบนนี้ดีๆก่อนสรุป เจตนาใช้กับกม.อาญา หลักใช้สิทธิสุจริตมุ่งทางแพ่ง  เขียนกว้างๆแบบนี้อาจไม่ตรงใจคุณคิดมุ่ง เรื่องประเด็นที่ว่า  หลักการใช้กฏหมายหรือการตีความกฏหมายกับมโนธรรมสำนึกต้องจำแนกให้ดี หากจะเอาแต่กฏหมายตามตัวหนังสือทื่อๆมาใช้บังคับโดยไม่มองเจตนารมณ์สำคัญ ทุกวันนี้จึงมีแต่ศรีธนนชัยเต็มสภา ทำยโสโอหังหลงตัวใช้อำนาจใช้กด(ขี่)หมาย(หัว)ข่มคนในสังคม สร้างหลักกูขึ้นมาบิดเบือนทำร้ายทำลายปทัสถานสังคม เพราะอ้างหลักที่ว่านี่แหละ ท่านจึงว่าให้มองเจตนารมณ์ของกฏหมายไว้เป็นสำคัญมากกว่ามองตัวหนังสือเป็นสำคัญ
     
    แต่ประเด็นเฉพาะเรื่องลิขสิทธิเป้นอย่างไรในกรณี้ไม่ก้าวล่วง เพราะเห็นมาแต่แรกว่า เจ้าของบ้านคงไม่หมายเอาผิดอย่างนั้นมาแต้แรกเป็นแน่  ...
    
    ถ้าเป็นทนาย เขาเรียกว่ามุ่งแต่จะค้าความอย่างเดียว ไม่สนใจ/มองจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพที่พึงให้คู่กรณียุติกันแต่แรกด้วยดี ไม่ต้องไปถึงโรงถีงศาล เพราะบางเรื่องและหรือหลายเรื่อง ชาวบ้านว่าเป็นความกันกินขี้หมาดีกว่า...
  • ใบคา

    13 กรกฎาคม 2553 12:52 น. - comment id 31685

    ไหนๆ ก็ไหนๆ 
    
    ระหว่างรอคุณลุงแทน
    
    มาชวนคุยกันก่อนละกัน 1.gif
    
    เรื่องจริยธรรมกับกฏหมายนี่มันก็เป็นเรื่องน่าหนักใจอยู่ไม่น้อยว่าไหม ตัวอย่างเช่น  แม่ซึ่งมีลูกหิวโซกำลังจะตาย ไม่มีเงินซื้ออาหาร จึงตัดสินใจไปขโมยขนมมาให้ลูกกิน (ก็เล่าเฉยๆ)
    
    ว่ากันตรงๆ  กรณีนี้ (ลุงแทน) มันผิดเพราะไปเอาของเขามาแล้ว ไม่อ้างอิงที่มา เจ้าของก็บอกแล้วว่า ถ้าอ้างอิงหน่อยก็ไม่ได้ว่าอะไร
    
    เรื่องกฏหมายผิดน่ะผิดอยู่แล้ว แจ้งความได้เลย ส่วนเรื่องเจตนาละ ลุงแทนก็บอกแล้วว่า คัดลอกมา (แต่ดันไม่บอกว่า ลอกมาจากไหน)
    
    ผมไม่ได้สนับสนุนให้ลอกงานเขียนของใครหรอกครับ เพราะอาชีพหลักผมคือเขียนหนังสือ ถ้าไปสนับสนุนนี่ผมตายกับตายครับ มีหวังต้องหาก้อนหินกินแทนแกลบแน่เลย 
    
    ประเด็นคุณจ้อย กับลุงแทน ผมอยากให้มองในเจตนาดีกว่าครับ เพื่อมิตรภาพ 
    
    ไม่มีใครอยากให้งานของตัวเองโดนลอก ผมก็ไม่อยาก งานชิ้นนี้ก็เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้คนอื่นทราบ ซึ่งที่คุณลุงแทนทำก็เพื่อเผยแพร่ ไม่ได้เอาไปเพื่อการค้า ในแง่ศิลธรรมก็น่าจะพอคุยกันได้นะ ผมว่า
    
    ยกตัวอย่างงานผมดรกว่า  นานแล้ว ผมโพสต์เรื่องสั้นไว้ 1 เรื่อง (ที่นี่แหละ) อยู่ๆ มีน้องนักเรียนคนหนึ่งมา คอมเม้นต์ ว่า พี่หนูของานไปส่งอาจารย์นะ
    
    ผมก็แอดเมลน้องเขาไว้ กระทั่งเจอกันใน MSN ผมก็ติน้องเขาไปว่า ทำอย่างนี้ไม่ดี ส่งงานก็ควรทำเอง ก็แค่นั้น
    
    พอแค่นี้ก่อนละกัน เดี๋ยวแวะมาใหม่
  • โคลอน

    13 กรกฎาคม 2553 12:57 น. - comment id 31688

    ความจริงเรื่องนี้
    
    สองคำสั้นๆค่ะ จริงๆเรื่องก็จะไม่บานปลาย
    
    ไม่ว่าจะจากกรณีไหนก็ตาม
    
    สองคำสั้นๆค่ะสองคำสั้นๆ
    
    "miss you"
    
    อ้าว ไม่ใช่แระ อิอิ
    
    
    65.gif30.gif21.gif44.gif36.gif
    
    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
  • ผ่านมาอีกคน

    17 กรกฎาคม 2553 00:35 น. - comment id 31813

    เอ้อ  จะว่าหว่านแหมันก็ไม่ถูก แต่ก็ไม่ผิดซะทีเดียวละมั้งคะ
    
    อ่านความเห็นแรกๆสลดใจ   สงสารคุณคุณจ้อย      
    
    ตกใจมากเลยค่ะว่าทำไมคนเว็ปนี้มีทัศนคติป็นอย่างนี้  รู้สึกอยากวูบไปเลยค่ะ จะเป็นลม (เหวี่ยงแหอีกคนใช่ไหมคะ  แต่เวลาเรามองอะไรเราก็มองจากภาพรวมก่อนนี่คะ ดิฉันตามมาอ่านก็ว่ากันตามเนื้อผ้าที่เห็น ไม่ได้อ่านบอร์ดนี้ประจำ คงไม่ทราบลึกหรอกค่ะว่าจะเป็นแบบนี้กันหมดหรือเปล่า ก็มองโดยรวม)    แต่คห.กลางๆหลังๆมาก็ค่อยยังชั่วว่าอย่างน้อยก็ไม่มีความคิดแนวน่าตกใจแบบนี้กันเสียหมด
    
    คู่กรณี ดิฉันคิดว่าคุณจ้อยคงไม่ได้ติดใจเอาความอะไรหรอกค่ะ  แค่อยากให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือแก้ไขใส่เครดิตให้เท่านั้นเอง
    
    เพราะผู้เขียนเขียนงานขึ้นมาหากงานนั้นเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านก็ดีใจแล้ว   แต่เรื่องเครดิตนี่มันเป้นเรื่องของมารยาทและการให้เกียรติเจ้าของผลงานค่ะ   ไหนๆก็เข้าเว็ปเขาก็อปงานเขามาแปะใส่เพจใหม่อัพโหลดขึ้นมาได้   เสียเวลาพิมพ์ขออนุญาต  หรือติดเครดิตใส่เข้าไป  มันไม่ลำบากแน่ๆค่ะ    นี่ก็อาจจะไม่ยังไม่ทราบมารยาทบนอินเตอร์เน็ตข้อนี้ หรือลืมไปบ้างแบบว่ายังไม่ชิน   คุณจ้อยก็เข้ามาท้วง ก็แค่นั้นเอง  คุณจ้อยทำผิดตรงไหนคะ  คุณจ้อยใจแคบ?  เหอๆ  ตรรกะอะไรกันคะเนี่ย  
    
    แต่อ่านคห.ต่างๆนี่ ออกจะเริ่มมาม่าไปแล้ว  ลากไปลากมา มันไม่ใช่ประเด็นที่คุณจ้อยต้องการจะสื่อมังคะ
    
    ขออภัยจริงๆที่ความเห็นอาจจะแรงไปบ้าง   แต่เห็นบางท่านยังยอมรับความจริงไม่ได้ แถกันเข้าไป  อายแทนเลย      
    
    ดิฉันคิดว่าหากอยากแสดงตนเป็นปัญญาชน ไม่ต้องพิมพ์อะไรยืดยาวให้ดูดีภาษาสูงๆแต่จับเนื้อหรือสาระไม่ได้หรอก  ออกแนวน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง  
    
    คนดีชอบแก้ไขค่ะ  คนแก้ตัวเขาไม่ได้ถูกมองให้ดีขึ้นกว่าเดิมหรอกค่ะ    
    
    ทำผิด ไม่ว่าจะด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเข้าใจผิดหรืออะไรก็ตาม  เพียงแค่ยอมรับผิด ขอโทษ และแก้ไข    ไม่มีอะไรที่น่าอาย ผิดเป็นครูค่ะ  ทุกคนพร้อมให้อภัย   สังคมจะอยู่กันอย่างมีความสุข  ดีกว่ามาเถียงข้างๆคูๆค่ะ
  • กามนิต

    18 กรกฎาคม 2553 10:10 น. - comment id 31835

    
    ก่อนอื่นต้องขออภัยทุกท่านหากการเขียนตรงนี้มิสมควร หรือใช้ถ้อยคำอันอาจระคายเคือง ทั้งนี้ มิได้ประสงค์จะให้ระคายเคืองผู้ใด เพียงแต่แสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะแสดงถึงความสงสัย และแปกใจในธรรมอันแปลกประหลาดนี้ หากเป็นที่ระคายเคืองที่ใด ก็โปรดให้อภัยแก่ผู้ไม่รู้ด้วยเทอญ 
    
    
    แปลกใจหนอ ต่างคนต่างพูด ต่างที่ต่างทาง
    
    จะคุยกันรู้เรื่องหรือ?
    
    
    ผลเกิดแต่เหตุ ดับเหตุแล้วย่อมถึงที่สุด
    
    
    เหตุคือ มีการลอกเนื้อหาจากบล็อกคนอื่นมา (อาจจะโดยเจตนาดี) แต่ไม่ได้ให้เครติดเจ้าของผลงาน แล้วแปะกระทู้ในบอร์ดสาธารณะ
    แร่ที่นำมาเป็นส่วนผสมใน MMU มีมากมายหลายชนิด  http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story9894.html
    
    เจ้าของเนื้อหาเขาสอบถามทั้งทางอีเมล์ ในบอร์ดนี้ 
    ถูกลอกบทความค่ะ  http://www.thaipoem.com/forever/ipage/board6834.html
    
    และบอร์ดอื่น
    + + เมื่อถูกลอกบทความในบล๊อค + +  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9456312/W9456312.html
    
    เพื่อสร้างความเข้าใจ
    
    โดยบอกทำนองว่าหากมีเจตนาดี ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร ขอเพียงแต่เมล์ตอบไปขอโทษ หรือตอบในกระทู้ที่เขาถาม และทำลิ้งก์ให้เครดิตเจ้าของผลงานก็น่าจะพอ
    
    
    ผู้สร้างเหตุไม่เลือกทั้งสองทาง  แต่กลับตั้งอีกสองกระทู้ 
    ลุงแทน ถึงคุณจ้อย ..ย..ย  http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem135872.html
    ขออภัยมา ณ โอกาสนี้  http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem135873.html
    บอกในเนื้อหาคือการบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ และขออภัย
    
    
    ก็ให้สงสัยยิ่งนักว่าจะคุยกันรู้เรื่องไหม ในเมื่อถามที่หนึ่ง แต่ไปตอบอีกที่หนึ่ง
    หรือช่องทางสื่อสารโดยตรงทางอีเมล์ก็ไม่ตอบ ทั้งที่เจ้าของผลงานค่อนข้างเปิดเผย
    ทั้งอีเมล์ และเบอร์โทรในกระทู้ร้องทุกข์ที่กล่าวมา
    
    
    คันศีรษะ แต่ไปเกาที่ขา จะหายคันไหมนี่ ?   ... สงสัยเป็นยิ่งนัก 
    
    
    อาจารย์ทั้งหลายโปรดช่วยกรุณาด้วยเทอญ!
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน