ด้วย ทราบว่าหลายคนหลายท่านอาจจะยัง งง กับการ ใส่เพลง ในบทกลอน หรืองานเขียน ในไทยโพเอม นี้ เพราะมีการถาม มาหลายครั้ง นะครับ ซึ่งผู้รู้หลายท่านได้อธิบาย ไว้หลายคนแล้ว บางครั้งกระทู้ก็หาไม่เจอแล้ว อีกอย่างการอธิบายเขียนลงไปใน นี้ .ส่วนที่เป็นโค๊ด มักไม่แสดงภาพให้เห็น..ผมเลยขอพิมพ์ เซฟไว้ในไฟล์รูปภาพ แล้วนำมาแปะอีกทีครับ ขั้นต้อนการใส่เพลง มีดังนี้ครับ ติดวิธีการแปลงเพลงไว้ก่อนนะครับ
2 กรกฎาคม 2553 12:22 น. - comment id 31478
ขอบคุณแทนเพื่อนๆด้วยครับผม
2 กรกฎาคม 2553 12:26 น. - comment id 31479
ขั้นตอน โหลดโปรแกมแปลง mp3 เป็น wma ก่อน เลือกฟรีดาวน์โหลดนะ 01 http://jetaudio.en.softonic.com/ 02 โหลดเสร็จ หน้าจอ จะมี cowon media center ต่อไปการแปลงร่าง เอ้ย แปลงไฟล์ อิ 03 เปิดหน้าจอ นี้ขึ้นมา jetaudio ด้านขวามือจะเห็น ปุ่ม เลือกคำว่า convert audio 04 ปุ่ม out format ด้านล่างซ้าย เลือก wma-window media audio 7 05 กดปุ่ม config audio for fm quality for dial-up modems ( 28.8 kbps stero x ) เลือกอันนี้ 06 กด ด้านบน ซ้ายมือ เลือก ไฟล์เพลงที่เรา โหลดเห็บไว้ สกุล mp3 07 เลือกเสร็จ กด start ด้านขวามือ บน 08 เสร็จแล้ว ด้านซ้ายจะถามว่า คุณจะสร้างอัลบั้มใหม่มั้ย ให้กด no โน 09 เรียบร้อยแล้ว หากไม่ใช้หน้านี้ก็ปิด ลงไปได้เลยค่ะ ขั้นตอนเอาเพลงมาใช้ ก็ไปสมัคร ฝากเพลง ที่เวบ www.palungjit.com เข้าหน้า blog เลือก photo and files ต่อด้วย podcast flies และก็โหลดพลงมาเก็บไว้เอามาใช้ได้เลยค่ะ ---------------------- ไปก๊อปที่แนะนำน้องอ้อมมาแปะไว้ ช่วยปู่กิ่งอีกแรงจ้า.
2 กรกฎาคม 2553 13:55 น. - comment id 31480
2 กรกฎาคม 2553 14:31 น. - comment id 31481
ขอบคุณครับ
2 กรกฎาคม 2553 14:47 น. - comment id 31482
...... แหม๋ คู่นี้ ปู่กะย่าช่วยกันทำมาหากินกันได้น่าร๊ากกกกก อิอิ
2 กรกฎาคม 2553 15:01 น. - comment id 31483
2 กรกฎาคม 2553 15:07 น. - comment id 31484
เห็งด้วยๆๆกะฉางน้อย อิอิ
2 กรกฎาคม 2553 18:25 น. - comment id 31486
6 กด ด้านบน ซ้ายมือ เลือก ไฟล์เพลงที่เรา โหลดเห็บไว้ สกุล mp3 ^ ^ ^ "โหลดเห็บ" อ่ะจ๊าก ขั้นตอนนี้น่ากลัวอ่ะ แบม
2 กรกฎาคม 2553 18:34 น. - comment id 31487
8.......ลิงฝน แกรอย่าเข้าใกล้ล่ะ นอกจากโหลดเห็บเก็บไว้แระ เผลอๆ เจ้อาจมีหมัด มีริ้นไรด้วยอ่ะแกร ระวังหมัดกะเห็บจะกระโดดเกาะหลังลิง 5555
2 กรกฎาคม 2553 19:54 น. - comment id 31488
8 แฝดฝน ..ทำไรอ่ะ อยู่แผนกพิสูจน์อักษรเหรอ 55555 โหลดเห็บมาเก็บไว้ดอง เผื่อผจกวิทย์ ผ่านมาแถวนี้.. จะเอาไปฝาก เอิ๊กๆๆ
3 กรกฎาคม 2553 10:50 น. - comment id 31490
พี่ปู่คะ... เมื่อคืน ต่อ ต่อยเจ็บมั๊กๆๆ อิ เสียศูนย์เลยเนาะ สอง ต่อ หนึ่ง ลุ้นแทบไม่ได้หายใจ ต่อ เป็นสัตว์ที่ต่อยเจ็บ.. รอง คือนักพากษ์เสียงพระเอก 555 ใช้ได้ๆๆ
3 กรกฎาคม 2553 13:22 น. - comment id 31491
ขอบคุณปู่ กะ ย่า ค่ะ อิอิ
3 กรกฎาคม 2553 19:39 น. - comment id 31493
หน้ากลอนเราไยไม่มีเสียงเพลง.. .
4 กรกฎาคม 2553 07:08 น. - comment id 31497
ขอบคุณ ทั้งสองท่านมากค่ะ อยากรู้ตั้งนานแล้ว อิอิ ตามยี่สิบ 555
9 กรกฎาคม 2553 21:04 น. - comment id 31550
ขอบคุณมากมาย แต่สำหรับผมแล้วมันยังยากอยู่ดีฮับ เพราะไม่ค่อยเก่งทางเรื่องนี้ ดูแลสุขภาพด้วยนะฮับคุณปู่ฯ
21 สิงหาคม 2553 11:03 น. - comment id 32013
27 ธันวาคม 2554 15:55 น. - comment id 36803
เบื้องบนลานกว้างอันเกลี้ยงเกลาเสมือนดั่งถูกปัดกวาดให้ดูโล่งโปร่งและสะอาดยิ่งนักประกอบชั่วเวลาพลบค่ำยามนี้ สัมผัสรับรู้ถึงความยะเยือกเย็นหนาวเหน็บของอากาศในเหมันตฤดูเช่นนี้ สายลมที่พัดแผ่วเบายามที่ต้องร่างยังสะท้านสั่นหนาว ณที่เก้าอี้ตัวเก่า วางอยู่มุมหนึ่งในลานบ้านนั้นเป็นเครื่องเรือนสิ่งเดียวสภาพเก่าคร่ำคร่าเพราะผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบันถูกวางรอรับลมหนาวอย่างเดียวดาย ตัวเราคล้ายดั่งดำดิ่งลึกสู่ห้วงอันสงัดของกลางคืน ในคืนนี้ความหนาวเย็นแผ่ซ่านชอนไชเข้าไปใต้เนื้อผ้าหนาที่คลุมร่าง แรกรับรู้ถึงความทรมาน หากแต่จับภาวะแห่งความเย็นจากลมหนาวได้นั้น เรากลับพบผกายคล้ายอบอุ่นและส่องสุกปลั่งอยู่เหนือบนขึ้นไปเลยศรีษะเบื้องฟ้ากว้างในคืนนี้ กลุ่มเมฆเบาบาง แห่งเดือนแรมยามนี้ กลับมองดูสวยงามจับจิตไปอีกแบบ ครั้นได้พิศแลทัศนานั้น ความรู้สึกให้เลือนลืมรสแห่งความเย็นที่กำลังแทรกแยกรานหัวใจ ดวงดอกฟ้าที่พรายระยิบระยับประดับท้องฟ้างดงามเหลือเกิน ใครได้มีเวลาแลคงหลงไหลแห่งแสงกระพริบนั้น เหมือนกำลังให้จังหวะดนตรีทิพย์ หรืออาจคลับคล้ายใครบางคนส่งยิ้มแย้มให้เวลาที่เราเงยสบเนตรกลมโตโดยไม่ขวยเขินเมินอาย อาเสน่ห์อันน่าพิศวงนักเทียว..ท่าน นี่กระมังที่ความงดงามอันทรงค่านี้ มนุษย์จึงได้แวะเวียนหยิบนำมา ยกเยินยอเปรียบเทียบเปรียบเปรยถึง ความโดเด่นแพรวพรายของมนุษย์บางคนว่าสุกสกาวดั่งดวงดาวโดยแท้ เพราะยามใดที่ดวงดาราหรือดาริกายฉายย่อมข่มเดือนเสี้ยวให้มัวหมองได้เช่นกัน ดวงดาวยังได้ผูกโยงความเชื่อของผู้คนบนโลกใบนี้มานมนานนัก ด้วยมีความเชื่อว่า ในทุกๆคนนั้นมีดวงดาวแห่งชีวิตสัมพันธ์อยู่ ดวงดาวมักมีอิทธิพลต่อการดำรงค์ชีพเสมอ หากตกอัพอาภัพโชคยังบ่งถึงว่าเป็นเหมือนดาวพระศุกร์เข้าดาวพระเสาร์แทรก หรือยามเปล่งปลั่งก็เหมือนดั่งดวงดาวที่ทอสุก นักแสดงในโลกมายา ยังเรียกตัวเองว่าดารา ซึ่งการเป็นดาราย่อมมีทั้งคราวตกอับดับแสง หรือคราวสุกสะกาวดุจดาวรุ่ง เช่นกัน ดวงดาวในท้องฟ้าจะมีกี่มากน้อยย่อมเกินกว่าที่ใครๆจะนับจำนวนได้ เวลาพบดาวหางหรือดาวผีพุ่งใต้ ที่ในความเชื่อว่าเป็นดาวที่รอการสิ้นสุดการส่องแสง และพร้อมจะไปจุติอีกภพใหม่ ในจังหวะแสงที่กระจ่างครั้งสุดท้ายพร้อมโค้งลงสู่เบื้องล่างนั้น เหมือนจะเป็นการสิ้นสุดเส้นทางเดินหมดสิ้นแห่งเชื้ออันไสวสว่างแล้ว ผิดกลับดวงดาวใดที่ทอไสวกระพริบ ย่อมเป็นที่สนใจแด่เหล่าผู้ชื่นชมมักมองด้วยจิตเสน่หา แลพร่ำพูดถึงให้รับรู้อยู่เนืองๆ ยามใดที่ข้าพฯทัศนาดวงดาวนอกเหนือจากที่ประสบพบในครรลองจักษุแล้วยังรับรู้อีกอย่าง ว่าชีวิตย่อมคล้ายดวงดาวเช่นกัน นั่นคือ มีช่วงั้โชติช่วงสะกาวพร่างฟ้า และในอีกด้านย่อมจะมีจังหวะร่วงหล่นดับแสงเช่นกัน ในเพลานี้ แม้นจะมีใครหรือไม่มีใครเป็นดาวเด่นหรือดาวดับ กิ่งโศกก็ขอเชิญชวนมาฟังบทเพลงเกี่ยวกับดาว อันแสนจะไพเราะเพราะพริ้งยิ่งนักเลยละครับ นักร้องรุ่นลายคราม คุณลุงสุเทพ วงค์กำแหง ครวญด้วยน้ำเสียงที่เขาว่ากันว่าขยี้ฟองเบียร์ (กิ่งโศก ก็ไม่ทราบว่าเป็นฉันใด 55) ชื่อเพลง ดาว ครับ เพลง ดาว นักร้อง สุเทพ วงค์กำแหง หื่ม..ฮื้ม...ฮืม ฮืม ฮื้อฮือ ฮื้อหื่อ ฮื้อฮื้ม โอ้ ดาว ไร้ราคีคาวช่างงามล้ำค่า ...เย้ยอื่นดาริกา อยากสอยดาวมา แนบใจ ..เฝ้า มอง หัวใจร่ำร้องเพียงมองฝันใฝ่ เฝ้า แต่ ตรมฤทัย หม่นหมองดวงใจ เศร้าซม ..รัก ดาว รัก ดาว ชั้นพรหม ...บุญจึง ไม่สม ต้องขื่นขม ตรม ทรวง ใน ..โอ้ ดาว ขอรักดาวจนชีวันหาไม่ ...ขอ โปรด ดาวเห็นใจ ...ชุบดวงฤทัยพี่ เถิดดาว ดนตรี 8 Bars...6...7... 8..รัก ดาว รัก ดาว ชั้นพรหม บุญจึง ไม่สม ต้องขื่นขม ตรม ทรวงใน ..โอ้ ดาว ขอรักดาวจนชีวันหาไม่ ...ขอโปรดดาวเห็นใจ ...ชุบดวงฤทัยพี่ เถิดดาว ..หื่ม ฮื้ม ฮืม ฮืม ฮื้อฮือ ฮื้อหื่อ ฮื้อฮื้ม กิ่งโศกคนยาก ฝากถ้อยร้อยบท...กาพย์ห่อโคลง.. ๏ กลางสกลสกาว ............ ดื่นแสงดาววับวาวเด่น บ้างเรียวโค้งลงเบน ........... ดับหรี่ร่วงจากสรวงลา ๚ะ๛ ๏ สกลกลางเกลื่อนย้อม ....... สกาว แลเด่นเร้นแดราว .............. ด่ำไล้ โชติรุ้งฮุ่งเฮืองหาว ............. ฮู้ห่ม หุ้มห่อทอเคล้าไคล้ .............. คลี่ถ้วนล้วนผืน ๚ะ ๏ ค่ำคืนดูตื่นคล้าย ...............หฤหรรษ์ กระพริบเฟื่องเปรื่องฝัน........ ปลั่งฟ้า แจ่มพรมข่มพรายจันทร์........ พรูจ่าง ทอขับจับโลมหล้า ............... เรื่อล้นเด่นเหลือ ๚ะ ๏ ผกายเรื่อเชื้อหรี่ ............... ดับแสง ดาวบิ่นดำสำแดง ............... บอดสร้อย ชีพระยิบมิแยง ............... หมดย่ำ มอดหยดหมดสิ้นย้อย .......... สบย้อนยอดิน ๚ะ ๏ ดาวขีนดวงขบด้วย ............ ลิขิต ไพล่มิพรากรมพิษ ......... พัดรื้อ ชะตาประเดียงปิด ........ โดยปลอด ล่วงเฮย ดำปรกยกย้ายยื้อ ....... ยากป้องคุ้มเศียร ๚ะ ๏ เล่าเขียนลิขิตร้อง ........ คำเรียง สื่อมิเหน็บแนมเสียง ...... เสียดผู้- ห้อมใดหากจักเผดียง ...... แจงดนุ นี้นอ จักด่อมแลค้อมคู้ ..... นบน้อมไหว้สา ๚ะ๛ + กิ่งโศก +