http://www.youtube.com/watch?v=z_uFShKa1mc http://mblog.manager.co.th/folkner/th-92663/
20 มีนาคม 2553 22:35 น. - comment id 28683
พวกขี้อิจฉาแบบไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ทำเยอะจังวะ อยากรวยอย่างท่านนายกทักษินก็ขยันหมั่นเพียร และทำความดีเยอะๆๆ มัวแต่ทำตัวโง่ๆๆขี้อิจฉาริษยาไม่รวยหรอก จนไปอีก ๕๐๐ ชาติ ฟันธง
21 มีนาคม 2553 02:13 น. - comment id 28684
ทักษิณมันนักการตลาดอยู่แล้ว เข้ายุคทุนสามานย์ไง อย่างคนอีสานวันนี้เห่อมีชื่อหรั่งปน ... ทักษิณ มอนเต .. พวกเสี่ยวที่คลั่งหลายกิ้บก้าบทั้งนั้นแหละ
21 มีนาคม 2553 05:22 น. - comment id 28686
พวกควายปากคาบโกเต็กซ์เปื้อนประจำเดือน มีปากก็พูดตามไอ้แป๊ะกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ จอมขมังเวททำเท่พูดว่าทุนสามานย์ แล้วไอ้พวกสะตอเน่าควายเหลืองมันเห่อประตูหลัง อย่างไอ้ปอ จอมมารถั่วดำสินะ เป็นเสี่ยว มันหนักหัวกะบาลพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ใครมากมายนักหนาหนอ
22 มีนาคม 2553 12:57 น. - comment id 28709
ที่นายเขียนน่ะมันหนักที่สวมหมวกเรา
22 มีนาคม 2553 18:11 น. - comment id 28719
รัฐบาลต้องอัดฉีดเบี้ยเลี้ยงกำลังพลห้าหมื่นคน (ตำรวจ 24,000 นาย ทหาร 26,000 นาย) เป็นรายจ่ายก้อนโต เพราะทหารตำรวจ 1 คน ที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ต้องได้รับเบี้ยเลี้ยงตามชั้นยศคนละ 180-300 บาทต่อวัน แถมคราวนี้ "รองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ" ยังขออนุมัติ ครม.จ่ายเบี้ยเลี้ยงเพิ่มพิเศษให้กำลังพลอีกคนละ 300 บาทต่อวัน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ทำให้กำลังพลได้รับเบี้ยเลี้ยง 2 เด้ง เฉลี่ยวันละ 500 บาทต่อคน!! การที่รัฐบาลใช้กำลังทั้งทหารตำรวจมากถึงห้าหมื่นคนปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เฉพาะเบี้ยเลี้ยงอย่างเดียวก็วันละ 25 ล้านบาทขาดตัว ถ้าม็อบชุมนุม 10 วัน ก็ต้องจ่ายเบี้ยเลี้ยง 250 ล้านบาท ถ้าลากยาวถึง 20 วัน ก็เป็นเงิน 500 ล้านบาท "แม่ลูกจันทร์" (ที่มา ไทยรัฐ, ,20 มีนาคม 2553)
22 มีนาคม 2553 17:44 น. - comment id 28731
แม้วขายชาติอะไรไปบ้าง มีสมบัติของโคตรพ่อโคตรแม่พวกเมิงอยู่กี่บาท ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เปื้อนประจำเดือน หนักที่สวมหมวก ก็เอาโกเต็กซ์ออก แล้วเอาปากคาบไว้สิ
22 มีนาคม 2553 18:26 น. - comment id 28744
พท.แฉ"จุรินทร์"ตั้ง เด็กปชป.วุฒิป.ตรี นั่งในสธ.กินเงินเดือน 4 หมื่นสูงกว่าซี 9 เฒ่ากร่าง | นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ภายหลังการยื่นหนังสือต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้จ่ายงบประมาณในการจัดจ้างของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 23 มีนาคมนี้ที่กระทรวงสาธารณสุข ขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเข้าไปช่วยความสะอาดกระทรวงสาธารณสุขด้วย ซึ่งหลังมีปัญหาเรื่องการทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งจนนายวิทยา แก้วภราดัย ต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ล่าสุดมีเรื่องฉาวโฉ่เกิดขึ้นในกระทรวงโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 18 มกราคม จากนั้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ได้จัดจ้างคนของตัวเอง 2 คนคือน.ส.ปราถนา คงนาค และนายจรัญ หอมเทียนทอง เข้าไปนั่งในตำแหน่งนักวิเคาระห์นโยบายและแผน ในสำนักงานรัฐมนตรี โดยได้รับเงินเดือนคนละ 4 หมื่นบาท แบ่งเป็นเงินงบประมาณจำนวน 3 หมื่นบาท และเงินนอกงบประมาณอีก 1 หมื่นบาท นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า มีข้อสังเกตว่า น.ส.ปราถนา อายุเพียง 28 ปีและจบกรศึกษาระดับปริญญาตรี แต่ได้รับเงินเดือนมากกว่าข้าราชการระดับซี 9 ในตำแหน่งผู้อำนวยการที่ได้เพียง 3 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าน.ส.ปราถนา เป็นคน จ.พังงา บ้านเดียวกับนายจุรินทร์ และเคยเป็นเลขานุการคณะทำงานผู้นำฝ่ายค้านในปี 2545- 2547 ซึ่งยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า เป็นคนพรรคประชาธิปัตย์ตั้งคนของตัวเองมากินตำแหน่ง ซึ่งเงินเดือนของทั้ง 2 คน สามารถนำไปตั้งเจ้าหน้าที่วุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอกได้ถึง 3 คน เรื่องนี้ทำให้ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขมีความอึดอัดอย่างมาก จึงยื่นเรื่องให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสอบเรื่องดังกล่าวคาดว่าไม่เกิน 15 วันน่าจะได้ข้อสรุป และในวันที่ 24 มีนาคมนี้ตนจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติคู่ขนานไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังทราบมาว่า ตัวเด็กเองได้รับเงินไม่ครบตามจำนวนที่จ่ายไป ถามว่าเงินทอนอยู่กับใคร นำไปใช้ในกิจกรรมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ผมมีหลักฐานใบเสร็จต่างๆ ชัดเจน ซึ่งพอนายจุรินทร์รับทราบก็เรียกประชุมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่โวยวายว่าเอกสารหลุดรอดออกมาได้อย่างไร ผมขอให้นายจุรินทร์ พิจารณาตัวเองในเรื่องนี้ด้วยการลาออกจากตำแหน่งเพื่อไม่ให้ภาพลักษณะของกระทรวงสาธารณสุขตกต่ำลงไปมากกว่านี้ นายพร้อมพงศ์กล่าว มติชน
23 มีนาคม 2553 19:17 น. - comment id 28751
++ คตส.จงสำเหนียกไว้ "เอ็กซิมแบงก์ยัน ไม่พบเสียหายปล่อยกู้พม่า" ++ ****************************************** นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบื้องต้นไม่พบว่าเอ็กซิมแบงก์ ได้รับความเสียหายจากการปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้แก่รัฐบาลพม่าในวงเงิน 4,000 ล้านบาท ตามมติครม.สมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนการชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่รัฐบาลได้จ่ายให้แก่ เอ็กซิมแบงก์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมารวมแล้วเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท จะถือว่าเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากรัฐบาลต้องเป็นผู้รับภาระส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการตีความของภาครัฐว่าจะตีความเป็นเช่นนั้นหรือไม่ เพราะอีกมุมหนึ่งสามารถมองได้ว่าการที่ไทยปล่อยกู้ให้พม่าในอัตราดอกเบี้ยต่ำนั้นถือว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือจากประเทศที่พัฒนามากกว่า ซึ่งอยู่ในหลักการหนึ่งขององค์การสหประชาชาติ (UN) "หน่วยราชการคงต้องดูว่า ความเสียหายที่ศาลพูดถึงนั้นหมายถึงอย่างไร ถ้ากระทรวงการคลังบอกว่าเป็นความช่วยเหลือตามหลักของ UN เพราะฉะนั้นก็ถือว่าไม่มีความเสียหาย" ด้านนายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) กล่าวว่า ในเบื้องต้นมองว่าไม่มีความเสียเกิดขึ้นแก่ เอ็กซิมแบงก์ จากการปล่อยกู้ดังกล่าว ******************************************
23 มีนาคม 2553 06:21 น. - comment id 28754
การแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมจะเป็นชนวนสำคัญในการปลุกกระแสต่อต้านรัฐ เช่นเดียวกับความรู้สึกที่ขมขื่นของคนไทยกับวิกฤติการเมือง ที่ไม่ได้รับการเยียวยาอย่างแท้จริง มีกลุ่มบุคคลที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากวิกฤติความขัดแย้งมากมายหลายกลุ่ม นักการเมือง กองทัพ นักวิชาการ สื่อสารมวลชน และคนกลุ่มน้อย ล้วนแล้วแต่ฉกฉวยหาผลประโยชน์จากวิกฤติของบ้านเมืองทั้งสิ้น โดยไม่มีสำนึกว่า ประเทศชาติ ประชาชน จะได้รับวิบากกรรมที่จะเกิดขึ้นในสถานใดบ้าง ประเทศจะต้องตกต่ำไปถึงไหน ฝ่ายหนึ่งยึดทหารยึดสื่อเอาไว้พึ่งพิง เอาใจกันสุดฤทธิ์สุดเดช จะกินจะนอนจะอยู่อย่างไร จะรับประทานไอศกรีม จะดูหนังกลางแปลงเรื่องอวตาร รัฐจัดหามาให้หมด ขออย่างเดียวให้สนองความต้องการของรัฐในการที่จะรักษาอำนาจทุกวิถีทาง แม้แต่จะใช้ให้ไปก่อวินาศกรรมก็ต้องทำได้ ฝ่ายหนึ่งพึ่งพิงมวลชนชั้นล่าง หรือที่เรียกว่าไพร่เป็นหลัก ชี้ให้เห็นช่องว่างของสังคม ระหว่างคนรวยกับคนจน ให้ผู้ที่แสวงหาอิสรภาพ เสรีภาพ และความเท่าเทียมได้มีโอกาสปลดปล่อย ที่เสียงส่วนใหญ่เจ็บช้ำน้ำใจอยู่ทุกวันนี้ นอกจากจะเอาเงินภาษีไปทำสงคราม แล้วยังถูกจับไปเป็นตัวประกันย่ำยีหัวใจอยู่ตลอดเวลา ถูกกดหัวให้อยู่แต่ในรูกระบอกไม้ไผ่. หมัดเหล็ก
23 มีนาคม 2553 19:32 น. - comment id 28763
@ไม่ว่าจะในทางใด ก็ไม่มีทางออกแบบ "วิน-วิน" ? เมื่อไม่ยอมยุบสภา คุณอภิสิทธิ์ก็ต้องทำอะไรสักอย่าง ที่ต้องทำก่อนเลยคือเรื่องเขายายเที่ยง ปิดสนามบิน ถ้าอยากได้รับการยอมรับ คุณต้องกล้าหาญ ผมถามว่า ก่อนที่คุณอภิสิทธิ์จะมาเป็นนายก คุณอภิสิทธิ์เคยทำอะไรสำเร็จบ้าง ไม่มีนะ เรียน เป็นอาจารย์ ก่อนเข้าพรรคประชาธิปัตย์ แล้วก็มาเป็นนายกฯ ไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานจริงที่สำเร็จเป็นรูปธรรม จึงไม่มีความกล้าที่จะทำ นอกจากนี้ เอาเข้าจริง ผมคิดว่าคุณอภิสิทธิ์หมดอนาคตทางการเมืองไปแล้ว คือเลือกผิด คนอย่างคุณอภิสิทธิ์ ท้ายที่สุดไม่ช้าก็เร็ว ต้องได้เป็นนายกฯ อยู่แล้ว ไม่มีใครกังขาเรื่องนี้ เขาเหมาะมาก ด้วยปัจจัยอะไรทั้งหมด ชาติตระกูล การศึกษา ผมไม่ได้แอนตี้อะไรคุณอภิสิทธิ์เป็นการส่วนตัว เขาตัดสินใจผิดอย่างเดียว คือตัดสินใจที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยวิธีการแบบนี้ ถ้าคุณรออีกสัก 3 ปี มันสง่างามกว่าเยอะ ตอนนี้ไม่ว่าจะแก้ตัวยังไง ก็ไม่มีใครลืมเลยว่าคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีที่เกิดจากรัฐประหาร @เช่นนั้น คุณอภิสิทธิ์ต้องทำอย่างไรเพื่อดึงความเชื่อมั่นประชาชน กรณ์ จาติกวณิช ขึ้นมาบอกว่าจะทำอะไร ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก แล้วตอนนี้อยู่ไหน คุณมีความกล้าจะผลักดันเรื่องพวกนี้รึเปล่า ผมพูดเล่นๆ อเมริกา คุณนึกชื่อเศรษฐีอเมริกาออกไหม นึกออก เยอะแยะ คนญี่ปุ่นล่ะ คุณนึกออกไหม ไม่ออก ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 อย่างจีนก็นึกออก ถามว่าทำไม ภาษีมรดกที่ญี่ปุ่นมันโหดร้ายมาก ไม่ว่าคุณรวยแค่ไหน คุณโดนภาษีมรดกย้อนหลัง 3 รุ่น กลายเป็นรวยเท่าคนธรรมดา คุณกล้าที่จะผลักดันภาษีประเภทนั้นออกมารึเปล่า ซึ่งผมคิดว่าทั้งคุณกรณ์ และคุณอภิสิทธิ์คงไม่มีความกล้าพอที่จะผลักดันเรื่องที่มันสำคัญจริงๆ และขัดแย้งกับผลประโยชน์ของคนชั้นตัวเองจริงๆ อย่างเหมือนโคอิซุมิ ตอนที่จะแปรรูปไปรษณีย์ญี่ปุ่น ถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน ผมจะลาออก แล้วออกจริงๆ แล้วตอนเลือกตั้งกลับมา เขาบอกถ้าผมกลับมา ผมจะต้องผ่านกฎหมายฉบับนี้ อย่างนี้ ความกล้าหาญทางการเมือง โอบาม่า ก็เหมือนกันในเรื่อง เฮลท์ รีฟอร์ม ว่าจะเอากฎหมายนี้ เอาให้ผ่านให้ได้ ถามว่าคุณอภิสิทธิ์มีความกล้าทางการเมืองแบบนั้นไหม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ท้า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ... คุณกล้าไหม ?? วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14:45:00 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
28 มีนาคม 2553 20:53 น. - comment id 28766
26 มีนาคม 2553 18:26 น. - comment id 28844
เพิ่งเห็น เพิ่งเห็น โอว สุดยอด ส่งต่อ ส่งต่อ เด็ด เด็ด แต่ ... สงสารคนเสื้อแดงที่นอนข้างถนนนะ เศร้า