.เจ้าช่อ.....ไม้ดอกเอ๋ย เจ้าดอกขจร นก ขมิ้น เหลืองอ่อน ค่ำนี้ จะนอนไหนเอย เอ๋ย นอน ที่นี่ เอย เสียงเพลง ที่แผ่วๆ ในท่วงทำนองยะเยือกเย็น ฟังดูสบาย โล่งๆ ยังไงก็ไม่รู้ เวลาฟังเพลงนี้ที่ไร ผสมกับความรู้สึกอ้างว้าง ปนเศร้า เพลงนกขมิ้น ที่เป็นเพลงเก่า ของสุนทราภรณ์ แต่กิ่งโศก ชอบ น้ำเสียง อรวี สัจจานนท์ เพราะนักร้องท่านนี้ คือน้ำเสียงที่เปล่งออกมา ดู มันจะออกแบบหมดโทนเสียง ไม่มีค้างในกล่องเสียง ( เป็นความชอบส่วนตัว ) กล่าวถึงนกขมิ้น เป็นนกที่ผสมผสานกันระหว่างนกแซงแซว กับ อีกา แต่นิสัยของนกขมิ้นนั้นแตกต่างจากนกทั้งสองชนิดอย่างสิ้นเชิง คือ แซงแซว กะ อี(คุณ)กา มักก้าวร้าว ไม่กลัวคน แต่นกขมิ้นกับชอบโดดเดี่ยว อยู่เงียบๆ แบบเดี่ยวๆ หือแค่คู่เดียว (ข้อมูลจาก วิกกี้พีเดียร์) มนุษย์เรามักมีการเปรียบเปรยเกี่ยวกับการร่อนเร่พเนจรหมอนหมิ่น ( น่าสงสัยทำไมไม่นอนให้เต็มหมอน) ของคนเรา โดยมักจะเปรียบเทียบกับสัตว์ปีก คือ นกขมิ้น ดูเหมือนนกชนิดนี้ จะรักความอิสระเสรี เหมือนดังพวกยิปซี กระนั้น? นกขมิ้น ใยเล่าจึงเป็นสัญลักษณ์ ของคนที่ไร้หลักปักฐาน ค่ำไหน นอนนั่นจริงหรือ หรือไปตายเอาดาบหน้า (ดาบนี้ขอไว้ก่อน 55) เพลงนกขมิ้นที่กิ่งโศก ชอบฟังอีก แนวหนึ่ง คือ สมยศ ทัศนพันธ์ ....โธ่เอ๋ย แม่นางนกขมิ้นเจ้ามาทิ้งถิ่นบินไปอยู่ไหนเล่าเอย..น้ำเสียงยานๆ เนิบๆ ดู ขลังดี อีกคน ก็ ก้าน แก้วสุพรรณ ก็มีบทเพลงเกี่ยวกันนกขมิ้น เช่นกัน สำหรับเพลงที่นำเสนอนี้ไม่แน่ใจว่า ต้นเสียง จะใช่คุณ จินตนา สุขสถิตย์ หรือ เปล่า มีคนเอามาร้องต่อมากมาย ไม่เว้นแต่ พี่เบิร์ด หุหุ แต่วันนี้เสนอในแนว ของพี่เล็ก อรวี ครับ เชิญสดับรับฟังได้.. เพลง นกขมิ้น ร้อง อรวี สัจจานนท์ ค่ำคืนฉันยืนอยู่เดียวดาย เหลียวมองรอบกายมิวายจะหวาดกลัว มอง นภามืดมัว สลัวเย็นย่ำ ค่ำคืนเอ๋ย ฮืม ยามนภาคล้ำไป ใกล้ค่ำ ยินเสียงร่ำคำบอก เจ้าช่อไม้ดอกเอ๋ย เจ้าดอก ขจร นก ขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำแล้วจะนอนไหนเอย เอ๋ยเล่า นกเอย อกฉัน ทุกวันเฝ้าอาวรณ์ เหมือนคนพเนจร ฉันนอนไม่หลับเลย หนาว พระพายที่พัดเชย อกเอ๋ยหนาวสั่น สุดบั่นทอน ฮืม ยามนี้เราหลงทาง กลางค่ำ ยินเสียงร่ำ คำบอก เจ้าช่อไม้ดอกเอ๋ย เจ้าดอก ขจร ฉันร่อนเร่ พเนจร ไม่รู้จะนอนไหนเอย เอ๋ยโอ้ หัวอกเอย บ้านใด หรือใครจะเอ็นดู รับรอง อุ้มชู เลี้ยงดูให้หลับนอน นก ขมิ้น เหลืองอ่อน ค่ำไหน นอนนั่น อกฉัน หมอง ฮืม ทนระกำช้ำใจ ยามค่ำ ยินเสียงร่ำ น้ำตก โอ้หัวอกเอ๋ย โอ้อก อาวรณ์ ฉันไร้คู่ ร่วมคอน ต้องฝืนนอน หนาว เอย เอ๋ย โอ้ หัวอกเอย เมื่อ มอง หมายปองก็แลเห็น หวิวในใจเต้น เหมือนเป็นเพียงแต่มอง เหมือน พบรัง จะครอง แต่หมองเกรงที่ หวั่นจะมีเจ้าของ ฮืม ฟังสำเนียงเสียงเพลง ครวญคร่ำ ใครหนอร่ำ คำบอก เจ้าช่อไม้ดอกเอ๋ย เจ้าดอกขจร นก ขมิ้น เหลืองอ่อน ค่ำนี้ จะนอนไหนเอย เอ๋ย นอน ที่นี่ เอย ดู เศร้า ปนโศก อะนะ เพลงนี้ ต้องฟังตอนเย็นๆ ค่ำๆ โดยนั่งอยู่บนหัวกะไดบ้าน แบบต่างจังหวัด เหม่อมอง ดวงอาทิตย์ ดวงโต สีแดง ที่กำลัง ลาลับเหลี่ยมขุนเขา....อ้า วิเวกแท้ ๏ กำสรวลครวญโศกสร้อย ........กระแส ว้าเหว่ไร้ใครแล.......................ปลอบร้อง ยามค่ำย่ำคล้อยแด-.................ด่ำดับ ชีพนา เหลียวเบิ่งใครเล่าป้อง.......ปิดเร้นรอไหว ๚ะ ๏ ไผ่โอนโยนกิ่งโย้........โยกกอ คล้ายคีตดีดเส้นซอ.........โศกซึ้ง ปล่อยใจไร้เพิกรอ.......พิลาป แยงโสตรดห้วงบึ้ง..........บ่มเร้าร่ำสราญ ๚ะ ๏ ยานสุรีย์ลับแล้ว......ฉายโลม เรืองเรื่อเจือพโยม.....ยกแต้ม รัตติมณีโสม...............รอส่อง ฉายอาบวิจิตรแย้ม....มืดสิ้นสำเริง ๚ะ ๏ นกเติ่งต่างคบไม้......เมียงคอย คูข่มไร้คู่หงอย..............เงียบข้าง ระหกระเหินผลอย.....ผละพราก คนยิ่งเกินเทียบอ้าง.....แอบสะอื้นขื่นขม ๚ะ ๏ บ่มใจใบ้จ่มเบื้อ ........เจือเบน เขียมจิตคิดเจียมเห็น......ขื่นห้วง ใครลบประคบเข็น.....ความหลาก ตนจึ่งต่างหลีกล้วง.....ลึกเร้นหลบหาย ๚ะ
18 มีนาคม 2553 21:40 น. - comment id 28636
เอาดอกไม้สวยๆมาฝาก ดูแล้วสบายตาครับผม
18 มีนาคม 2553 21:07 น. - comment id 28638
ไม่ได้ฟังเพลงนี้นานมากแล้วค่ะ เสียงของอรวี นี่ฟังกี่ครั้งก็เพราะ เสียงใสๆ เย็นๆ อืม... คืนนี้คงหลับฝันดีแน่นอนค่ะ ขอบคุณดีเจคนเก่งจ้า
18 มีนาคม 2553 21:23 น. - comment id 28640
เจ้านกขมิ้นไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ยมนี้เมิงนอนที่ไหน จิ้งที่เสาถามหา เจ้านกขมิ้นอัปรีย์หิต ทากฟันน้ำนมเมิงนอนในอุ้งตรีน รปภ.ประเทศสบายดีไหม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆชีวิตนกขมิ้น
18 มีนาคม 2553 21:32 น. - comment id 28641
ส่งเณรน้อยมารดน้ำมนต์ให้ครับผม
19 มีนาคม 2553 09:18 น. - comment id 28645
คุณแก้วประภัสสร ฟังเพลงของคุณอรวี แล้วอิ่มครับ ผมว่าอิ่มในอารมณ์ แม้นว่าจะเอาเพลงเก่ามาร้องใหม่ ครูเพลงหลายคน ก็ให้การยอมรับ คุณอรวี ว่าถ่ายทอดเพลง ด้วยน้ำเสียง ที่ ไม่ติดที่จมูก(นาสิก) มันเหมือนเสียงที่ส่งมา 100 ที่ต้นทาง ปลาย ทาง ก็ ออก มา 100 เช่นกัน มาช่วยกันฟังนะครับ
19 มีนาคม 2553 07:53 น. - comment id 28646
เจ้านกขิ้นเหลือง เจ้าเร่ร่อนไปนอนตามค่ายทหาร เวรกรรมตามทันเพราะหนีทหารเหรอ
19 มีนาคม 2553 09:24 น. - comment id 28647
คุณรากหญ้าป.๔ ( ไม่มีเส้น) ดีแล้วครับที่แวะมาฟังเพลง เพราะบทเพลงนั้น จะว่าไปเป็นยาชนิดหนึ่ง เป็นยาที่รักษา ความโกรธ โมหะ แห่งจิตได้ดี เหมือนกับ ความกระด้างของแผ่นผา เวลาถูกชโลมด้วยไอหมอก เวลาพิศ นั้น กับดู อ่อนนุ่ม ประหนึ่งปุยนุ่นฉะนั้น ดีแล้วที่แวะมาฟังเพลง แม้นจะมีการเหน็บแนมด้วยถ้อยคำเหล่านั้น เพียงแต่คนอื่นไม่ถือสา นั่นยิ่ง ลดความพลุ่งพล่านในใจไปได้ดี บทเพลงนี้ ..นกขมิ้น บอกแล้วว่า เป็นตัวแทน ของคน ที่ร่อนเร่พเนจร คงไม่ใช่เฉพาะ นายยกอภิสิทธิ์ หรือ อดีตนายก ทักษิณ หรอก ..มันหมายถึงทุกคน ถือโอกาส ตอบ สองกระทู้เลย หวังว่า ท่านคงมีรอยยิ้ม เพิ่มที่มุมปาก นะขอรับ...
19 มีนาคม 2553 09:29 น. - comment id 28648
คุณนกหงษ์หยก ชื่อตรงข้ามกะนกขมิ้นเลยนะครับ คงไม่ต้องกวาดน้ำคว่ำขันหรอกครับ หุหุ เราเพียงแต่ เข้าใจผู้อื่น เท่านั้น รู้ ในภาวะที่เขาเผชิญ อยู่ แล้ว มองด้วยจิตที่ ไม่ใช่อริ นั่นก็พอแล้วครับ ขอบคุณดอกไม้ สวยๆ งามๆ ที่จริงอยากได้ทั้งสองสีนะ สีแดง และเหลือง เพราะสองสีนี้ คือ สองในสามของแม่สี ..เมื่อเช้าเปิดฟังเพลงมาตลอดเกือบหนึ่งชั่วโมง ที่ขับรถมาทำงาน.. ฟังเพลง ของคุณไพโรจน์ วงค์จันทร์ เพลง ครู ฟังแล้วกินใจมากเลย ..แสงเรืองๆ ที่ส่องประเทือง อยู่ทั่วเมืองไทย คือชอบในเนื้อหา ชอบในน้ำเสียงคนร้อง เป็นนักร้องหญิง...คนเดียวกระมังครับ ที่หาคนเลียนเสียง ..ไม่มีเลย ขอบคุณนะครับ
19 มีนาคม 2553 09:55 น. - comment id 28650
ชอบคุณอรวีตั้งแต่ร้องอยู่วงเยื่อไม้ เสียงหวานเย็นจริงๆ เพลงปาหนันค่ะ ชอบมาก รวมทั้งเพลงอื่นๆด้วยค่ะ
19 มีนาคม 2553 10:17 น. - comment id 28651
เยี่ยมมากๆเลยปู่ นกพลัดถิ่น
19 มีนาคม 2553 10:52 น. - comment id 28654
คุณน้ำตาลหวาน คุณอรวี โด่งดังมาจากวงเยื่อไม้..แสดงว่า คุณพิม เกิดทัน 55 เมื่อก่อนตอนร้องเพลงใหม่ ยังสาวและสวยแบบหวาน ไทยๆ อะ นะ ชุดหลังๆ ที่เอามาร้อง ค่าควรเมือง อะไรพวกนี้ ยังน่าฟังอยู่มาก นักร้องรุ่นหลัง ๆ กิ่งโศก อาจไม่ค่อยได้ฟังเพราะ วิวัฒนาการ ของ บทเพลง มันดู แข็งๆ กระด้างไป เนื้อหา ก็ งั้นๆ นักร้อง เสียง ก็พอไปวัด ตอนแดดจัดได้..แต่ ต้องหล่อ ต้องสวย .. เด๋วนี้วัดกันด้วยหน้าตา เอาเสียงดนตรีกลบ ก็ดังได้ แต่อย่างว่านะครับ .. ชีวิต มันย่อมไม่หยุดนิ่ง ทุกสิ่งต้องเคลื่อนไปแบบ....พลวัตร. ขอบคุณที่ยังติดตามครับ
19 มีนาคม 2553 10:57 น. - comment id 28655
คุณเฌอฯ ธรรมชาติคงกำหนด ไว้แล้วแหละ คนเรามักเปรียบ พฤติกรรม ของคนเหมือนสัตว์ปีก บ้าง ก็ว่าเรื่องชนชั้นวรรณ ที่ปัจจุบัน คงมีแต่อินเดีย เท่านั้นที่ยังมีอยู่ ชั้นสูง.....เรียกว่าหงส์ ชั้นต่ำ....เรียกว่า อีกา แบบเร่ร่อน....นกขมิ้นนี่แหละ นกขมิ้น มีหลายชนิด . แต่วัฏจักรของนก ไม่มีอะไรมาก ไม่เหมือนคน..นะ เพราะคนมักจะมีเงื่อนไข มากมาย โดยเงื่อนไข มักจะ เป็นในเรื่อง อัตตา เป็นหลัก แม้แต่กิ่งโศก เอง ก็ยากจะหลีกพ้น.. อยากเป็นนก...หวังจะโผบิน
19 มีนาคม 2553 13:17 น. - comment id 28657
เขียนเก่งจังค่ะ ... เพิ่งสมัครสมาชิกวันนี้แหละค่ะ แต่ อ่านของแต่ละท่านแล้ว ชักอยากถอย .............แย๊ววว ค่ะ
19 มีนาคม 2553 13:38 น. - comment id 28658
เจ้าดอก ขจร นก ขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำแล้วจะนอนไหนเอย (ค่ำไหนนอนนั่น)...
19 มีนาคม 2553 13:46 น. - comment id 28659
คุณกิ๊กระพินทร์ ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ จ้า .. ฝีมือระดับ like2 hear แล้ว จะกลัวอะไร รีบลงเลยกลอน ..ลงตรงมุมกลอนเลยนะ
19 มีนาคม 2553 13:48 น. - comment id 28660
คุณแกงฯ มาฟังเพลง แบบให้สบายอารมณ์กันนะครับ เวลาเรามองเห็นนก ที่บินอยู่บนท้องฟ้า ดูเหมือนเรานะอยากเหินลอยเช่นนั้น ดูมีความเป็นอิสระ เสรี ..อยากไปไหน ไป ..แต่ เราจะรู้หรือเปล่าหนอ...ว่าเจ้านกนั้น มันสุขหรือเศร้า
19 มีนาคม 2553 13:54 น. - comment id 28661
....... ค่ำนี้จะนอนที่ไหนเอย ตอบ นอนที่ถนนราชดำเนิน หรือนอนที่ดูไบ
19 มีนาคม 2553 14:16 น. - comment id 28662
คุณนกกาปูดตาแดง น้ำแห้งก็ตาย ฟังชื่อนึกถึงเพลง นี้เลย 555 อู๊ด ๆๆๆๆๆๆ นกกาปูด .. ในมนต์รักลูกทุ่งนะ โห..สงสัยกลัวกิ่งโศกงานน้อยนิ ..เหอๆๆๆๆ นกขมิ้น คงไปทั่วถิ่นแหละจ้า ..เคยเที่ยวท่องไปหลายถิ่น เหมือนนกขมิ้นเหลืองอ่อน ..ค่ำลงก็นอน ไม่เคยร้อนกาย...( ราชดำเนินคาดว่าคงร้อนแง๋มๆๆ )
19 มีนาคม 2553 14:45 น. - comment id 28663
18.......... อ่านชิ่อดีๆดิเฮีย นกกระปูดตาแดง น้ำ แห้ง ก็ไม่ตายยยยยยย
19 มีนาคม 2553 15:12 น. - comment id 28664
ไข่ๆๆๆ
20 มีนาคม 2553 11:02 น. - comment id 28674
...( ราชดำเนินคาดว่าคงร้อนแง๋มๆๆ ) ทนได้เพื่อเงินเจ้าค่ะ
21 มีนาคม 2553 10:09 น. - comment id 28682
ลุงจุด ..หุหุ อันนี้คงคอเพลงเก่าขนานแท้เลยนิ.. เพลงธานินทร์ ..กิ่งโศก ก็เคยฟังนะ นั่งมองฟองเบียร์ อิอิ ส่วนนกนรก หุย ใช้คำซะ นกตัวนั้นมิสะดุ้งไปแปดตลบ ตีลังกา ใส่ ท่าบิดเกลียวอีก 555 ปักษีนรกร้อง.......แดนไกล จากถิ่นบินด้วยภัย...ที่สร้าง นกแสกสิร่ำไร......คอยท่า รับส่งกระทะง้าง...นรกห้วงทองแดง
21 มีนาคม 2553 02:26 น. - comment id 28685
ฟังเจ้าของเสียงเเผ่นเสียงทองคำ..ธานินท์ กับนัยน์ตาเศร้า เสียงโศก ...ดีกๆ รู้สึกยิ่งกว่าเดือนดาวดับลับไปเสียอีกนะนี่ ลองฟัง ๆๆๆ ... ...แต่อ้ายนกผีนรกตกคอน ตอนนี้โซเต็มที ม่ายสนดีกว่า เสียอารมณ์เพลง....
22 มีนาคม 2553 02:03 น. - comment id 28689
บทเพลงเจ้านกขมิ้นนี้ ยังจำได้ค่ะ สมัยก่อนคุณย่า ท่านกล่อมให้นอน ถ่ายทอดมายังคุณแม่ อิอิ....แต่มารุ่น คุณลูกอย่างปราง สงสัยต้องกล่อมด้วย เพลงใจเอย ของมาช่า เอ...หรือต้องกล่อมด้วยนกกระปูด...ดี แต่จะว่าไป เพลงบทไหน ๆ ก็ดีค่ะ ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก.... กับบทนี้ยังใช้ได้เสมอนะคะ
21 มีนาคม 2553 09:56 น. - comment id 28693
คุณนกกาปูด ตัวนั้น .55 พี่กิ่งขออำภัย จ้า..แบบว่า ตาเริ่มฝ้าฟาง อิอิ....ไม่ตายก้อไม่ตายจ้า ๐ น้ำลงเดือนยี่ย้ำ.....ขอดคลอง กระปูดกระจ่องหงอง....พะงาบแง้ ร้องอูดอู๊ดคอพอง......น้องพี่ ช่วยนา หอยกบปูปลาแย้......ย่างเยี้ยพะเยิบคอ.. หุหุ
21 มีนาคม 2553 09:57 น. - comment id 28694
คุณแก้วประภัสสร สงสัยต้องไปขอไข่เจียวทานแล้วแระนี่ อิอิ ได้ไปหลายฟองแล้วอะนะ
21 มีนาคม 2553 10:03 น. - comment id 28695
คุณใจปลายทาง สวัสดีน้องอ้อม ..มีคำพูดของคนสมัยก่อนว่า เงินย่อมง้างยกฟ้า....เคลื่อนภู- เขาเฮย เงินปิดชั่วซ่อนรู......หลืบเร้น เงินงัวยั่วขยับถู......จตุบาท เงินชั่วปิดปากเน้น....สนิทเอื้อนเฝือ่นคำ.
21 มีนาคม 2553 14:44 น. - comment id 28697
22.......... ลุงจุดมาทำไรๆๆๆ เดี๋ยวเบียร์ละลายหมดนา ไม่เย็น อิอิ
21 มีนาคม 2553 20:29 น. - comment id 28700
นานทีจะได้เข้ามาพักจิตวิญญาญที่บ้านกลอนแห่งนี้ครับ ผมบอกตรงๆ ว่าหลงรักกระทู้เพลงเก่าของพี่กิ่งโศกเสียหมดหัวใจแล้วครับ นึกๆ อยู่ว่าจะมีมิตรรักนักลอนผู้ใดบ้างเนาะครับที่ดื่มด่ำกับลำนำเพลงได้ พี่กิ่งโศกคือตัวจริงครับผมฟันธง! เข้าไปติดตามอ่านทุกกระทู้เพลง "ลำนำนกขมิ้น" ทำให้อารมณ์บรรเจิดเลยครับ ขออนุญาตวางกลอน "ธรรมะจากนกขมิ้น" ไว้อ่านแกล้มโคลง ด้วยครับอาจจะงามไม่เท่าโคลง หากมิติของแก่นแท้นั้นคงไม่ด้อยไปมากนักครับ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem133831.html ลำนำนกขมิ้นจับกิ่งโศก (The Homeless Bird) ลำน้ำน่าน สุริยามาทักทุ่ง...................ปรุงลำนำร่ำพฤกษา ไม้ดอกพะเนินนา..............ผลิวิญญาณรับแรกวัน พนาโพระดก......................ปลุกกานกบินผกผัน เจื้อยแจ้วจิบจำนรรจ์........กล่อมเนาว์นาอยู่อาจินต์ โผผกสู่โลกหล้า..................แสงทอมากระทบถิ่น ข้าวหุงหอมรวยริน..............บ่มควันกลิ่นไล้หลังคา นกขมิ้นลารังนอน............. ทิ้งคบคอนร่อนเวหา โล้รวงข้าวกลางนา.............เกาะกิ่งส้มตรงเรือนไฟ ถิ่นฐานเป็นวานวัน.............มิยึดมั่นท้องถิ่นไหน วิถีชีวีไพร...........................พเนจรไปก่อนกาล บินเหนือเรียวรวงข้าว......เหมันต์คราวหนาวสังขาร เกาะกิ่งตลิ่งธาร..................นอนซบกายใต้ร่มไทร ครึ้มแสงสนธยา..................ปีกอ่อนล้าจะหาไหน ฝั่งฟ้าว่าแสนไกล...............ไปพลัดหลงจมน้ำตา รุ่งเริงกลับกล้าแกร่ง............ฝ่าลมแรงแหล่งเวหา ร่อนเรียบเพนียดนา........... ทับกระท่อมอยู่ดงดอน บ่ายน้อยคล้อยแดดจับ.........ตะวันลับเหลี่ยมสิงขร พบค่าคบเคยคอน................ใต่ร่มโศกวิโยคพลบ ครรลองคือครรไล...............ลิขิตไว้ใร้จุดจบ เลี้ยงลูกทุกคราครบ.............เลื่อนเรื่อยไปไม่จีรัง จากถิ่นแล้วทิ้งถิ่น...........ลืมหมดสิ้นร้อยความหลัง สิ่งใหม่ไกลรวงรัง..............รอให้ค้นบนไม่มี จรไปไร้ทิศทาง................ ไปอ้างว้างกลางวิถี สุขทุกข์คลุกฤดี.................ว่ายเวียนพบจบยลยิน เรี่ยวแรงเริ่มแปรผัน...........อีกค่ำวันต้องผกผิน ลมเอยรำเพยยิน.............พลิ้วกิ่งโศกเมื่อโลกแปร! ----------------------------- ประสบการณ์ดูนกและผีเสื้อหน้าร้อน ณ เขาพะเนินทุ่ง เพชรบุรี นั้นยังฉายภาพชัด อยู่ในความทรงจำ คราวคิมหันต์หลายปีมา ผู้เขียนไม่เพียงเห็นแต่นกที่เกาะอยู่ตรงหน้า.. หากเวลาที่เรานั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นห้วงเวลาที่ส่งเสริมให้เกิดจิตมีปัญญา มองเห็นความเป็นไปแห่งวิถีธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ใบไม้ ต้นไม ทุกๆ สรรพสิ่งบนโลกนี้ ล้วนตกอยู่ภายในกฎแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่มีสิ่งไหนเป็นของเราแม้แต่สิ่งเดียว แม้แต่ลมหายใจเข้าออก... ทุกอย่างเกิดขึ้น เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย แหละชวนให้ประหวัดถึงวัจนะภาษา ของนักปฏิบัติธรรมผู้หนึ่ง กล่าวไว้ว่า... **เมื่อเรายอมรับว่า สิ่งปรากฏอยู่ข้างหน้าของเราเปลี่ยนแปลงได้ ความยึดมั่นถือมั่นในโลกของเราจะคลายลง เหมือนกับเวลาที่เราดูหนัง เวลาที่เราอยู่ในโรงภาพยนต์ เราจะเห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่นั้น เป็นเพียงภาพมายาเท่านั้นเอง ไม่ใช่ของจริงจังที่เราควรจะยึดถือไว้ ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าฝึกมองสิ่งที่เห็นอยู่ข้างหน้านั้น เป็นปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เราจะพบว่าเราจะไม่เอาจริงจังกับสิ่งนั้น จนเป็นเหตุแห่งทุกข์ ความจางคลายในโลกนี้ เราสามารถทำได้ในทุกๆ ขณะที่มี** เวลาของแต่ชีวิตนั้นสั้นนักสั้นหนาแค่วันนี้พรุ่งนี้ เราจะมีเวลาในการเข้าใจกฎความจริง มากน้อยแค่ไหน? **ยามนี้เราหลงทางกลางค่ำ ยินเสียงร่ำคำบอก เจ้าช่อไม้ดอกเอ๋ย เจ้าดอกขจร....... นกขมิ้นเหลืองอ่อน คำนี้จะนอนไหนเอย!** ฤานกขมิ้นจะรู้สัจธรรมข้อนี้ดีกระมัง **ไม่ยึดมั่น ไม่ถือมั่น** ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์ วันอาทิตย์ที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
21 มีนาคม 2553 21:29 น. - comment id 28703
ฉางน้อย มาแซวไรลุงจุด อิอิ มาขัดจังหวะ..ลุงจายกแก้ว อิอิ
21 มีนาคม 2553 21:32 น. - comment id 28704
คุณลำน้ำน่าน นับว่าเป็นเกียตริยิ่ง ครับที่นำบทลำนำ นกขมิ้น ที่บรรยายถึงชีวิต ความเป็นธรรมชาติให้ได้เห็นกัน หุหุ แหม..อย่าเพิ่งฟันธงครับ กิ่งโศก อาศัย พื้นเพ คนชนบท มากกว่าครับ จึงซึมซับ บทเพลงเก่าๆ โดยมองถึงความสวยงามทางภาษา จินตนาการณ์ ตลอดจน การเล่าเรื่องเหตุการณ์ ในอดีตให้ฟัง .จะพยายาม สรรหาเพลง ที่ตัวเองชอบ อิอิ มานำเสนอเผื่อมีคนคอเดียวกันนะครับ
22 มีนาคม 2553 13:48 น. - comment id 28710
คุณปรางทิพย์ .. ขอบคุณที่เข้ามาแจมกระทู้นะครับ พระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่6 ถือว่าเป็น อมตะไปแล้วครับ บทเพลง บางทีก็ปรับเปลี่ยน อะไรๆ ได้ตั้งมากมายครับ ขอบคุณมากครับ
25 มีนาคม 2553 09:05 น. - comment id 28817
อ้า ได้อรรถรสดีจัง เจ้านกขมิ้นเอย.. ขอคารวะ1 ไหขอรับ ..
25 มีนาคม 2553 14:47 น. - comment id 28825
คุณแสงเหนือ อิอิ..เมาแน่เลยตั้งไห..อะนะ ต้องขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ