รายแรกเป็นของผู้กำกับสมเพียรฯพิทักษ์ไทยประชา ครั้งแรกท่านหลั่งน้ำตา ครั้งหลังท่านหลั่งเลือด ก็ขอบันทึกไว้ว่า รัฐบาล ปชป.ยุคอภิสิทธิ์ฯนี้ สภาอุตสาหกรรมก็ออกมาบอกว่าเรียกถึง20-25% สูงสุดในทุกรัฐบาลที่เคยมีมา ตำแหน่งผู้ว่า ตำแหน่งตำรวจ ก็เอาและเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ตำรวจ(นี่ท่านสมเพียรฯพูดเอง)ในการแต่งตั้งโยกย้าย ก็คงสมใจทหารและประชาชนที่เชียร์อยู่ว่านี่คือรัฐบาลที่ดีในสายตาของท่าน รายสอง นปช.กรีดเลือดเพื่อชโลมทำเนียบ ปชป.และบ้านนายกฯอภิสิทธิ์ฯ ก็จะเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของเมืองไทย แต่ก่อน ปชป.เป็นฝ่ายค้านดีและต่อต้านทหารดี แต่พอทักษิณฯทำการเมืองด้วยระบบธนาธิปไตย ทุกพรรคแพ้ ปชป.จึงต้องอาศัยทหารและ พันธมิตรช่วย เมื่อนั้นตัวเองตายไปไม่รอด พันธมิตรเสื้อเหลือง ดี ในแง่ตรวจสอบนักการเมือง เช่นทักษิณฯ แต่ทหารเล่าใครจะตรวจสอบ ในเมื่อ ปชป.โดดไปให้อุ้มเสียแล้ว นปช.เสื้อแดงจึงเป็นคำตอบในแง่การตรวจสอบทหาร ฝ่ายทหารและ ปชป.และเสื้อเหลือง การโดนกลยุทธ์"จั๊กจั่นลอกคราบ"ของทักษิณฯน่าจะทำให้ถึงกับแพ้ได้ในฝายอำมาตย์ ขนาดตามยุบพรรค2ครั้ง ตามตัดตอนฐานการเงิน4หมื่นกว่าล้าน"ยังเอาไม่อยู่" นี่จะตรงกับภาษิตไทยที่ว่า"เงินง้างเหล็กได้ดังใจ"แล
18 มีนาคม 2553 03:42 น. - comment id 28482
หมอจริงเขาอุตส่าห์หาข้อมูลมาให้อ่าน อ่านบ้างล่ะหมอดี(ไม่แท้)
17 มีนาคม 2553 14:36 น. - comment id 28609
เผยพราหมณ์ นปช.อุปโลกน์ตัวเอง ไม่เคยบวชแถมทำตัวเสื่อมเสีย อ้างพ่อเคยทำงานในวัง “พระราชครูวามเทพมุนี” ชี้ ถูกขับจากโบสถ์พราหมณ์นาน 20 ปีแล้ว พร้อมแจงเทเลือดสาปแช่งไม่ใช่วิถีพราหมณ์ ส่งผลร้ายไม่เป็นมงคลกับเจ้าของเลือด เตือน “ทักษิณ” อยู่ในศีลในธรรมจะเป็นมงคลกับตัวเองมากกว่า วันนี้ (17 มี.ค.) พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ กล่าวถึงการที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงทำพิธีนำเลือดมาเทที่ทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และบ้านพักนายกรัฐมนตรี ว่า จากที่ได้เห็นการกระทำดังกล่าวนั้น คิดว่า เป็นการทำพิธีที่ไม่ใช่การกระทำในวิถีของพราหมณ์ เพราะการนำเลือดคนมาเททิ้งนั้น เป็นการไม่ให้เกียรติ การให้เลือดคนมาหนึ่งหยด ก็มีคุณค่า แต่กลับนำมาเทด้วยความอาฆาตมาดร้าย หรือ สาปแช่งด้วยวิธีต่างๆ จึงไม่ใช่วิถีพราหมณ์ที่จะปฏิบัติ ซึ่งวิถีของพราหมณ์ คือ การส่งเสริมความสงบ ความสุข สันติเกิดขึ้นในจิตใจ ส่วนการที่ นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ ผู้ที่แต่งกายเป็นพราหมณ์นำประกอบพิธี และได้มีการอ้างตนว่ามีพ่อเป็นพราหมณ์หลวงในสำนักพระราชวังนั้น ความ จริงแล้วเขามีเชื้อสายพราหมณ์ แต่พ่อเขาไม่ได้ทำงานในวัง และไม่ได้เป็นพราหมณ์ของสำนักพระราชวัง แต่เคยมาอยู่ในโบสถ์พราหมณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยได้มาทำพิธีที่ทำให้เสื่อมเสียและปฏิบัติตนไม่เหมาะสมจึงให้ออกไป เพราะฉะนั้น จึงไม่ถือว่าเขาเป็นพราหมณ์ อีกทั้ง นายศักดิ์ระพี ก็ไม่ได้มาบวชที่โบสถ์พราหมณ์แต่อย่างใด แต่ได้แต่งตัวและทำตัวเป็นพราหมณ์ขึ้นมาเอง พระราชครูวามเทพมุนี กล่าวต่อว่า ส่วนจุดประสงค์ที่ทางกลุ่มเสื้อแดงประกอบพิธีเพื่อความเป็นอัปมงคลของคนไทย และชาตินั้น เป็นวิธีที่เขาคิดขึ้นมาเอง และการกล่าวอ้างว่าเป็นอัปมงคลนั้นก็เป็นเรื่องจริง เพราะการที่นำเลือดมาเทลงพื้นและเดินเหยียบไปมา ไม่ได้เป็นมงคลกับชีวิต และตนเอง ซึ่งเป็นผู้กระทำก็จะต้องเดือดร้อน เพราะความรู้สึกอาฆาตมาดร้ายที่ได้ทำแล้วเกิดความเสียหาย ในส่วนนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสารที่ผู้คิดและทำไม่ได้ให้เกียรติตนเอง และไม่ได้ให้เกียรติกับผู้ที่ให้เลือด ส่วนการตรวจสอบหรือเอาผิดกับผู้ที่อ้างตัวเป็นพราหมณ์นั้นคงจะไม่ตรวจสอบ เพราะคนพวกนี้มักมีการแอบอ้างอยู่ตลอด ดังนั้น การเป็นพราหมณ์ที่ดีก็จะทำแต่สิ่งที่เป็นมงคลยึดถือแนวปฏิบัติที่ดี สำหรับประชาชนทั่วไปจะมองว่าดีหรือไม่ดีให้ดูที่แนวคิดและการปฏิบัติ ส่วนการกระทำที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนหรือสาปแช่งผู้อื่นให้เกิด ความไม่สบายใจหรือหวาดกลัวก็ไม่ใช่พราหมณ์ที่ดี หัวหน้าพราหมณ์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ตนมองว่า กำลังสร้างความหวาดกลัวให้กับสังคม พยามนำไสยศาสตร์ นำสิ่งที่ไม่เป็นมงคล เข้ามาเชื่อมโยงทำให้คนหวาดกลัว รวมทั้งการกล่าวถึงภูตผีปีศาจ เปรตนั้น พวกนี้เป็นพวกที่ทุกข์ทรมานอยู่แล้วยังไปปลุกขึ้นมาเพื่อเอามาทำพิธี จึงทำให้คนพวกนี้ก็จะได้รับแต่บาปเพิ่มเสริมเข้าไปอีก ดังนั้น ขอให้ผู้ชุมนุมทุกคนชุมนุมอย่างสันติ ทำจิตใจและไปสร้างกุศลผลบุญให้มากขึ้นเพื่อที่จะไม่ต้องตกอยู่ในขุมนรก และเกิดความหวาดกลัว จิตใจหม่นหมอง หดหู่ นอกจากนี้อยากฝากว่า บาปเกิดได้ตลอดเวลา พระราชครูวามเทพมุนี กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้ชุมนุมอย่าตกเป็นเครื่องมือของใครบางคนที่อยากได้นั่นอยากได้นี่ และฝากไปยังผู้นำกลุ่มคนเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอให้ทำในสิ่งที่ดี แต่การจะถึงความดีได้นั้นจะต้องอยู่ในศีลธรรมอันดี อย่าสร้างบาปให้เพิ่มขึ้น ตนเองก็จะได้แต่ทุกข์ แต่ควรจะสร้างกุศลเพื่อเป็นมงคลกับตัวเองมากกว่า อนึ่ง นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ พราหมณ์ประจำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อ้างว่า ตนเป็นบุตรชายคนที่ 4 ของพราหมณ์แจ้ง พรหมชาติ พราหมณ์ราชสำนัก ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนพลชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ตัวเขาจะเป็นคนประกอบพิธีกรรมบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา รวมถึงการทำพิธีในวันที่ 12-14 มี.ค.ที่ผ่านมาด้วย